การได้เห็นดช.ลูอิส บุล วัย 12 ปี วิ่งเล่นได้เหมือนเด็กชายทั่วไปนั้น เป็นเรื่องที่พ่อและแม่ของเขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้อีก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัด และดำรงชีวิตอยู่ด้วยสมองที่ยังทำงานอยู่เพียงข้างเดียวเท่านั้น จากอาการภาวะสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส
ก่อนการผ่าตัด แพทย์ได้เตือนนางแมนดี้ และนายจอห์น บุล พ่อและแม่ของเด็กจากเมืองเฮเมล เฮมสตีดส์ แคว้นฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ว่า ผลจากการผ่าตัดอาจทำให้ลูอิส ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต หรือแย่กว่านั้นก็คือสมองของเขาอาจหยุดการทำงานไว้แค่อายุ 12 ปี เท่านั้น
โดยอาการดังกล่าวเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2007 ก่อนวันเกิดครบรอบ 9 ขวบของเขาเพียงวันเดียว เมื่อแม่ของเขาสังเกตเห็นอาการกระตุกบนใบหน้าซีกซ้ายของเขา ก่อนที่เขาจะล้มลงในเวลาต่อมา หลังจากเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์ ก็พบว่าลูอิสมีอาการภาวะสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้สมองซีกขวาของเขาบวมผิดปกติ ซึ่งนั่นมีผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะส่วนต่างๆทางซีกซ้าย ซึ่งนั่นส่งผลให้แขนและขาของเขาไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ตามปกติอีกต่อไป
จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009 แพทย์ได้แนะนำให้ทำการผ่าตัดสมอง เพื่อยับยั้งการทำงานของสมองซีกขวา ที่ประสบภาวะติดเชื้ออย่างหนัก ก่อนที่จะลุกลามไปยังสมองส่วนอื่นๆ และทำให้สมองทั้งหมดหยุดการทำงานไปอย่างถาวร ด้วยวิธีการ "ถอดปลั๊ก" สมองซีกขวา โดยที่ไม่ได้มีการผ่าตัดหรือเคลื่อนย้ายออกแต่อย่างใด และสมองข้างที่ไม่ได้ทำงานก็จะกลายเป็นเพียงชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งเท่านั้น
แม้ว่าหลังการผ่าตัดเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เขาจะไม่สามารถเดินได้ตามปกติได้ทันที อันเนื่องมาจากสมองซีกขวานั้น มีหน้าที่ควบคุมระบบการเดินของร่างกาย แต่ด้วยอายุที่ยังน้อยของลูอิส ทำให้เขาสามารถปรับสภาพการเดินได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และเข้าร่วมโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย และการพูดเสียใหม่ และแม้ว่าเขาจะยังขับรถไม่ได้ อันเนื่องมาจากทัศนะการมองเห็นภาพของตาซ้ายยังไม่ดีขึ้น และแขนซ้ายของเขายังคงอ่อนแรงอยู่ก็ตาม แต่กระนั้นแพทย์ก็คาดหวังว่า เขาจะสามารถดำรงชีวิตได้เหมือนคนปกติในเร็วๆนี้
โดยแม่ของเขากล่าวว่า "เขาไม่อายแผลเป็นเลย เขากลับภูมิใจกับมันด้วยซ้ำ"
สู้ๆ
ข้อมูลจากมติชนออนไลน์
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
