Daisypath - Personal pictureDaisypath Happy Birthday tickers

ทริปสิงคโปร์ 2-6 เมษายน 2559 : วันแรก

lozolozo



ทริปนี้วางแผนกันข้ามปี เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของลูกเจี๊ยบ และแม่กับพ่อก็ไม่เคยไปสิงคโปร์ แอร์เอเซียมีโปร คุณพ่อเลยจัดการจองบินไปกลับรวม 5 วัน 4 คืน หลังจากจองแล้วก็หาอ่านรีวิวไปเรื่อย ๆ เก็บข้อมูลกันไป ส่วนโรงแรมจองทีหลัง จากการอ่านรีวิว แล้วเอาโรงแรมที่สะดวกในการเดินทาง คือ V Lavender ซึ่งจะมีสถานีอยู่ติดกับโรงแรมเลย

สิ่งแรกที่ต้องทำคือพาสปอร์ต ของพ่อมีอยู่แล้ว ส่วนของแม่หมดไปนานมากแล้ว ก็เลยต้องไปทำพร้อมกับลูกเจี๊ยบตอนปิดเทอมกลางภาค ซึ่งพอดีมีสำนักงานหนังสือเดินทางอยู่ไม่ไกล อยู่ที่บิ๊กซี สุวินทวงศ์นี่เอง ไปแต่เช้า กรอกเอกสารเสร็จ รอเรียก รวมแล้วใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย

pass11

หลังจากนั้นถ้ามีเวลาก็อ่านรีวิว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรีวิวในพันทิปและสิงคโปร์แฟนคลับ พอเหลือเวลาอีก 2 เดือนก่อนไปก็เริ่มจัดระเบียบข้อมูล และวางแผนการเดินทางในแต่ละวัน จดข้อมูลการเดินที่สำคัญ ๆ ศึกษาแผนที่ MRT รวมถึง ข้อห้าม ข้อแนะนำต่าง ๆ รวมถึงขั้นตอนต่าง ๆ ที่สนามบิน การตอบคำถาม ตม เป็นต้น

และแล้วก็มาถึงวันเดินทาง ไฟล์ทบินของเราเป็นตอนบ่าย แต่เราก็ออกจากบ้านกันตั้งแต่ตอนสายๆ ไปถึงก็หาใบขาออกขาเข้าที่เคาน์เตอร์ แล้วก็มานั่งเขียนให้ครบ ก่อนเข้าไปด้านใน เข้าไปแล้วเราก็ไม่ทันได้ดูป้าย ไปต่อแถวตรวจสำหรับชาวต่างชาติซึ่งคิวยาวพอสมควร พอยืน ๆ มองซักพัก ก็เริ่มรู้ตัวย้ายไปอีกด้านสำหรับคนไทย ยืนและมองกล้อง ไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย

d1a

จากนั้นก็หาทางเดินไปเกทและมองหาร้านอาหารกลางวันกัน สรุปเลยไปกินกันที่ฟูจิ อิ่มอร่อยกันไป เสร็จแล้วก็ไปนั่งคอยที่เกทกัน

ฟูจิ

d1_01

d1_01a

d1_01b

รอจนใกล้เวลาก็ยังไม่เห็นเครื่องบินมาที่เกท และแล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเครื่องดีเลย์ไปประมาณ 45 นาทีได้ ก็รอต่อไปแล้วก็คิดว่าแผนที่เตรียมมาก็จะเลทไปด้วย เดี๋ยวค่อยว่ากัน

d1_01c

d1_02

d1_02a

พอขึ้นเครื่องไม่นานก็มีหูอื้อกันเล็กน้อย จากนั้นอีกสองชั่วโมงครึ่งเราก็ถึงสนามบินชางฮี ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสนามบินที่ได้รับรางวัลอันดับหนึ่งของโลกเลย

d1b

d1c

d1d

ลงเครื่องที่เทอร์มินอล 1 แล้วก็เดิน ๆ ๆ ทางเดินค่อนข้างไกล แต่มีทางเลื่อนเป็นระยะ ๆ จากนั้นก็ไปถึง ตม ผ่านไปด้วยดี เสร็จแล้วก็หยิบแผนที่ แผ่นพับต่าง ๆ ติดมาด้วย แล้วก็หาทางไปขึ้นรถไฟระหว่างเทอร์มินอล เพื่อไปเทอร์มินอล 2 ซึ่งจะมี MRT ให้เดินทางเข้าเมือง

d1_03

d1_03a

d1_04

d1_04a

d1_05

พอถึงเทอร์มินอล 2 แล้วก็เดินต่อไปตามป้าย Train to city ซื้อตั๋ว อีซีลิ้งค์สามใบ จากสถานี CG2 ต้องไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Tanah Merah(EW4) แต่...เราลงผิดด้านและขึ้นรถไฟผิดขบวนทำให้ย้อนกลับไป Pasir Ris(EW1)

ก็ไม่เป็นไรลงสถานีแล้วก็ย้อนกลับมาอีกทีถือว่าไปเที่ยว!! รถไฟฟ้าสิงคโปร์วิ่งเร็วกว่าที่เมืองไทยมาก แต่ละสถานีห่างกันพอสมควร พอย้อนกลับมาเราก็ไปลงสถานี Lavender(EW11) ชื่อเดียวกับโรงแรมที่เราจองเลย สะดวกมาก ๆ

d1_05a

d1_06

d1_07

ขึ้นจากรถไฟฟ้า เลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็ถึงโรงแรม เช็คอินเรียบร้อย( 4 คืน 746SGD) ก็ออกไปเที่ยวกันเลย ที่แรกที่จะไปคือเมอร์ไลออน พาร์ค อยู่ที่สถานี Raffle Place (EW14) แค่ 3 สถานีแต่ต้องเดินต่อกันเล็กน้อย เดินตาม ๆ เค้าไป ไปถึงคนก็เยอะมากและก็เริ่มเมื่อยกัน อากาศก็อบอ้าวด้วยเล็กน้อย

***ลง Raffles Place (EW14/NS26) ออก Exit H ไปโผล่ตรง Battery Road เพื่อเดินไป Merlion Park ขึ้นบันไดเลื่อนไปเดินเลี้ยวขวาตรงไปแล้วเลี้ยวขวาอีกทีจะเห็นวิวแม่น้ำข้าง Fullerton hotel ผ่านสะพาน Cavenagh Bridge เดินถัดมาอีกนิดจะเป็นสะพาน Anderson Bridge พอพ้นตึก Fullerton hotel จะเห็นวิวตึก Marina Bay Sands มายืนรอข้ามถนนเพื่อเดินลอดใต้สะพานไป Merlion Park***

d1_08

d1_08a

d1_08b

ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมากนัก ต้องหาที่นั่งพัก เพราะเราจะต้องเดินต่ออีกไกลพอสมควรเพื่อไปกินอาหารเย็นที่ The Shoppes @ Marina Bay Sands ระหว่างทางมีการแสดงเลเซอร์จาก Marina Bay Sand เดินไปดูไปก็ไม่มีอะไรมาก จากนั้นเดินข้าม Helix Bridge แล้วก็ลงไปชั้นล่างสุดมีศูนย์อาหาร คนเยอะมาก ๆ มื้อนี้ได้กินอาหารเป็นเซต แพงพอสมควร เป็นชุดข้าวมันไก่ + ผักราดน้ำมันหอย + น้ำซุปชามใหญ่มาก + ข้าว 2 จาน ปาไป 20SGD เลยคุยกันเล่น ๆ ว่า สงสัยค่าน้ำซุป 10 SGD ส่วนอีกชุดคือข้าวหมูแดง และทั้งสองชุดเป็นเนื้อติดกระดูก ทำไปทำมามีเนื้อไม่เยอะเท่าไหร่

d1_09

d1_09a

พออิ่มแล้วก็ได้เวลากลับ เดินไปขึ้น MRT Bayfront (DT16/CE1) ซึ่งทางเข้าสถานีอยู่ในห้างเลยแล้วมาต่อ MRT Bugis (EW12/DT14) เพื่อไป MRT Lavender (EW11)

d1_10

d1_11

d1_11a

d1_12

d1_12a

d1_12b

กลับถึงที่พักหมดแรงกันเลยทีเดียว จบไปสำหรับวันแรก เดินมาราธอนกันมาก ๆ

d1_13

d1_13a

***
1.สำหรับการเดินทางด้วย MRT เวลาเตรียมตัวว่าจะไปไหนให้จดสถานีปลายทางด้วย เพื่อความสะดวกในการขึ้นรถว่าจะต้องไปรอที่ platform ไหน เพราะในสถานีจะบอกว่า platform นี้จะไปสถานีปลายทางที่ไหน ถ้าจดแต่ว่าจะไปสถานีไหนต้องมาดูแผนที่อีก แต่ที่ platform ก็จะมีป้ายบอกให้สามารถเช็คได้

2.เวลาจะออกจากสถานี เราก็ต้องดูป้ายว่าจะไปไหน ที่ใกล้ ๆ ทางออกจะมีแผนที่ และตำแหน่งทางออกบอกไว้อย่างละเอียด

3.รถไฟแต่ละสีจะมีทางเชื่อมต่อกันทั้งระบบ สะดวกมาก แต่...ทางเดินเชื่อมก็เดินกันไกลพอสมควร
***

lozolozo



Create Date : 08 เมษายน 2559
Last Update : 12 เมษายน 2559 9:32:00 น. 1 comments
Counter : 753 Pageviews.

 
เที่ยวครอบครัว เลยเน้อ เคยไปมาแล้ว สิงคโปร์ Kl สนุกเหมือนกัน ตามสามีไปประชุม เดินทางสวัสดิภาพคะ


โดย: หน่อง IP: 94.23.252.21 วันที่: 8 เมษายน 2559 เวลา:17:35:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

YingLek
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




เรื่องราวของลูกเจี๊ยบเริ่มขึ้นตั้งแต่วันเด็ก ปี 2548 หลังจากคลอดแล้ว แม่ก็ได้เรียนรู้ว่าการมีลูกเป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์มาก ๆ ทำให้แม่ต้องอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกหลายเล่ม รวมทั้งเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน ๆ แม่ลูกอ่อน หลาย ๆ คน ซึ่งก็พบว่าพฤติกรรมในแต่ละวัยของลูกก็จะคล้าย ๆ กัน เม้าท์เรื่องลูกกันสนุกสนานมาก การเลี้ยงลูกเหนื่อยก็จริง แต่เมื่อแม่ได้เห็นพัฒนาการและรอยยิ้มของลูก ความเหนื่อยก็หายไปได้ในทันที

Group Blog
 
<<
เมษายน 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
8 เมษายน 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add YingLek's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.