Ransomware มัลแวร์เรียกค่าไถ่ ที่โหดเหี้ยม

เมื่อพูดถึงไวรัสคอมพิวเตอร์ บางคนอาจนึกถึงไวรัสที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติ เช่น เปิดโปรแกรมไม่ได้ หรือระบบปฏิบัติการทำงานช้าลง แน่นอนว่าสิ่งที่เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ก็คือการทำสำเนาข้อมูลเก็บไว้ก่อน และลงระบบปฏิบัติการใหม่ พร้อมติดตั้งโปรแกรม Antivirus ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ โปรแกรม Antivirus รุ่นใหม่ ๆ มักมีฐานข้อมูลไวรัสที่ค่อนข้างครอบคลุมทำให้สามารถตรวจจับไวรัสได้เป็นอย่างดี

สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าไวรัสคอมพิวเตอร์ ก็คือมัลแวร์ที่มีชื่อว่า Ransomware ซึ่งมีหลายชนิด และมีชื่อที่แตกต่างกันไป หากเราโดนมัลแวร์ประเภทนี้เล่นงานให้เตรียมทำใจไว้ได้เลยว่าข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจะไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์รูปภาพ หรือไฟล์เอกสาร

มัลแวร์จะทำการเข้ารหัสไฟล์เหล่านั้น และไม่สามารถเปิดได้ หากต้องการเปิดไฟล์ต้อง Email ไปจ่ายค่าไถ่ซึ่งมักเรียกเงินเป็นคลิปโต หรือเงินดิจิตอล อย่าง bitcoint ลำพังแค่ต้องจ่ายค่าไถ่เป็นเงินธรรมดาก็ลำบากอยู่แล้ว ยังมาเรียกเก็บเป็นเงินดิจิตอลอีกยิ่งยากไปกันใหญ่

เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าโอกาสในการได้ข้อมูลคืนนั้นแทบจะเป็นศูนย์ นี่คือความโหดเหี้ยมของมัลแวร์ชนิดนี้ ไฟล์ภาพไฟล์ง่านต่าง ๆ ของเราอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราทั้งหมดไม่ได้หายไปไหน แต่เราไม่สามารถเปิดมันได้ และหากเราไปทำการเปลี่ยนชื่อไฟล์ให้กลับมาเป็นแบบเดิมไฟล์นั้นจะเสียหายทันที

วันนี้ภัยร้ายบนคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ตนั้นมีให้พบเห็นได้รายวัน มัลแวร์ชนิดนี้สร้างความเสียหายแก่บุคคลก็ว่าร้ายแรงแล้ว แต่หากเป็นความเสียหายระดับองค์กรไม่ต้องพูดถึง เพราะการกระจายตัวของมัลแวร์ชนิดนี้ก็คือการเดินทางผ่านทาง Network โฟลเดอร์ไหนมีการแชร์ไฟล์ระหว่างกัน จะถูกมัลแวร์นี้เล่นงานก่อนไฟล์อื่น

เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราจึงต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอที่จะต่อสู้ และป้องกันมัลแวร์ชนิดนี้ ถึงแม้จะป้องกันไม่ได้ 100% หากเราเตรียมรับมือไว้ความเสียหายก็จะน้อยลง

คุณสามารถอ่านประสบการณ์ การโดนมัลแวร์เล่นงาน และการป้องกันมัลแวร์ชนิดนี้ได้ที่ลิงก์นี้ครับ https://bit.ly/33mWQBe คุณจะได้รับประสบการณ์ตรงจากคนที่ถูก Ransomware เล่นงาน และวิธีการป้องกันอย่างละเอียด

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2565		0 comments
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2565 9:26:37 น.
Counter : 702 Pageviews.
Share Tweet