แต่ไม่ได้มาตัวเดียว เพราะวันนี้จะมารีวิวพร้อมกับตัวสมูทโตะ อโล-อี หรือตัวว่านหางจระเข้
ซึ่งเราใช้ตัวนี้เป็นประจำทุกวันและใช้มานานมาก เป็นเจลว่านหางจระเข้ลูกรักเลยก็ว่าได้
แต๊!ไม่เคยหยิบน้องนางมารีวิวสักที เอาล่ะ วันนี้ได้ฤกษ์ล่ะเน๊อะ
ทั้งสองตัวก็จะมีหน้าตาก็จะประมาณนี้นะจ๊ะ
-
-
--
---
เลม่อน-ซี ซองเป็นสีส้มๆ เหลือง
อโล-อี ซองจะเป็นสีเขียว
ทั้งสองตัวจะมีฝาเปิด-ปิด ใช้งานง่าย ปริมาณสุทธิ50 กรัม ราคาซองละ 49 บาทเท่ากัน
(เราซื้อมาจากร้านเครื่องสำอางขายส่ง เลยได้ราคาที่ถูกกว่านี้)
มาดูเนื้อเจลและการซึมซับของทั้งสองตัวกัน....
เลม่อน-ซี : เจลจะมีสีออกส้มๆ กลิ่นเลม่อนเตะดั้งแหมบๆเรามาก ชอบนะ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่นดี
เนื้อเจลค่อนข้างข้นแต่พอเกลี่ยก็แตกตัวเป็นน้ำเกลี่ยง่าย ซึมไว
อโล-อี : เจลมีสีออกเขียวๆ กลิ่นหอมมมม แนวๆว่านหางจระเข้นั่นแหละ ชอบกลิ่นเหมือนกัน ได้กลิ่นแล้วสดชื่นดี
เนื้อเจลเหลวกว่าตัวเลม่อน-ซี แตกตัวเป็นน้ำเมื่อเกลี่ย เกลี่ยง่ายและซึมไวเช่นกันแต่ช้ากว่าตัวเลม่อน-ซีนิดนึง ดูชุ่มชื้นกว่าด้วย
ทดสอบกับเม็ดโฟม
จะเห็นว่าตัวเลม่อน-ซีเม็ดโฟมที่โรยลงไปจะติดน้อยกว่าตัว อโล-อี
จากที่สัมผัสด้วยมือเปล่าก็เห็นความแกต่างอยู่ว่าตัวอโล-อีมันเหนียวกว่า
แต่ไม่ได้เหนียวจนรู้สึกเหนอะหนะ(สำหรับเรา)และมันมีความชุ่มชื้นกว่าตัวเลม่อน-ซี มากกก
ความรู้สึกจากการใช้
ตัวว่านหางจระเข้เนี่ยที่ชอบเพราะเราว่ามันชุ่มชื้นดียิ่งแช่เย็นแล้วทานะ หืมมมมม สดชื่นมาก
เราใช้ตัวนี้ประจำแต่ใช้เฉพาะตอนเช้าทาตัวนี้ลงไปก่อนครีมอื่นใด เสมือนเป็นรองพื้นเลยก็ว่าได้
ใช้ไปเรื่อยๆเราว่าพวกรอยสิวมันดูจางลงนะ แต่ช้า เน้นใช้เพิ่มความชุ่มชื้นของหนังหน้ามากกว่า
ส่วนเลม่อน-ซี หลังจากที่ลองมาสองสามวันก่อนรีวิวมโนรึเปล่าไม่รู้ แต่เหมือนผิวมันดูกระชับ และหน้ามันช้า
ช่วงทีโซนและขอบจมูกที่ชอบมันก็มันน้อยลง ถือว่าทำได้ตามที่เคลมมา
แต่ก็ไม่รู้ว่านางจะสามารถตีหัวลูกรักอย่างว่านหางจระเข้ได้รึเปล่า อันนี้ต้องรอดูกันอีกที
อันนี้เป็นเพียงการรีวิวคร่าวๆเรื่องเนื้อครีมเท่านั้นนะคะ ใครอยากลองก็ลองดู ราคามันไม่แพง สอยมาลองดู
ถ้าใช้กับหน้าแล้วไม่โอเค ก็ใช้กับตัวก็ได้ ใช้ทาข้อศอก เข่าหรือแขน ก้นก็ได้เด้อ
เอาล่ะนะ ที่จะมารีวิววันนี้ก็เท่านี้แหละ ถ้ามีอะไรน่าสนใจอีกจะนำมารีวิวให้ดูกันใหม่จ้า
บ๊ายยยบาย