|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
30 ตุลาคม 2552
|
|
|
|
6 ข้อเหล็กสำหรับเลือกทำธุรกิจเครือข่าย
ข้อคิดสำหรับเลือกทำธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจเครือข่ายมีมากมายหลายบริษัท แล้วจะเลือกทำกับบริษัทไหนดี??? เพื่อนๆ ผมมีข้อคิดดีๆสำหรับคนที่คิดจะทำธุรกิจเครือข่ายนะครับ 6 ข้อเหล็กสำหรับเลือกทำธุรกิจเครือข่าย - ต้นทุน : การ
ลงทุนในการทำธุรกิจเครือข่ายนั้น ต้องเป็นการลงทุนที่ไม่สูง ธุรกิจเครือข่ายไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง และโอกาสที่เรา จะเชิญคนมาร่วมธุรกิจกับเรา มีมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับการลงทุน เช่น ถ้าการลงทุนในธุรกิจเครือข่ายนั้นๆมีการลงทุนสูง ก็อาจจะหาคนร่วมธุรกิจกับเราได้ยาก หรือไม่ก็อาจจะล้มเลิกกลางทาง เพราะสู้ไม่ไหวกับการลงทุนที่สูงๆ ควรเลือกการลงทุนที่ไม่สูง เพราะมันจะเกิดความเสี่ยงสูงตามไปด้วย. - สินค้า : สินค้า
ที่มีในธุรกิจเครือข่ายนั้น ต้องเป็นสินค้าที่ดี ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและคนทั่วๆไป สินค้าต้องมีมากพอ สำหรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและคนทั่วๆไป แล้วคุณภาพสินค้าต้องดีเยี่ยม และราคาสินค้าต้องเหมาะกับกำลังซื้อของ กลุ่มเป้าหมายและคนทั่วๆไป เช่น ถ้าสินค้ามีน้อย ก็จะทำให้ธุรกิจขยายตัวได้ไม่กว้าง อาจจะโดนใจคนบ้างกลุ่มเท่านั้น แล้วถ้าราคาสินค้าสูงเกินไป ก็อาจจะมีคนใช้สินค้าของเราน้อย เพราะไม่พอกับกำลังซื้อของคนบ้างกลุ่ม - ศูนย์กระจายสินค้า : ศูนย์
กระจายสินค้าต้องมีมากพอ สำหรับกลุ่มเป้าหมายและคนทั่วๆไป ต้องสะดวกต่อกลุ่มเป้าหมายและคนทั่วๆไป ลองคิดดู ถ้ากลุ่มเป้าหมายไม่สะดวกที่จะไปรับซื้อสินค้า อาจเป็นเพราะอยู่ไกลจากบ้าน โอกาสที่จะเกิดธุรกิจก็มีน้อยใช่ไหม เช่น ถ้าคนคนหนึ่งต้องการซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง แต่ศูนย์ กระจายสินค้าอยู่ไกลจากบ้าน แต่ข้างๆบ้านเขาก็มีสินค้าที่เขาต้องการอยู่ คุณคิดว่าเขาจะซื้อที่ไหน??? ใช่..เขาต้องซื้อข้างๆบ้านแน่นอน เพราะมันสะดวก และไม่ต้องเสียค่าน้ำมันรถด้วย - แผนดำเนินธุรกิจ : แผน
ดำเนินธุรกิจเครือข่ายนั้นต้องดีและง่าย ตำแหน่งแต่ละตำแหน่งที่ได้มาจะต้องไม่มีการปลด การรักษายอดต้องเป็นรักษายอดที่ไม่เกินความต้องการของเรา จงทำให้เกิดคลังสินค้าที่บ้าน แล้วรายได้ที่จะเกิดจากแผนธุรกิจนี้ต้องคุ้มสุดเท่านั้น เช่น ถ้าเกิดว่าแผนการตลาดมันยาก ก็จะมีคนร่วมทำกับเราน้อย การรักษายอดก็เหมือนกัน ถ้ามีการรักษายอดสูงๆ เกินความจำเป็น ไม่ได้เกิดจากความต้องการของเราจริงๆ มันก็อยู่ไม่ได้นาน สุดท้ายก็ต้องเลิกเพราะรักษายอดไม่คุ้ม - เงินปันผล : บริษัทปันผลให้เรามากน้อยแค่ไหน แล้วคะแนนแต่ละคะแนนได้มาต้องจ่ายมากน้อยแค่ไหน เช่น ซื้อ1฿ = 1คะแนน กับ ซื้อ10฿ = 1คะแนน แน่นอนต้องเลือก ซื้อ1฿ = 1คะแนน เพราะการปันผลบริษัทคิดจากคะแนนที่เราสะสมนะครับ สมมุติว่า ถ้าบริษัทต้องการให้สะสมคะแนน 1,000คะแนน แล้วปันผล 50% ภายใน1เดือน ถ้าเราเลือกแบบ ซื้อ10฿ = 1คะแนน เราต้องซื้อถึง 10,000บาท ถึงจะได้ 1,000 คะแนน แต่ถ้าเราเลือกแบบ ซื้อ1฿ = 1คะแนน เราซื้อไปแค่ 1,000บาทเอง ก็ได้ 1,000 คะแนนแล้ว ต่างกันมากเลย ส่วนปันผลก็ได้ 50%=500บาท เท่ากัน แต่แบบ ซื้อ10฿ = 1คะแนน ต้องลงทุนมากกว่าแบบ ซื้อ1฿ = 1คะแนน ไปหลายเท่าตัวเลยนะครับ
- ชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัท : ต้องเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีความมั่นคงมากพอ เพราะอาจจะเกิด 3ป ได้ คือ เปิดกิจการ ปรับเปลี่ยนกิจการ และ ปิดกิจการ
ในที่สุด นั้นก็หมายถึงเราก็ล้มไปด้วย ก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่อีก แล้วมันเสียเวลาและโอกาสไปเท่าไรแล้ว แต่ถ้าเลือกบริษัทที่มีความมั่นคงมากพอ ธุรกิจของเราก็จะยั่งยืนตลอดไป โดยที่เราไม่ต้องไปนับหนึ่งใหม่ และถ้าเลือกบริษัทที่ไม่มีชื่อเสียง และความมั่นคงมากพอ เราอาจหาคนร่วมธุรกิจกับเราได้ยาก อาจเป็นเพราะเขาไม่มั่นใจในบริษัทเรา กลัวโดนหลอกบ้าง อะไรหลายๆอย่าง แต่ถ้าเราเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียง และมีความมั่นคงอยู่แล้ว ใครๆก็รู้จัก ใครๆก็ไว้ใจ สบายใจได้ว่าจะไม่โดนหลอก แล้วธุรกิจของเราก็จะไปได้สวยขึ้น โอกาสทางธุรกิจก็จะเพิ่มขึ้น กลับสู่หน้าหล้ก
Create Date : 30 ตุลาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 14 ธันวาคม 2552 23:24:58 น. |
Counter : 368 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
nimadaao |
|
|
|
|