Review My Perfume น้ำหอมในกรุ


ความจริงนิกกี้ไม่เคยคิดที่จะรีวิวน้ำหอมเลย เพราะเป็นคนจมูกไม่ดี

แยกกลิ่นไม่ออก รู้แต่กลิ่นนี้หอมดี เข้ากับเรา จบ

แต่เรามีผู้ช่วยคนเก่ง คือเว็บไซต์ fragantica ที่ทำให้เรารู้ว่าน้ำหอมที่ใช้มีส่วนผสมอะไรบ้าง

เลยลองเขียนรีวิวสั้นๆ เกี่ยวกับน้ำหอมที่มีและใช้อยู่

น้ำหอมที่ชอบส่วนใหญ่จะเป็นตระกูลซิตรัสกับชาเขียว รองลงมาคือดอกไม้

กลิ่นที่ไม่ชอบเลยคือกลิ่นหวานๆ เช่น วานิลลา

น้ำหอมที่ใฝ่ฝันอยากซื้อคือ Jo Malone Blackberry and Bay

แต่เห็นราคาแล้วอยากเป็นลมตายในดิวตี้ฟรี

.................................................................................

ก่อนรีวิว ต้องขอย้ำว่า

1. ความรู้ไม่ค่อยมี และไม่มีน้ำหอมที่เค้าฮิตกันเท่าไหร่นะคะ

2. คำย่อว่า EDP EDT และ EDC คงรู้กันอยู่แล้ว แต่บอกอีกทีก็คงโอเคนะ

EDP = Eau de Parfume อ่านว่า โอ เดอ ปั๊คฟืม

EDT = Eau de Toilette อ่านว่า โอ เดอ ตัวแลตต์ (ไม่ใช่ทอยเล็ตนะคะ)

EDC = Eau de Cologne อ่านว่า โอ เดอ โกโลญจ์ หรือโคโลญจ์ก็ได้



เซ็ตแรก เป็นน้ำหอมขวดสีชมพูหวานแหวว


1. Yardley English Rose (EDT 125 ML)

แบรนด์นี้มาจากอังกฤษค่ะ มีสินค้าหลายอย่าง บ้านเราเห็นมีขายแต่สบู่ก้อน

เรารู้จักเพราะเจ้านายเก่าเคยซื้อสเปรย์กลิ่นลาเวนเดอร์มาฝากจากดูไบ

พอเราไปเที่ยวสิงคโปร์ ช็อปปิ้งที่ห้างมุสตาฟา เจอแต่น้ำหอมแบบนี้

ซึ่งไม่มีกลิ่นลาเวนเดอร์ที่อยากได้ เราเลยซื้อกลิ่นนี้มา 2 ขวด แบบไม่ได้ดมก่อน

พอเปิดใช้ รู้แต่ว่ามันคือกลิ่นกุหลาบแบบกุหลาบจริงจัง อาจจะมีกลิ่นอื่นผสมบ้าง

ในเว็บไซต์บอกว่ามีกลิ่นอื่นๆ เช่น ดอกเจอราเนียม เครื่องเทศ และมัสค์

แต่จมูกเรารับกลิ่นอื่นๆ ที่ว่ามาไม่ได้เลยค่ะ 55555

ส่วนใหญ่เราจะเอาไว้ฉีดวันใส่เสื้อสีชมพู ใส่กระโปรง ไปวัด ไม่รู้ทำไม 

ราคา : จำแน่นอนไม่ได้ รู้แต่ว่าถูกมากๆ ไม่เกิน 600 บาทแน่นอน

คะแนน : ให้ 6/10 หอมกุหลาบแบบไม่ซับซ้อน ขวดสวย แต่ติดไม่ทน

ซื้อต่อไหม : แค่สองขวดก็ใช้จนเบื่อแล้วค่า ขวดแรกกว่าจะใช้หมด สองปีได้มั้ง

แต่ยังอยากได้สเปรย์กลิ่นลาเวนเดอร์ของแบรนด์นี้อยู่นะ


2. Cute Press Destinee (EDT 60 ML)

เป็นน้ำหอมที่ซื้อมางั้นๆ ให้ครบยอดโปรวันเกิด

ดมทุกขวดในร้านแล้วถูกชะตาเจ้านี่ที่สุด เลยสอยมา

ลองเปิดขวดฉีดเล่นๆ เออ หอมดีนะนี่ เป็นกลิ่นดอกไม้จริงจัง

ในเว็บไซต์ไม่มีข้อมูล ทางแบรนด์บอกแค่ว่าเป็นกลิ่นมะลิกับกุหลาบขาว

แต่เราดมแล้วรู้สึกว่า ส่วนผสมมีเยอะกว่านั้น แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรอีก 55

ทุกวันนี้ยังไม่ได้ใช้จริงจังเลยค่ะ 

ราคา : ราคาเต็ม 399 บาท แถมยังซื้อตอนลด 50% โปรวันเกิด คุ้มสุดๆ

คะแนน : 6.5/10 ให้มากกว่าตัวบนเพราะรู้สึกกลิ่นซับซ้อนกว่าและติดทนกว่า

ซื้อต่อไหม : ถ้าวันเกิดปีหน้าแล้วไม่รู้จะซื้ออะไรให้ครบยอด ก็คงซื้อต่อ

แต่อยากให้แบรนด์ออกน้ำหอมกลิ่นตระกูลซิตรัสจังเลย


3. Victoria Secret Very Sexy Hot (EDP 75 ML)

สมัยทำงาน พี่ที่ออฟฟิศให้เป็นของขวัญ ซึ่งตอนนั้นแบรนด์เพิ่งเข้าไทยที่ดิวตี้ฟรี

ดมแล้วตกใจ มันเข้มข้นมากๆ เป็นกลิ่นผลไม้หวานๆ กับอะไรไม่รู้อบอวลๆ

เปิดดูในเว็บไซต์ อื้อหือ วานิลลา มัสค์ แซนดัลวู้ด หนังกลับ

ดอกไม้หลายชนิด และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ซึ่งส่วนผสมส่วนใหญ่ เราไม่ค่อยชอบเลย 5555555

ราคา : พอมาขายในไทยแอบแพงอยู่นะ พันกว่าบาท

คะแนน : 5.5/10 เพราะรักพี่คนที่ให้มา แต่ส่วนตัวไม่ชอบกลิ่น มันหวานและเข้มไป

ซื้อต่อไหม : ไม่แน่นอนค่ะ พยายามใช้เวลาไปกินข้าวกลางคืน 

หรือใช้เวลาอากาศเย็นๆ ถ้าหมดแล้วจะเก็บขวดไว้ดู

4. Still by Jennifer Lopez (EDP 100 ML)

น้ำหอมตัวนี้น้องสาวไปออสเตรเลียแล้วซื้อมาฝากค่ะ

เป็นน้ำหอมที่กลิ่นซับซ้อนมากสำหรับเรา คือดมแล้วเดาไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง

ในเว็บบอกว่ามีชาเอิร์ลเกรย์ พริกไทยขาว ส้มแมนดาริน แอปเปิ้ล

และดอกไม้มากมาย ทั้งส้มสายน้ำผึ้ง ฟรีเซีย มะลิ กุหลาบ ฯลฯ

รู้แต่ว่าตอนนี้วัยนี้เราชอบกลิ่นนี้นะ ใช้แล้วรู้สึกเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิงดี

ราคา : ไม่รู้เลยเพราะเป็นของฝาก เดาว่าน่าจะ 2,000 กว่าบาท

คะแนน : ให้ 9/10 เลย ชอบกลิ่นนี้อ่ะ ลงตัวดี ใช้แล้วมีคนชมอยู่ว่าหอม

ซื้อต่อไหม : ขึ้นแท่นเป็นน้ำหอมกลิ่นโปรดของเราอีกตัวไปแล้ว

และที่น่าแปลกก็คือ เจโลออกน้ำหอมอะไรมา เราชอบเกือบหมดเลย

จากการเคยใช้ตัว Glow และไปลองดมตัวอื่นๆ มาแล้วทั้งเคาน์เตอร์




เซ็ตต่อมาเป็นน้ำหอมแบรนด์ KengSoHigh ทั้งหมดเลย 

ก่อนหน้านี้เรามีอีกหลายกลิ่น แต่ใช้หมดไปแล้ว

ส่วนผสมของน้ำหอม เราอ่านมาจากเว็บไซต์ของแบรนด์นะคะ


5. Mystic Garden (EDT 30 ML)

ไม่รู้คิดยังไงถึงซื้อกลิ่นนี้มา มันหนักมากกกกกกกกกกกก

พอไปอ่านที่คุณเก่งรีวิวแล้วยิ่งตกใจ นี่มันกลิ่นแม่เสือสาวออกล่าเหยื่อนี่นา

ส่วนผสมหลักๆ คือใบชะพลู เครื่องหนัง กระดังงา มะลิ น้ำฝึ้งป่า แคชเมียร์

ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานั้น เราดมไม่ออกเลย จบข่าว

ครั้งแรกเราซื้อน้ำหอมคุณเก่งมา 7 ขวดรวด ใช้หมดไปแล้วทุกขวด

เหลือขวดนี้ขวดเดียวที่ไม่มีวี่แววว่าจะหมด ไม่รู้จะฉีดตอนไหน

ราคา : ขวดละ 390 บาท บางครั้งก็มีโปร 3 ขวด 1,000 บาท

คะแนน : 2/10 มันไม่ถึงกับเหม็นสำหรับเราหรอก แต่ไม่ชอบกลิ่นแค่นั้นเอง

ซื้อต่อไหม : โน้วววววววววววว


6. Grapefruit & Basil (EDT 30 ML)

ใช้หมดไปแล้วขวดนึง เป็นน้ำหอมที่เราชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

กลิ่นหลักๆ ก็ตามชื่อเลย เกรปฟรุตกับโหระพา 555555

แต่เราดมสักพักจับกลิ่นได้แล้วว่า มีส้มกับชาเขียวอยู่ด้วยแน่ๆ ซึ่งก็จริง

แล้วเพิ่งมาสังเกตได้ว่าน้ำหอมที่ชอบต้องมีชาเขียวตลอดๆ

ขวดนี้ใช้ตลอด นึกไม่ออกก็ฉีดๆ แถมขวดเล็กเหมาะสำหรับการพกพา

หรือเอาไว้เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ตอนนี้เก็บไว้ก่อน เพราะกลัวหมด

ราคา : 390 บาท

คะแนน : 10/10 ต่อให้ไม่ติดทนก็จะให้เต็มสิบ

ซื้อต่อไหม : จะซื้อต่อจนกว่าคุณเก่งจะเลิกกิจการเลยแหละ


7. Golden Sunshine (EDT 30 ML)

เรารู้จักแบรนด์นี้ เพราะอ่านรีวิวของคุณ gift1801 แล้วเคลิ้มตามมมมมมมมมม

กลิ่นนี้ก็ซื้อตาม อ่านรีวิวว่าเป็นดอกสายน้ำผึ้งฟุ้งๆ หวานๆ ซึ่งก็จริงตามนั้น

(ในเว็บบอกเพิ่มเติมว่ามีแอปเปิ้ลฟูจิกับดอกไม้ต่างๆ ด้วย)

แต่ยังไม่ได้ใช้จริงจังค่ะ

ราคา : 390 บาท

คะแนน : 8/10 เพราะความหอม

ซื้อต่อไหม : ขวดนี้ฉีดยังไม่ถึงห้าครั้งเลย รอดูกันต่อไป


8. Infusion de Tuberose (EDT 30 ML)

กลิ่นหวานมากสมกับที่อ่านรีวิวมา รู้แต่มีดอกซ่อนกลิ่นแน่ๆ

และมีผลไม้อย่างลูกพีชสุกเข้ามาด้วย กลิ่นยิ่งหวานไปกันใหญ่

ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับบุคลิกประจำวันยามขายของแบกปูนอย่างเรา

ราคา : 390 บาท

คะแนน : 7/10 ยังไม่ค่อยชอบกลิ่นนี้ 

ซื้อต่อไหม : เราชอบกลิ่นชื่อ Lychee Blossom มากกว่าค่ะ จะกลับไปซื้อตัวนั้นแทน



เซ็ตสุดท้าย แก๊งขวดสีเขียว 


9. Elizabeth Arden Green Tea (EDT 100 ML)

ขึ้นแท่นน้ำหอมที่เราใช้มาแล้วเยอะที่สุด (นี่คือขวดที่สาม)

เป็นน้ำหอมที่ใช้แล้วจะสดชื่น อารมณ์ดี มีความสุข

ใช้จนจำได้แล้วว่าในกลิ่นมีชาเขียว ส้ม มะนาว (หรือมะกรูดหว่า)

ซึ่งในเว็บไซต์ก็บอกไว้ตามที่เราคิดจริงๆ มีส่วนผสมอื่นๆ อีกก็ช่างมันเหอะ 55

ราคา : ซื้อที่ Sasa ฮ่องกง ถูกมากๆ ได้เจลอาบน้ำกับโลชั่นมาเป็นเซ็ตด้วย

คะแนน : 10/10 คือใช้มาขนาดนี้ ติดไม่ทนก็ช่างมัน

ซื้อต่อไหม : แน่นอนค่ะ เป็นน้ำหอมประจำตัว ใช้แล้วไม่มีพลาด


10.The Body Shop Fuji Green Tea (EDC 100 ML)

ขวดนี้เป็นโอเดอโกโลญจ์ ไม่ทนเลยค่ะ แต่เราชอบกลิ่นมากเลยยอมซื้อมา บวกกับราคาลด 15%

และติดจนพกใส่กระเป๋าทุกวัน ฉีดแล้วรู้สึกผ่อนคลายมาก ทั้งเวลาทำงานและก่อนนอน

เป็นน้ำหอมที่กลิ่นไม่ซับซ้อน ดมปุ๊บรู้เลยว่าเป็นกลิ่นชาเขียว มะกรูดกับผลไม้ตระกูลส้มมะนาว

ซึ่งก็ตรงตามที่บอกไว้ในเว็บไซต์เปี๊ยบเลย แต่เราไม่รู้สึกถึงกลิ่นดอกไม้อย่างมะลิหรือไวโอเล็ตนะ

และแปลกตรงที่ส่วนผสมหลักเหมือนกรีนทีตัวข้างบน แต่กลิ่นออกมาไม่เหมือนกันเท่าไหร่ 

ราคา : จำไม่ได้ น่าจะประมาณ 800 บาท

คะแนน : ให้ 8/10 ถ้าผลิตแบบ EDT ออกวางขายแล้วให้กลิ่นเดียวกัน จะให้เต็มสิบ

ซื้อต่อไหม : อาจจะ เพราะชอบมากๆ


11.The Body Shop Dream Unlimited Sun Fresh (EDT 50 ML)

ตอนดมในร้านที่ฮ่องกงก็หอมดี ฉีดใส่ตัวแล้วเคมีก็เข้ากัน แต่พอมาฉีดจริงๆ ในประเทศไทย

เราว่ากลิ่นมันอุ่นไปสำหรับการเป็นน้ำหอมหน้าร้อน รักแท้แพ้อากาศสินะ 555

ดมแล้วจับกลิ่นได้สองอย่าง น้ำทะเลเค็มๆ กับผลไม้หวานๆ

เปิดเว็บไซต์ดู ฮั่นแน่ มีดอกไม้อย่าง Isis กับ Neroli ผลไม้มีเมลอนกับส้ม และปิดท้ายด้วยน้ำทะเล

แน่นอนว่า จับกลิ่นดอกไม้ไม่ได้อีกตามเคย

ราคา : ซื้อที่ฮ่องกงตอนลดราคา จำได้ว่าถูกมากๆๆๆๆๆ

คะแนน : 6/10 ให้เพราะขวดสีสวยกับราคาดี

ซื้อต่อไหม : ไม่ค่ะ พอมาใช้จริงๆ รู้สึกว่ากลิ่นผลไม้มันหวานไป

.................................................................................


จบแล้วนะคะ สำหรับรีวิวน้ำหอมตามประสาคนจมูกไม่ค่อยดี

ถ้าใครมีน้ำหอมชาเขียวๆ มะนาวๆ แนะนำ โปรดชี้แนะด้วยค่า

วันนี้ไปนอนแล้ว บ๊ายบายยยยย




Create Date : 18 สิงหาคม 2558
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2560 19:29:07 น.
Counter : 2254 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

NickyOkawa
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



นักเขียน นักอ่าน และเจ้าของร้านฝึกหัด
สิงหาคม 2558

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31