Japan First Time (Part VII - Friday Final Fantasy)

ญี่ปุ่นครั้งแรก ตอนที่ 7

มหัศจรรย์วันสุดท้าย

วันนี้คือวันสุดท้าย

เพราะพรุ่งนี้เราทำได้แค่ตื่นเช้า และต้องไปสนามบินให้ตรงเวลา

เพราะฉะนั้นเราต้องดื่มด่ำกับโตเกียวให้เต็มที่

ด้วยการ.......

ตั้งวงเล่นไพ่ที่ชินจูกุ???

เปล่าหรอกค่ะ เรานั่งเคลียร์เงินฆ่าเวลาเพราะฝนตกต่างหาก

และใช่ค่ะ วันสุดท้ายที่โตเกียว พยากรณ์อากาศบอกว่า 11 องศา ฝนตกทั้งวัน

แต่พวกเราที่ปกติจะเช็กพยากรณ์อากาศทุกวัน ดั๊นพร้อมใจกันลืมในวันนี้

และปรากฎตัวหน้าโรงแรมในสภาพใส่เสื้อหนึ่งตัวถ้วน

เอ่ออออออออออ ย้ำอีกทีว่า วันนี้ 11 องศา และฝนตกปรอยๆ ทั้งวันจริงๆ

อากาศเย็นยะเยือกมากค่ะ บอกเลย ปากสั่นกึกๆ ตลอดวัน

ผ่านชินจูกุแบบเร็วๆ เนื่องจากเราไม่อินกับการเดินห้างเท่าไหร่

ทั้งๆ ที่เห็นของน่าสนใจมากมาย เห็น Topshop ที่มีเครื่องสำอางขายด้วย

แต่มันหนาวเกินกว่าจะมีอารมณ์ช็อปปิ้ง

และวันนี้เราเพิ่มโปรแกรมหอคอยโตเกียวที่เราพลาดเมื่อวานมาไว้ด้วยกัน

ก็เลยไปต่อกันที่ฮาราจูกุค่ะ ดินแดนในฝันสมัยยังสาว 555

เดินตัวสั่นปากเขียวหาข้าวเที่ยงกินกัน ด้วยเงื่อนไข...

ไม่เอาเทมปุระ ไม่เอาราเมนอุด้ง ไม่เอาข้าวหน้าปลาไหล

สรุปได้ร้านข้าวหน้าต่างๆ คล้ายๆ อาหารจานเดียว

เราเลือกข้าวหน้าเนื้อกระเทียม ที่อร่อยมากกกกกก

เป็นเมนูที่กลับมาแล้วพยายามทำตามแต่รสชาติไม่ได้เรื่อง

จากนั้น ก็เดินเล่นเพลินๆ ช็อปปิ้งที่ไดโซะแบบสนุกสนานตื่นตาตื่นใจ

และตบท้ายด้วยเครป ซึ่งน่ากินไปซะทุกสิ่งอัน

เราเลือกรสสตรอว์เบอร์รี่วิปครีมสวยงาม

แต่กินเข้าไปแล้วมันไม่ค่อยเข้มข้นอ่ะ จะหวานก็ไม่หวาน

ความรู้สึกเหมือนตอนกินซากุระพาร์เฟต์เลย

หลังจากกินขนมมาหลายขนาน บอกตามตรงเลยว่า

ยังหาขนมญี่ปุ่นที่อร่อยถูกใจไม่ได้จริงๆ นอกจากเต้าส้อโมจิกล่องนั้น

ตัวอย่างเครปน่ากินมากกกก มีภาษาอังกฤษกำกับด้วยว่าแต่ละเบอร์มีอะไรบ้าง

จากนั้นพวกเราก็หาทางเดินไปชิบุยะกัน ถามคนแถวนั้นไปเรื่อยๆ

ด้วยประโยคสั้นๆ ว่า “ชิบุยะ” (มันเป็นประโยคตรงไหนฟระ)

แต่คนญี่ปุ่นเค้าก็ชี้ทางเราถูกนะ ^^

ระหว่างทางก็มีแวะบ้าง ดูรองเท้า New Balanced บ้าง

พอเห็นทาวเวอร์เรคอร์ด เย้! มาถูกทางแล้วววววว

และพอมาเห็นห้าแยกชิบุยะ

Mission is complete.

ไปยืนถ่ายรูปท่ามกลางคนญี่ปุ่นที่เค้าข้ามถนนกัน แต่ควรทำพอเป็นพิธีนะคะ

และข้าวหน้าเนื้อกับเครปอันใหญ่เบ้งทำให้พวกเราไม่ค่อยหิว

ไปตะลุยกันต่อที่ Tokyo Tower

(แต่ระหว่างทางมีแวะไปช็อปที่ Uniqlo กับ Muji กันเล็กน้อย)

ซึ่งขอบอกว่าถ้าใครไปลงสถานี Hamamatsucho เหมือนพวกเรา

นั่งแท็กซี่เหอะ!!!

การเดินไปหอคอยโตเกียว มันไกลมากกกกกกกกก ไกลที่สุดในทริปนี้แล้ว

อาจจะเพราะเหนื่อยมาทั้งทริป อาจจะเพราะอากาศหนาวมาก

อาจจะเพราะฝนตกพรำๆ แล้วทุกคนไม่มีใครใส่เสื้อกันหนาวเลย

ทำให้ระยะทางดูไกลกว่าเดิมอีกสิบเท่า

คือเห็นโตเกียวทาวเวอร์มาแต่ไกลแล้วนะ แต่เดินยังไงก็ไม่ถึงสักที

พอเดินจากสถานีก็เห็นโตเกียวทาวเวอร์เลยค่ะ แต่เดินครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ถึงสักที

พอถึงแล้ว

นิกกี้ถึงขั้นนอนหงายถ่ายรูปบนพื้นเลย

เห็นโตเกียวทาวเวอร์และได้ขึ้นไปข้างบนแล้ว 

ต้องเสียค่าเข้านะคะ และถ้าจะขึ้นไปชั้นสูงๆ ต้องเสียเงินเพิ่ม

และข้างบนแสงน้อยมากๆ ถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือยังไงก็ไม่สวย

คืนนั้น เรากลับไปโรงแรม หาอะไรกินแบบง่ายๆ ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตด้านหน้า

ขึ้นไปอาบน้ำ ตั้งหน้าตั้งตาแพ็คกระเป๋าไม่ให้กระฉอก

และภาวนากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าอย่าให้น้ำหนักเกินเลยเจ้าค่า

..............................................................................................

วันสุดท้ายแล้ว ไม่รู้จะเขียนอะไร นอกจากความเต็มตื้น

เราได้มาญี่ปุ่นแล้ว เราเห็นฟูจิ เห็นซากุระ เห็นวัดอิคคิวซัง เห็นปราสาทโอซาก้า

เดินตากฝนที่ชินจูกุ กินเครปฮาราจูกุ ข้ามถนนที่ชิบุยะ

เห็นหอคอยโตเกียวและได้ขึ้นไปข้างบนนั้น

เหมือนที่เห็นในหนังการ์ตูน แล้วก็นิตยสารมาตั้งแต่จำความได้

พิมพ์ไปก็น้ำตาไหลไป

ไม่รู้ว่าชาตินี้เราจะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกรึเปล่า

ปล.จบแล้วจริงๆ จ้า ขออภัยที่อัพบล็อกช้ามากๆ

ส่วนวันกลับมีเรื่องเล่าตรงที่ขึ้นรถไฟผิดขบวนค่ะ

อุตว่าห์ไปจองรถด่วนไว้ ดั๊นไปนั่งรถหวานเย็นที่จอดมันทุกสถานีซะงั้น

ดีนะที่ไปทันเวลา ไม่ตกเครื่องบิน แถมมีเวลาซื้อขนมของฝากด้วย

สุดท้ายนี้................

Sayonara Japan

Create Date : 12 สิงหาคม 2557 Last Update : 13 สิงหาคม 2557 20:44:14 น. Counter : 918 Pageviews.		0 comments
Share Tweet