|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
13 พฤศจิกายน 2551
เนื้อหา:
วันนี้ ได้รับเกียรติจากคุณวันชัย ประชาเรืองวิทย์ ถือว่าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านกฎแรงดึงดูดมากที่สุดในโลก ก็ว่าได้
คุณวันชัย ประชาเรืองวิทย์ (ที่มา //www.praphansarn.com/new/c_read/images/content/sirikit3.jpg) เริ่มจาก ท่านได้พูดถึงเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้รับรูปเข้ามา ว่า เดิมนั้นถ้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเราไมู่้รู้ เรามองอย่างไรเราก็จะไม่รู้จักมัน แต่ถ้าหากเรารู้จักมันแล้ว ไม่ว่าจะมามองอีกกี่ครั้ง สิ่งที่เรารู้จักก็จะทำให้เราเข้าใจสิ่งนั้น โดยท่านวิทยากรได้ยกตัวอย่างหนึ่งที่ผมอึ้งมา (คนอื่นอาจจะเฉยๆ ) ก็คือ โลโก้โฆษณาของ FedEx ว่าระหว่างตัว E กับ x มีลูกศรอยู่ (ถ้านึกภาพไม่ออกให้เ้ข้ามาเวปนี้ครับ //www.articlesandtexticles.co.uk/2006/09/02/the-fedex-logo-and-its-designer/ ) ถ้าหากครั้งใดที่เห็นโลโก้ของ FedEx ก็จะมองตรงลูกศรนั้นอัตโนมัติเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จะไมู่รู้ว่ามี
จากนั้นก็เข้าสู่เรื่องของกฎแรงดึงดูด "Law of Attraction" ซึ่งมาพร้อมกับ กฎการผลักไส "Law of Repulse"
กฎแห่งการดึงดูด ก็คือ เป็นการบอกกับจิตใจหรือตัวเองให้รับหรือนำมาซึ่งสิ่งที่ต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ และจำเป็นต่อการใช้ชีวิต เช่น หน้าที่ การงาน ความมั่นคง เ็ป็นต้น
กฎแห่งการผลักไส ก็คือ เป็นการบอกกับจิตใจหรือตัวเองให้ต่อต้านสิ่งที่อันตรายต่อตัวเอง สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ เช่น ยาเสพติด เป็นต้น ทั้ง 2 กฎนี้ จะดำเนินตามตรรกะดังนี้
1. Yes Yes
2. Yes No
3. No Yes
4. No No
ในข้อที่ 1 หมายถึง เมื่อเรามีความต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และใจเราก็อยากได้ ก่อให้เกิดโอกาสความเป็นไปได้ที่จะได้สิ่งนั้นมาสูงมาก เพราะจิตใจของเราเป็นฝ่ายที่คิดวิเคราะห์แล้วว่าดีจริง ถึงได้ต้องการสิ่งนั้นมา
ถ้าเป็นไปตามข้อที่ 2 คือ เรามีความต้องการ แต่จิตใจเราต่อต้าน การจะที่จะพยายามให้ได้สิ่งนั้นมา ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยราบรื่น
ในข้อที่ 3 คือ เราไม่ต้องการ แต่ใจเราอยากให้ได้มา เหมือนกับว่า ใจเรารู้ดีว่าสิ่งนั้นดี มีประโยชน์ แต่กายเราขี้เกียจ ไม่ขวนขวาย ก็ก่อให้เกิดอุปสรรคตามมา และในข้อสุดท้าย คือ ทั้งเราและจิตใจ ไม่ต้องการสิ่งนั้นมา ก็เป็นเหมือนกับกฎการผลักไส
นอกจากนี้ ท่านวิทยากรได้สาธิตการแนะจิตด้วยวิธีง่ายๆ เพื่อบอกตัวเอง (หรือหลอกตัวเอง) ว่าเราเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ทำให้เรามีความมั่นใจ และใจเราก็มั่นใจ และเข้าใจในสิ่งที่เราบอกกับตัวเอง โดยการบอกกับตัวเองหน้ากระจก ในสิ่งที่เราอยากเป็น เช่น บอกว่าเราเก่ง เราทำได้ เราหน้าตาดี เป็นต้น
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2551 11:50:11 น. |
Counter : 1060 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: NooKNicK IP: 161.200.255.162 16 ธันวาคม 2551 11:42:56 น. |
|
|
|
| |
|
|