ซ่อมบ้าน ไม่ง่ายอย่างที่คิด

เขียนบล๊อกครั้งแรกเลย  แต่อดเขียนถึงการซ่อมบ้านไม่ได้จริง ๆ เพราะเริ่มซ่อมมา สักพักนึงแล้ว เกือบหนึ่งเดือนเต็ม ๆ ก็เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแล้ว

บ้านหลังน้อยหลังนี้ มีอายุอานาม ไม่เยอะอะไร สัก 35 ปีได้ และผ่านการซ่อมมาแล้วอย่างโชกโชน แต่ทุกครั้งที่ทำการซ่อมบ้าน ก็ซ่อม แค่พอผ่าน ๆ ทำเป็นพิธี มันรั่วตรงนั้น แตกตรงนี้ ก็โบก ปูนใหม่ ทาสีกันไป

แม้ว่าจะเกิดกิเลสทุกครั้ง เวลา เห็นคนรีโนเวทตึกแถว ให้สวยปิ๊ง แต่ใจก็คิดว่าบ้านมันเก่าแล้ว จริง ๆ ปีที่แล้วก่อนน้ำท่วม เกือบไปทำสัญญาซื้อบ้านเดี่ยวเส้นราชพฤกษ์แล้ว แต่น้ำท่วมซะก่อน ก็เลยชะงักไป   เพราะเคยคุยว่า ถ้าจะซ่อม ซื้อใหม่ อาจจะง่ายกว่า  

เรารู้กันมานานว่าบ้านมันเก่ามากแล้ว เริ่มรั่ว ซึม ปูนแตก นั่นนี่ แต่ในใจอดคิดไม่ได้ว่า โหยยย ซ่อมบ้านมันวุ่นวาย บ้านก็ยัง พออยู่ได้ คือมันพออยู่ได้แหละ เพราะรู้สึกลึก ๆ ทุกครั้ง ที่เริ่มคิดเรื่องซ่อมบ้าน ว่ามันต้องไม่ง่าย และไม่เร็วแน่ ๆ งานน่าจะเข้า หากเริ่มนับหนึ่ง และงานก็เข้าจริง ๆ ตอนนี้นับไปเกินสิบละ และได้ข่าวว่ายังไม่หยุดนับ ...... 

มารอบนี้ เกิดจาก ปูน และกันสาดปูนชั้นดาดฟ้า และชั้น 4 มันซึม และปูนกะเทาะ ถึงขีดสุด 

จุดที่ตัดสินใจซ่อมบ้าน เพราะ ปูนแตกลงมาอย่างหนัก 

ปัีจจุบัน โบกปูนใหม่แล้ว และ ดาดฟ้า ทำหลังคาแล้ว น่าจะรอดไปอีกสักสิบปี (ว่ามั้ย) 

 จำได้ว่า ตอนตกลงใจครั้งแรก เราจะทำแค่ เทพื้นดาดฟ้า ทุบกันสาดปูน แล้วสร้างใหม่ และทาสีกันรั่วอีกครั้ง ประมาณว่า ขอราคาเบา ๆ เอาแค่พออยู่ได้ไปสักพัก ไม่ได้รีโนเวท แบบที่ทุกคนชอบทำให้เป็นทาวน์โฮม ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำ แต่ก็อดเสียดายเงินไม่ได้ รู้งบทีไร...ถอดใจทุกครั้ง  แต่รอบนี้ ก็ใช้ไปไม่ใช่จะน้อยเลยเชียว 

ณ จุดเริ่มต้น ก่อนจะเริ่มบานปลาย

จากจุดนั้น เริ่มขยายมาเป็น การกระเทาะ และฉาบรอยแตก ทั่วบ้าน ทาสีในบ้าน วางแท๊งค์น้ำใหม่ เดินระบบน้ำใหม่  น่าจะทำหลังคาดาดฟ้าใหม่ด้วย เพราะชั้นถัดมา เป็นห้องพระ ร้อนมาก หาความสงบร่มเย็นยาก โอเค จัดไป

ดาดฟ้า ก่อน-หลัง 

ขึ้นโครง 

เสร็จแล้ว 

ใต้แสงแดด

ใต้สายฝน

จากดาดฟ้า สู่ ชั้น 4 เจาะช่องประตูของห้องใหม่ ซึ่ง เดิมห้องนี้ ไม่ได้ใช้ทำไร มีมุมนึงวางโต๊ะหมู่เป็นห้องพระ นั่นเอง ก็จะกั้นห้องพระ เป็นสัดส่วน อีกห้องจะเป็นห้องของแม่บ้าน

เริ่มเจาะช่องประตูใหม่  แต่ต้นไม้อยู่ไปทั่ว เพราะด้านนอกปูพื้นใหม่ จะตายหมดมั้ยเนี่ย 

กั้น ๆๆ

After ได้ 2 ห้องแล้ว

รื้อฝ้าชั้น 3 เพราะน้ำมันรั่วเข้ามาในบ้าน กลัวราขึ้น  เดินไฟใหม่ ทำฝ้าใหม่ ปูนแตกทั้งบ้าน น่าปวดใจ

สภาพก่อน 

วางโครง

วางฝ้า

เดินไฟหลุม ห้องนี้ น่าจะเหลือแค่ทาสีแล้ว

 เรียกได้ว่าทุกวันที่เดินเข้าบ้านมา จะมีเรื่องนึงเกิดขึ้น คือ มีโปรเจคใหม่ผุดขึ้นตลอด จากที่น้อย ๆ ก็เริ่มบาน อันนี้ต้องทำใหม่ดีกว่า ไหน ๆ ก็ทำแล้ว ทำหน้าต่างใหม่เป็นอลูมีเนียมทั้งหลังด้วยดีกว่า มีแต่เรื่องที่ทำแล้วดีกว่า และใช้ตังค์เยอะกว่า  ทั้งนั้น 

แต่อย่างน้อย เรื่องการทุบ รื้อ ถอน เป็นเรื่องที่ช่างเก่งมาก ก่อนจะติดหน้าต่างใหม่ ถอดหน้าต่างเดิมทิ้งไป ล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ อยู่แบบ โล่ง ๆ แบบนั้นแล 

ก่อน

ดำเนินการ

เสร็จแล้ว

อีกจุด

ก่อน

รื้อ

กระจกใหม่แล้ว

โถงบันไดเดิมเป็นไม้ ผุมาก ตอนรื้อไม้ออก ดูน่ากลัวมาก ดีใจ ที่ ทำเสร็จอย่างรวดเร็ว 

ก่อน ผุพัง แต่รื้อไม้ออกน่ากลัวกว่าผุ ๆ อีก

รื้อแล้ว หลอนมาก 

ซ่อม ๆ 

สิ่งที่มาคู่กับการซ่อมบ้านอีกอย่าง ก็คือ ..... การสั่งอะไรก็ตาม แล้วไม่ได้อย่างที่สั่ง ทุกวันที่กลับบ้านจะต้องมีเรื่องเซอร์ไพรส์ อาทิ การกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง แบบไม่ดูว่าจะวางอ่างล้างหน้าได้อย่างไร ในที่สุดอ่างต้องออกมานอกห้อง พร้อมกล่าวแบบ ชิว ๆ ว่า คนนึงอาบน้ำอีกคนแปรงฟัน ดีนะ แต่ไม่ได้ดูว่า มีคนอยู่ 3 คน กะ ห้องน้ำ 3 ห้อง ไม่น่าจะต้องแย่งกันใช้นะ

สั่งปูกระเบื้อง แบบแนวตรงสีเดียว ลงมายาว ๆ แล้วสลับอีกสีลงมายาว ๆ รับคำมั่นเหมาะว่า เข้าใจ กลับบ้านมา ตารางหมากรุกมาเลยนะฮาฟฟฟฟฟ

อุตส่าห์สั่งกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง แต่จุดติดตั้งฝักบัว กลับเป็นช่องที่ไม่มีที่กั้น ......... เอร่อพี่ฮาฟฟฟฟฟฟ โชคดีมีการเบรกเรื่องนี้ไว้ได้ทัน ไม่งั้นคงจะฮามาก ที่กั้นแล้ว แต่ยังเปียกอยู่ คิดอะไรกันอยู่เหรอคะพี่ ...นู๋อยากถามพวกพี่จริง ๆ 

ณ จุดนี้ เริ่มมีพี่ที่รู้จักมาบอกว่า ช่างไม่ได้ทำเสาเอ็นกับทับหลัง (กรอบปูนรอบวงกบ) อะไรสักอย่าง ซึ่งอาจจะมีปัญหาในอนาคต....ฟังแล้ว 

ด้านนอกปูกระเบื้องเต็ม เพราะ น้ำรั่วจากบ้านข้าง ๆ ทาสีไปก็ร่อน T_T 

แล้วนี่คือการแก้ไขปัญหา แล้วใช่ป่ะ หรือว่า จะรั่วก็รั่วไป อยู่หลังกระเบื้องละกัน .... งงนิดนึง แต่ช่างมันเถอะ ไม่อยากคิดเยอะละ 

เหลือช่องหน้าต่าง/ประตูไว้ระบายอากาศด้วย 

ชั้นลอย เดิมเป็นผนังเบา ก็ก่อปูนใหม่ เพราะ มันผุไปแล้ว สรุป ทำทั้งบ้าน ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกบอก ขอแบบเบา ๆ 

ก่อน

้เหลือแค่ทาสีแล้ว  เย้ๆๆ

ตอนนี้ก็มีความคืบหน้าไปพอควรแล้ว กำลังเริ่มเดินไฟ ซึ่งรู้สึกเป็นสุขกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ 

ปลั๊กรุ่นเราสู้ ที่ต้องใช้อแดปเตอร์ต่อให้เสียบโน้ตบุ๊คได้ กำลังจะได้รับการเปลี่ยนแปลง

สวิทซ์ รุ่นเราสู้ก็กำลังจะเปลี่ยนไป 

พื้นที่ส่วนใหญ่เหลือแค่ทาสีแต่สิ่งที่กำลังจะทำให้พี่ช่าง อาจจะเกิดอาการสับสน ซึ่งอดกังวลไม่ได้ คือการทาสี ตัวบ้านสีนี้ ขอบสีนี้ เหล็กดัดสีนี้ ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร คงต้องรอลุ้นกันต่อไป ไอ้ 3 สี นอกบ้าน กับ ห้องทั้งห้องสีนี้ แต่ผนังนี้เอาสีนี้ ขอบคานเอาสีนี้  แค่คิดก็......

ครั้งนี้เป็นการซ่อมบ้านที่โดนกระชับพื้นที่สุดแล้ว มีพื้นที่ที่ยังไม่ได้ยุ่งเกี่ยวคือห้องนอนในปัจจุบัน ซึ่งจะเข้าซ่อมหลังจากที่ทำส่วนอื่นเสร็จแล้ว การซ่อมบ้านโดยที่ไม่ย้ายออก ก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้ แต่ของมันจะรก ๆ ทางเดินน้อย ๆ และฝุ่นจะนรกมาก ๆ 

ดูจากสภาพบ้านก่อนซ่อมแล้ว ไม่รู้ทำไม คิดว่า ไม่ต้องซ่อมหรอก ยังอยู่ได้ เพราะบ้านเหมือนจะพังลงมาอยู่แล้ว 

ขอให้ทุกคนที่กำลังจะซ่อมบ้าน โชคดีในหน้าฝน ที่ไม่รู้น้ำจะมามั้ย .... ปีที่แล้ว หลังนี้ ท่วมข้างล่าง แค่ถึงเอว...เท่านั้นเอง   

Create Date : 18 กันยายน 2555 Last Update : 19 กันยายน 2555 20:50:21 น. Counter : 6099 Pageviews.		7 comments
Share Tweet