สวัสดีค่ะ (*w*)
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

Love Never To End (2007)

Love Never To End aka Ai no Rukeichi (2007)

สำหรับคนที่คอยติดตามข่าวของ เอ็ตซึชิ โตโยคาว่า นั้นคงจะพอรู้กันว่าเขามักจะเลือกทำงานกับผู้กำกับที่ยังไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน และชอบรับบทที่มีความแตกต่างไม่ซ้ำซาก และเรื่องนี้เค้าก็คงสมใจแล้วที่ได้เล่นหนังที่มีฉากเลิฟซีนแบบเปิดเผยและโชว์เนื้อหนังจนแทบจะทุกสัดส่วน (แค่แทบนะคะ เพราะยังปิดไว้อยู่ส่วนนึง อิอิ ก็ส่วนนั้นแหละ ) ตามสายตาเราน่าจะอยู่ที่เรท R นะแต่ก็ยังไม่ได้เช็คว่าตอนที่ฉายญี่ปุ่นนั้นจะถูกจัดให้อยู่ที่ระดับไหน


ใครก็ได้ช่วยเปิดไฟให้ที

ตัวหนังละลานตาไปด้วยฉากเลิฟซีนตามลักษณะความสัมพันธ์ของตัวละครหลักในเรื่องคือการแอบนัดพบกันตามที่ต่างๆและลุ่มหลงไปกับความสัมพันธ์อันเย้ายวนใจ แต่สุดท้ายความหอมหวานนั้นจะนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่น่ารันทดของทั้งคู่ ตอนดูครั้งแรกมัวแต่ตกใจกับภาพของเอ็ตซึชิในบทที่เราไม่เคยเห็นเรื่องไหนขนาดนี้มาก่อน ต้องมานั่งดูซ้ำรอบสอง ถึงจะค่อยๆซึบซับเนื้อเรื่องได้ (แล้วรอบแรกหล่อนไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่ดูอะไรอยู่ย๊ะ)


เย้ยๆ...อิจฉาจัง

ตอนที่ดูเรื่องนี้ ซับอังกฤษที่หาได้นั้นค่อนข้างจะนรกมาก ความรู้ภาษาญี่ปุ่นเราก็แค่หางอึ่งน้อย ก็ได้มาจากการดูซีรี่ย์เยอะนี่แหละ แต่ก็พอจะแถกไถดูไปได้จนจบ และก็นึกขอบคุณคนทำซับอิงค์เหมือนกัน ถึงเค้าจะใช้วุ้นแปลก็เถอะ แต่ก็ช่วยได้เยอะ เพราะบางเรื่องของเอ็ตซึชิตอนนี้ก็ยังหาซับไม่ได้เลยซักกะภาษา ก็เลยต้องขอดองเอาไว้ก่อน ไม่อยากเอามาดูแบบดิบ กลัวมันคาใจ


ฉากนี้ในหนังสวยมากค่ะเป็นฉากโปรโมตหนังด้วยเป็นตอนนัดเจอกันใต้ต้นไม้มีฝนตกพรำๆ

เรื่องนี้มีการถ่ายภาพที่สวยงาม และมีเอกลักษณ์เป็นพิเศษอย่างหนึ่งที่จะเจอได้ในหลายๆฉากคือ จะมีภาพเงาสะท้อนทับอยู่ในบางซีน เหมือนเรากำลังมองผ่านกระจกใสที่มีเงาจางๆสะท้อนอยู่แบบนั้น


เห็นเงามั้ยคะ เป็นงี้หลายฉากเลยล่ะ ถ้าดูจากวีดีโอจะคิดว่าเทปถูกอัดทับมานะเนี่ย

นักแสดงนำทั้งชายและหญิงถึุงแม้อายุอานามของทั้งคู่จะมากแล้วแต่ก็ยังมีบอดี้ที่ดูสวยงามกันอยู่ สองคนนี้เคยเล่นหนังด้วยกันมาก่อนเรื่องนึงแล้ว คือเรื่อง It's only Talk ซึ่งเรายังหามาดูไม่ได้เลย อยากดูเรื่องนี้มากๆ พลอตมันน่าสนใจดี ส่วน Love Never To End นั้นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์แบบลับๆของหญิงชายคู่หนึ่ง ฝ่ายชายเป็นนักเขียนนิยายหนุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นพ่อหม้ายเมียหย่ามีลูกสาวน่ารักหนึ่งคน (ขอเรียกฝ่ายชายว่าเซนเซย์นะจ๊ะ) กับฟุยูกะแม่บ้านลูกสามที่เป็นแฟนหนังสือของเซนเซย์คนนี้ โดยความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นเริ่มมาจากฝ่ายชายกำลังมองหาวัตถุดิบใหม่ๆเพื่อเอาไปใช้ในงานเขียนเรื่องต่อไป ส่วนฝ่ายหญิงนั้นก็ไม่อาจทัดทานความรัญจวนใจครั้งนี้ได้


นี่แหละตัวการที่เขาต้องทิ้งลูกทิ้งสามีแล้วแอบออกมาหาบ่อยๆ

เมื่อเธอนั้่นลุ่มหลงไปกับชู้รักจนถอนตัวไม่ขึ้น ความรู้สึกผิดบาปเมื่อมองหน้าลูกน้อยทั้งสามและสามีจึงเกิดขึ้น เธอเริ่มมีอาการที่พอเธอใกล้จะสุขสมอารมณ์หมายกับเซนเซย์ เธอมักจะให้เซนเซย์ของเราบีบคอเธอไว้แรงๆ โดยมักจะทวงถามถึงความรักว่าถ้ารักเธอต้องทำเช่นนี้ และก็ไปทวงกันบนเตียง ซึ่งนาทีนั้นเซยเซย์เราก็ไม่ไหวแล้ว มันก็แบบ บีบก็บีบวะ (อิอิ หมายถึงคอนะ ) และแล้ววันหนึ่งเมื่อเวลาแห่งความซวยมาถึง เธอคนนั้นก็ขาดอากาศหายใจตายคาอกเซนเซย์ของเราไปทั้งรอยยิ้ม ป้าด แล้วจะยังไงล่ะคะ เซนเซย์ก็คุกน่ะซิคะคุณพี่


ณ จุดเกิดเหตุ หลังสติแตกจนเกือบจะไปโดดตึกตาย ก็มานั่งทำใจก่อนแจ้งตำรวจ

ซึ่งการดำเนินเรื่องต่อไปก็จะเป็นการว่าความกันในศาล และเล่าเรื่องความสัมพันธ์ทั้งหมดของคู่นี้ ซึ่งเซนเซย์ของเราก็บอกไปว่าทำทุกอย่างด้วยความรักและเป็นความต้องการของฝ่ายหญิงจริงๆที่ให้เขาทำเช่นนั้น เขาคิดว่าที่เธอต้องการแบบนี้เพราะเธอต้องการฆ่าตัวตายโดยใช้เขาเป็นเครื่องมือและเขาก็เสียใจมากกับสิ่งที่ได้ทำลงไปและสิ่งที่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งสุดท้ายแล้วใครบีบคนนั้นก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ เซนเซย์ของเราจึงได้เข้าไปนอนเล่นในคุก 8 ปีข้อหาฆ่าคนตาย แต่ไม่รู้ว่าโดยเจตนา ไม่เจตนา หรือโดยประมาทยังไง เพราะซับนรกจ้า แต่คิดว่าโทษเบาอย่างนี้น่าจะไม่ใช่โดยเจตนาแน่ๆ เซนเซย์เองก็ยอมรับโทษทุกอย่างตามที่ศาลตัดสิน เพราะเขาเองก็เสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก ตอนต้นเรื่องเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้มาจับตนเองและไม่ได้มีความคิดที่จะหลบหนีเลยแม้แต่น้อย เขาสารภาพทุกอย่างตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด


ซีนอารมณ์ในศาล เขาขอยอมรับโทษทุกอย่างตามแต่ศาลจะตัดสิน

เขาคิดว่าจริงๆแล้วฟุยูกะนั้นรักเค้าเข้าจริงๆเลยต้องการที่จะตายด้วยน้ำมือเค้าเพราะรู้สึกว่าตัวเองนั้นทำผิดต่อครอบครัวอย่างมาก เมื่อเธอนั้นมีสามีที่ดีที่รักครอบครัว มีลูกๆวัยกำลังน่ารักอีกถึง 3 คน แต่เธอก็มิอาจทนต่อความเย้ายวนของความสัมพันธ์ครั้งนี้ได้ ต้องแต่งตัวออกจากบ้านมาบ่อยๆตามที่นัดหมายกับชู้รักไว้ ทิ้งลูกๆตาดำๆไว้ที่บ้าน ตอนท้ายๆเซนเซย์ได้ให้่การต่อศาลว่า เขาเป็นฆาตรกรที่ถูกเลือก ดังนั้นไม่ว่าต้องรับโทษใดๆเขาก็จะยอมรับมันอย่างเต็มใจเพราะนั่นก็เพื่อฟุยูกะชู้รักของเขา


ลูกสาวที่น่ารักของเซนเซย์ที่เชื่อมั่นในตัวพ่อของเธอมากและคิดว่าพ่อของเธอไม่ได้ผิด

ลึกๆแล้วคนที่เกี่ยวข้องกับสองคนนี้ก็มีความรู้สึกเข้าใจจิตใจเขาอยู่ลึกๆเหมือนกัน ทั้งแม่ของฟุยูกะเอง เพื่อนๆและลูกสาวของเซนเซย์ รวมทั้งตัวอัยการเองก็เถอะ เพราะเมื่อได้ฟังเรื่องราวและหลักฐานต่างๆ รวมถึงความจริงใจของเซนเซย์ด้วย เรื่องของความรัก ความลุ่มหลง และเซ็กซ์นั้น ในบางครั้งมันก็สุดที่จะต้านทานได้ และเมื่อปล่อยตัวปล่อยใจดำดิ่งลงไปแล้ว ก็ยากที่จะถอยหลังกลับออกมา นักแสดงส่วนมากในเรื่องนี้ถ้าใครเป็นแฟนซีรี่ย์ญี่ปุ่นคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีแทบจะทุกคน

เพลงที่ใช้ในเครดิตตอนท้ายเรื่องนี้เพราะมากๆๆๆ แบบฟังไม่ออกแต่ทำไมช่างร้องได้อารมณ์เช่นนี้ แต่มันเพลงอะำไรก็ไม่รู้ เครดิตก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่น โอยแล้วจะทำยังไงอยากรู้ๆง่ะ อิอิ ก็เลยเอาเนื้อเพลงท่อนที่พอจะฟังออกไปเสิร์ชหาดู โอ้ว มายก้อด นักร้องคนนี้ดังมากเลย ถือว่าเป็นระดับเทพก็ว่าได้ มิน่าร้องออกมาได้อารมณ์ขนลุกขนพองมาก เขาคือ เคน ฮิราอิ (Ken Hirai - 平井堅) ส่วนเพลงนี้มีชื่อว่า - Elegy หรือ Aika 哀歌(エレジー) นักร้องคนนี้มีเพลงที่คุ้นหูคนไทยอยู่บ้าง เช่น ost. Love Revolution เพลง Kiss of Life น่าจะเคยฟังกัน ส่วนเพลง Elegy นี้เขาทั้งร้องและแต่งเอง ตอนปล่อยซิงเกิลเพลงนี้ออกมาันั้นดังมากๆที่ญี่ปุ่น ติดอันดับ 5 ของโอเรก้อนชาร์ตด้วย แต่ไม่เห็นมีใครเขียนถึงหนังเรื่องนี้เลยอ่ะ ไม่แน่ใจว่าเพลงนี้แต่งมาเฉพาะเรื่องนี้เลยรึเปล่า แต่เนื้อเพลงมันได้แบบเป๊ะๆมาก ทั้งหนังและเพลงนี้ก็ออกในปี 2007 พร้อมกันด้วย

ใครอยากสัมผัสถึงอารมณ์ของหนังเรื่องนี้ เชิญฟัง ost. ด้านล่างได้เลยค่ะ รับรองคุณจะได้ไปอย่างเต็มๆแน่ Smiley




ฉันกอดเธอไว้แน่น ในขณะที่เล็บของเธอกดอยู่บนแผ่นหลังฉัน
ปลายเล็บเธอจิกลึกลงไป เหมือนจะดึงฉันให้จมลงไปสู่ห้วงแห่งความฝันนั้น


ดั่งกลีบดอกไม้ที่ถูกกระชากออก และปลิวล่องลอยไป.....จนไร้จุดหมาย


ได้โปรดทำให้ฉันแปดเปื้อนด้วยสองมือนั้นของเธอ
.....บดขยี้ฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ให้เหงื่อของคนเหงาสองคนไหลมารวมกัน
พาเราร่วงผ่านแสงเจิดจ้า.....แล้วจมลงสู่ความมืดมิดเบื้องล่าง


หากร่างนี้จะต้องผุพังไปซักวัน.....ฉันอยากให้มันเน่าเปื่อยไปด้วยรักของเธอ


คงจะดีหากอาการที่ฉันเป็นอยู่นี้มีชื่อเรียกได้
ใจฉันสั่นไหวเมื่อกายเราห่างกัน ฉะนั้นได้โปรดให้ฉันเบียดแทรกอยู่ในตัวเธอ


ดั่งกลีบดอกไม้ที่ถูกกระชากออก และปลิวล่องลอยไป.....จนได้พบเธอ


ฉันเองก็จะให้เธอมีมลทินด้วยสองมือนี้เช่นกัน
.....ฉันจะจมดิ่งไปกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
ร่างกายผสานหลอมรวมกัน
ทรมานฉันด้วยเกลียวคลื่นแห่งความสุขที่โหมกระหน่ำ


หากรักนี้ไม่อาจอยู่ได้ชั่วนิรันดร์.....จงฉีกฉันให้เป็นชิ้นๆด้วยรักของเธอซะ


ทำให้ฉันแปดเปื้อนด้วยสองมือนั้น
.....บดขยี้ฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ให้เหงื่อของคนที่เดียวดายไหลมารวมกัน
ผ่านแสงสว่างวูบ.....แล้วร่วงลงสู่ความมืดมิดเบื้องล่าง


หากร่างกายนี้จะต้องผุพังไปซักวัน
ฉันอยากให้มันเน่าเปื่อย...ด้วยรักของเธอ

.....ให้ฉันแปดเปื้อน.....ด้วยมือของเธอ




แปลไปใจสั่นไป (สั่นสู้นะ อิอิ) เนื้อเพลงเค้าแร๊งดีนะคะ สุดยอด ถึงขนาดต้องถอดเสื้อผ้าร้องกันเลยที่เดียว


Shigami tsuita senaka ni
Sotto tsume wo tatete
Watashi wo kizami konda
Motto yumi no naka he
Hira hira maichiru hanabira ga hitotsu
Yura yura samayoi yukiba wo nakushita
Sono te de sono te de watashi wo yogoshite
Nandomo nandomo watashi wo kowashite
Asebamu samishisa wo kasaneawase
Mabushikute mienai yami ni ochiteku
Itsuka horobiru ku kono karada naraba
Mushibamaretai anata no ai de

Kono yamai ni namae ga
Areba raku ni nareru
Hamidasu koto ga kowai
Douka mure no naka he
Hira hira maichiru hanabira ga hitotsu
Yura yura samayoi anata wo mitsuketa
kono te de kono te de anata wo yogoshite
Nando mo nandomo anata ni oborete
Senaka awaseno fuan to yorokobi
Nami uchi nagara watashi wo tsukisasu
Itsuka kieteyuku kono omoi naraba
Ima hikisaite anata no ai de

Sono te de sono te de watashi wo yogoshite
Nandomo nandomo watashi wo kowashite
Asebamu samishisa wo kasaneawase
Mabushikute mienai yami ni ochiteku
Itsuka horobiruku kono karada naraba
Mushibamaretai anata no ai de

watashi wo... yogoshite...
Sono te de... sono te de...






Tag : Etsushi Toyokawa , Love Never to End , Ai no Rukeichi




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2553
0 comments
Last Update : 27 กันยายน 2555 11:36:19 น.
Counter : 1977 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


just a little thing
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add just a little thing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.