Why wax? การแว็กซ์ขนเป็นวิธีกำจัดขนแบบไม่ถาวร ที่สามารถทำได้เกือบจะทุกส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็นใต้วงแขน เรียวขาแผ่นหลัง แขน หรือแม้กระทั่งบริเวณจุดซ่อนเร้น โดยสามารถทำเองได้ที่บ้านแต่ถ้าทำไม่ถูกวิธี อาจส่งผลให้ผิวหนังอักเสบหรือขนคุดได้ ที่สำคัญ ต้องอาศัยความชำนาญและความรวดเร็วในการดึงเพื่อให้เจ็บปวดน้อยที่สุด ฉะนั้นมือใหม่หัดทำที่กำลังกล้าๆ กลัวๆ อยู่ แนะนำให้ไปใช้บริการของสปาก่อนดีกว่าจะได้ศึกษาเทคนิคและทราบว่าคุณชอบวิธีกำจัดขนแบบนี้หรือไม่ข้อดีของการแว็กซ์ขน คือ สามารถกำจัดขนได้ถึงรากถึงโคนในคราวละมากๆทำให้ขนที่ขึ้นมาใหม่มีเส้นบางลงและลดปริมาณลงหลังจากการทำไปได้ประมาณ 3 –4 ครั้ง นอกจากนั้นยังคงความเนียนแบบไร้ขนได้ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์(ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและจำนวนครั้งที่เคยทำ)ส่วนข้อเสีย สาวๆ คงพอทราบอยู่บ้าง นั่นคือความเจ็บระหว่างที่ดึง แต่ก็ไม่ถึงขนาดทนไม่ได้ เพราะผู้ชำนาญจะทำการดึงอย่างรวดเร็วช่วยให้เจ็บน้อยลงและเมื่อเส้นขนบางลง ความเจ็บจะลดลงไปด้วย
Type of Wax 1. แว็กซ์ร้อน (Hot Waxing) แว็กซ์ประเภทนี้จะต้องนำไปอุ่นร้อนก่อนประมาณ 20 – 30 นาทีแล้วจึงนำมาป้ายผิวหนัง ปัจจุบันมีทั้งแบบขี้ผึ้งที่อุณหภูมิสูงในการละลายจึงอาจรู้สึกร้อนกว่าแบบชูการ์ริ่ง (น้ำตาล) และชอคโกแลต ที่มีจุดเดือดต่ำกว่า แต่วิธีนี้ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเจ็บน้อยกว่าประเภทอื่น แต่แนะนำให้ไปทำตามสปาต่างๆ เพราะจะต้องใช้เทคนิคและต้องมีเครื่องอุ่นแว็กซ์ที่จะลงทุนซื้อคงไม่คุ้มเท่าไร2. แว็กซ์เย็น (Cold Waxing) ขั้นตอนการทำแว็กซ์เย็นจะเหมือนกับแว็กซ์ร้อน ต่างกันตรงที่ไม่ต้องอุ่นร้อนเพราะแว็กซ์แบบนี้จะบรรจุในกระปุกสำเร็จรูปพร้อมป้ายลงบนผิว หรือเป็นแถบผ้าที่มีแว็กซ์เคลือบมาเรียบร้อยแล้ว สะดวกสบายเหมาะสำหรับทำเองในบ้านแต่ขนอาจขาดกลางเส้นและเจ็บมากกว่าถ้าผู้ทำไม่ชำนาญ
เตรียมตัวก่อนแว็กซ์ 1. ขนควรจะมีความยาวอย่างน้อย 2 มิลลิเมตร แต่ถ้าขนยาวมากเกินไป ควรเล็มให้สั้นลงก่อน2.ผิวหนังบริเวณนั้นจะต้องไม่มีแผลการอักเสบ หรือแพ้ง่าย และการแวกซ์ไม่เหมาะสำหรับผู้เป็นโรคเบาหวานหรือผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของกระแสโลหิต(Circulatory Problem)3. ก่อนแวกซ์ ผิวหนังบริเวณนั้นจะต้องแห้งสนิท ไม่มีการโดนน้ำหรือโลชั่นใดๆ4. ก่อนแว็กซ์ 2 – 3 วันไม่ควรสครัปผิว ทำสปา อบซาวน่า5.ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่า ไม่ควรแว็กซ์ในช่วงที่มีประจำเดือนหรือกำลังตั้งครรภ์เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายบวมน้ำและผิวหนังจะระคายเคืองง่ายกว่าปกติ
ขั้นตอนการแวกซ์ 1.ร้านที่ดีจะต้องสอบถามข้อมูลลูกค้าก่อน เช่น เพิ่งไปอาบแดดมาหรือเปล่า ตั้งครรภ์หรือไม่ มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง ฯลฯ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพผิว 2. ทำความสะอาดฆ่าเชื้อบริเวณที่จะแว็กซ์3. ลูบแป้งเพื่อเช็คแนวขนว่าขึ้นทางไหน แล้วจึงป้ายแว็กซ์ตามแนวขน จากนั้นใช้กระดาษสำหรับแว็กซ์โดยเฉพาะดึงย้อนขนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว4. เช็ดคราบแว็กซ์ออก แล้วเช็ดโลชั่นเพื่อปิดรูขุมขน
Did u know?- บิกินีแว็กซ์ (Bikini Wax) คือ แว็กซ์ขนเฉพาะส่วนที่เกินจากขอบกางเกงชั้นในออกมา- บราซิลเลี่ยนแว็กซ์ (Brazilian Wax)เป็นการแว็กซ์ขนรอบอวัยวะเพศและทวารหนักออกเกือบทั้งหมดเหลือเพียงส่วนน้อยที่ปกคลุมอวัยวะเพศไว้ เรียกง่ายๆว่าใส่จีสตริงตัวจิ๋วได้โดยไม่มีส่วนเกินออกมา
ดูแลผิวหลังจากแว็กซ์
1. หลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง2. สำหรับการทำบิกินีแว็กซ์และบราซิลเลี่ยนแว็กซ์ ควรใส่กางเกงชั้นในที่ไม่คับจนเกินไปหลังจากทำ 24 -48 ชั่วโมง3. หลังจากแว็กซ์ 2 – 3 วัน ให้ขัดผิวเบาๆ เพื่อป้องกันการเกิดขนคุด4.ลองละลายยาเม็ดแอสไพรินสัก 2 - 3 เม็ด ผสมกับกลีเซอรีน 1 หยด และน้ำสะอาด1 ถ้วย นำมาทาบริเวณที่แว็กซ์ขนหรืออาจทาครีมที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อด้วยเพื่อลดอาการบวมแดงหรืออักเสบ 5. ห้ามทาโรลออนหรือฉีดน้ำหอมบริเวณที่ผ่านการแว็กซ์มาแล้ว เพราะอาจเกิดรอยคล้ำหรืออาการระคายเคืองได้ง่าย