Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
11 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
สระ ๕ ตัวในภาษาอังกฤษ

ตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะเขียนบล็อกทบทวนความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เป็นเพราะเวลาออกงานต่างจังหวัดมักมีพี่ๆ น้องๆ มาเลียบเคียงสอบถามว่าจะทำยังไงดีถึงจะพูดภาษาอังกฤษได้ พูดได้เก่ง ผมก็บอกว่าฝึก ฝึก แล้วก็ฝึก แต่ว่าผมไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดไป เพราะทันทีที่ผมบอกไปก็สะบัดหน้าเดินจากไป พี่คร๊าบ การที่จะเป็นนายอะไรสักอย่างหนึ่ง ในที่นี้คือนายภาษา แบบที่จะเรียกว่าเชี่ยวชาญได้นั้นมันไม่มีสูตรสำเร็จหรอก เพราะตัวผมเองก็อาศัยการฝึกฝน ครูพักลักจำ อ่านหนังสือมาตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ป.๕ เหมือนกัน อาศัยว่าผมชอบอ่านหนังสือ ตอนปิดเทอมเรียนอยู่ต่างจังหวัดมันไม่มีอะไรทำ หนังสือเรียนก็อ่านหมดแล้ว ก็เลยหยิบหนังสือเรียนภาษาอังกฤษมาอ่านค่าเวลาไปเรื่อย พออ่านไปมันก็ค่อยๆ ซึมเข้าหัว แบบว่าไม่ต้องท่องศัพท์

แต่ก็มีบ้างที่บางครั้งเองผมเจอข้อความแปลกๆ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
ต่อเมื่อเวลาผ่านไปกลับมาดูหนังสือเล่มที่เคยอ่านกลับพบว่าอ่านหนังสือเล่มนั้นหรือย่อหน้านั้นได้คล่องอย่างไม่เป็นมาก่อน เพราะเวลาที่ผ่านไปมันทำให้ความรู้เราตกตะกอน 

ก่อนที่จะตัดสินใจเขียนบล็อกนี้ ผมคิดว่าพวกเรารู้ว่าแล้วว่าภาษาอังกฤษประกอบด้วยเสียงจำนวน ๔๔ เสียงอันหมายรวมเสียงสระ พยัญชนะและเสียงผสมด้วย

สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้จะเน้นไปที่การออกเสียงแบบอเมริกันเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากสื่อในบ้านเราส่วนมากจะหาได้ง่ายกว่าสำเนียงออสเตรเลียและสำเนียงอังกฤษ หนังสือหนังหาคู่มืออะไรต่อมิอะไรก็หาง่าย อีกอย่างสำเนียงอเมริกันมันฟังง่าย แม้จะมีความหลากหลายในตัวสำเนียงอเมริกันเองเนื่องจากว่ามีพื้นที่ที่กินอาณาบริเวณกว้างขวางมาก แต่สำเนียงอังกฤษแบบอเมริกันเองก็ยังมีจุดร่วมที่เป็นลักษณะเด่นอยู่ แต่ช่างมันเถอะ เราไม่ได้กำลังถกเรื่องภาษาศาสตร์อยู่ซึ่งมันยากไป แล้วก็ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของบล็อกนี้ด้วย เอาเป็นว่าวัตถุประสงค์ของบล็อกนี้ก็คือ พอให้ผู้ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐานและปานกลางสามารถที่พูดภาษาอังกฤษได้ถูกต้องตรงความหมาย สื่อสารกับชาวต่างชาติได้โดยออกเสียงได้ใกล้เคียงโดยใช้ลิ้นแบบไทยๆ ก็พอ

ภาษาอังกฤษอเมริกันไม่นิยมออกเสียงชัดเป็นคำๆ แบบไทย แต่เป็นภาษาแบบที่เรียกว่ามีเสียงบางเสียงในคำนั้นหรือประโยคนั้นจะเน้นหนักมากกว่าคำอื่นๆ คำบางคำก็รวบติดกันเป็นคำเดียวกัน บางคำก็เอา “ว” หรือ “ย” มาเชื่อมแต่ก็ไม่รู้ว่าผมจะขยันมากน้อยเพียงใด ไม่รู้จะเขียนยาวไปขนาดนั้นหรือเปล่า

สระภาษาอังกฤษ ๕ ตัวที่เรารู้จักกันดีสามารถแบ่งได้ เป็น short vowels กับ long vowels อันนี้ต้องจำว่าทั้ง short และ long ออกเสียงที่เป็นลักษณะจำเพาะอย่างไร  ชื่อสั้นหรือยาวไม่เกี่ยวกับความยาวในการออกเสียงแบบภาษาไทยเพราะฉะนั้นผมก็จะทับศัพท์ไปเลยป้องกันการสับสน

สระภาษาอังกฤษ ๕ ตัว a, e, i, o, u ที่ออกเสียงแบบที่เรียกว่า long vowels เมื่อลองรื้อฟื้นความรู้กันหน่อยสมัยเรียนอาจารย์บอกว่าถ้าเป็น long vowels มันมักจะมีตัวสะกดคั่นแล้วตามด้วยตัว e และออกเสียงตามชื่อมันเอง อันนี้เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งแต่ก็อย่างว่าอย่าไปยึดติดมากนักเพราะว่ามีภาษาอังกฤษที่สะกดประหลาดหลายคำอยู่ที่สะกดอย่างหนึ่งแล้วออกเสียงอย่างหนึ่งอย่างคำว่า receipt ที่ออกเสียงเป็น long –e ในพยางค์หลัง (ออกเสียง อี) ส่วนพยางค์แรก re ออกเสียงเป็น short-i (ออกเสียง อิ) ดังนั้นคำนี้จึงออกเสียงว่า /ริ’ซีท/ โดยไม่ออกเสียง p ในพยางค์หลัง

นอกจากนี้แล้วยังมีเสียงพยัญชนะที่เรียกว่า ชวาอีก ซึ่งเราได้ยินได้ฟังกันบ่อยมาก เปรียบได้ก็คือเสียง อะ กึ่งเสียงในภาษาไทย แต่ว่าในภาษาอังกฤษมันเป็นเสียง /เออ/ เมื่อไปรวมกับการเน้นคำแล้วมันจึงทำให้ภาษาอังกฤษเมื่อพูดออกไปแล้วมันจึงพริ้ว

สาเหตุที่ผมเริ่มเขียนอธิบายจากเสียง long vowels เพราะคิดว่าเสียง long vowels ไม่น่าจะใช่ปัญหาเท่าไหร่สำหรับคนไทย เพราะว่ามันใกล้เคียงภาษาไทยมากที่สุด เข้าใจได้ง่ายสุด เอาล่ะเริ่มเลย

Long –a ออกเสียงว่า /เอ/ ได้แก่คำว่า make, take, bake, rake, sake, wake

Long –e ออกเสียงว่า /อี/ ได้แก่คำว่า meat, meet, beef, beet, feet, read

Long –i ออกเสียงว่า /ไอ/ ได้แก่คำว่า lie, tie, bye, cry, sign

Long –o ออกเสียงว่า /โอ/ ได้แก่คำว่า coat, toe

Long –u ออกเสียงว่า /ยู/ ได้แก่คำว่า rule

ที่มา //specialed.about.com/od/readingliteracy/a/44Sounds.htm

จะเห็นว่าการออกเสียง long vowels ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนไทยแต่อย่างไร

วันหลังผมจะพยายามเอาตัดคลิปเสียงการออกคำแต่ละคำมาให้กดฟังด้วย  ด้วยอิจฉาตำราของจีนที่เปิดไฟล์พีดีเอฟแล้วมันเล่นไฟล์มีเดียให้เลย ต้องขอศึกษาก่อนว่ามันทำยังไง




Create Date : 11 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2556 1:58:19 น. 0 comments
Counter : 1492 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Fortitude Valley
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Fortitude Valley's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.