Expert  face bush

แปรงอันนี้เป็นแปรงอันแรกที่มดตัดสินใจซื้อเลย เพราะด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการลงรองพื้น แบบลิควิด  ด้วยขนแปรงที่ค่อนข้างแน่น จึงทำให้การลงรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้น  แปรงอันนี้เหมาะสำหรับรองพื้นชนิดลิขวิดมากกว่าเนื้อครีม เพราะถ้าเป็นเนื้อครีมจะเกลี่ยยาก  

วิธีการใช้ คือ นำแปรงจิ้มไปที่หน้าแล้วถูวนๆๆ เพื่อให้เนื้อรองพื้นติดและเรียบเนียน

Foundation  bush

ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นแปรงสำหรับอะไร  แปรงอันนี้เป็นแปรงที่ซื้อแยกมาจากเซตเช่นดียวกัน  ด้วยความที่เป็นแปรงหัวตัด จึงสามารถปาดรองพื้นเนื้อครีมได้ดี แถมสามารถทำมุมกับใบหน้าเราได้ เช่น แนวซอกจมูก  เวลาใช้ให้ใช้วิธีการปาดออก คือ จากทางจมูก ไล่ไปทางใบหู  แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวมด แปรงตัวนี้ทำหน้าที่แค่ปาดรองพื้นมาไว้ที่หน้า แต่ถ้าต้องการเกลี่ยให้เรียบเนียน คงต้องใช้  Expert  face bush เป็นตัวช่วยอีกตัว

     ด้วยความที่แปรงเรียลมีคุณสมบัติพิเศษ คือแปรงทุกแปรงสามารถใช้งานแทนกันได้หมด ฉะนั้นถ้าแปรงนี้เกลี่ยรองพื้นเรียบร้อยเเล้ว ก็สามารถนำมาเป็นแปรงปัดเฉดดิ้งได้อีกด้วย

Pointed   Foundation  bush

แปรงหัวเล็ก เหมาะกับการใช้งานเฉพาะจุด เป็นแปรงที่มาพร้อมเซตใหญ่  Core Collection  เหมาะสำหรับการใช้เป็นการทาคอนซีลเลอร์ใต้ตา  หรือจุดที่แปรงใหญ่ๆ ไม่สามารถเข้าถึงได้  หรือสามารถอะแด๊ปเอามาใช้เป็นทารองพื้นได้  แต่คงต้องทานานหน่อยเพราะหัวแปรงมันเล็ก เหมาะกับหน้าเล็กๆมากกว่า

Detailer brush

เป็นแปรงที่มาพร้อมเซตใหญ่  Core Collection  เช่นเดียวกัน ด้วยหัวแปรงที่มีขนาดเล็ก สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี  เหมาะสำหรับการใช้เก็บรายละเอียดเฉพาะจุด  เช่น รอยด่างดำที่ต้องการเก็บให้เรียบเนียน หรือใช้กับคอนซีลเลอร์ หรือเอามาใช้เป็นแปรงทาลิปก้ได้ มดก็เอาแปรงอันนี้มาใช้เป็นแปรงสำหรับทาลิป

Powder brush

แปรงพุ่มใหญ่สะใจ ขนแปรงไม่แน่นมาก และนิ่ม ไม่บาดหน้า  เหมาะสำหรับการปัดแป้ง  ไม่ว่าจะเป็นแป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง มดว่าสามารถใช้ด้วยกันได้หมด ปัดทีเดียว ทั่วหน้าเลย เพราะแปรงมันใหญ่มากกกก

Buffing Brush

เป็นแปรงที่มาพร้อมเซตใหญ่  Core Collection  ลักษณะเป็นแปรงพุ่มคล้ายกับ Power brush แต่เล็กกว่า ตัวแปรงอันนี้ Samantha รีวิวไว้ว่า สามารถใช้เป็นได้ทั้งแปรงเฉดดิ้ง ไฮไลท์ หรือแทนแปรงปัดแก้มก็ได้