Missing In Action
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
14 มิถุนายน 2553

จู-ออน เฮ้ย ไม่ใช่ จาพูดเรื่อง Run-ons ต่างหาก

Transition Connectors (เด๋วผมจาโยงเข้าเรื่อง run-ons นะครับ ลองอ่านไปเรื่อยๆก่อน)

Basic อย่างหนึ่ง ในการเขียน paragraph ให้อ่านแล้วลื่นไหลก็คือ การใส่คำเชื่อมลงในตำแหน่งเที่หมาะสมนะครับ คิดว่าคงเคยเห็นคำเชื่อมที่เขาใช้กันบ่อยๆ แล้วนะครับ เช่น however, in addition, in contrast, moreover, therefore, instead, then นั่นเอง พวกตัวเชื่อมนี้เปรียบง่ายๆก็เหมือนกาวนั่นแหละครับ มีไว้เพื่อเชื่อมเนื้อเรื่องที่เราจะเล่าเข้าไว้ด้วยกัน พยุงโครงเรื่อง เสริมให้ตรรกะมันดีขึ้น งั้น...เดี๋ยวเรามาลองทวนกันนิดนึง
เติมคำอะไรกันดีคับ...

a) Not all of the Red-shirts came to Ratchaprasong with the same motive. ___________, some Leftists were eager to see their theories put into action and simply felt their best shot had come. Poor people from most part of the North and of Isaan stood the extreme April heat as they needed Taksin home to give them the affection they never experienced with any governments. And, some current and ex-military men who believed their career paths were derailed because they were unjustly labeled as not belonged to the Godfather’s clan decided to practice their M67 launching skills and guerrilla warfare tactics.

b) Buddhadas Bhikhu’s works helped weed out misconceptions and made the learning of Buddhism accessible to educated persons and scholars. _________, the Gen Y and Gen X people would benefit so much from studying the works of Arjarn Vor Vachirametee.

c) Liverpool is in a difficult situation. Torres’s injuries have a big impact on team performance. They are likely to miss the UEFA quota next season. Fans are so frustrated with the team’s management. ________, the co-owners George Gillett and Tom Hicks have just put it up for sale. Benitez will be cash-strapped this summer. (ตอนเขียนนี่ ใกล้จะปิดฤดูกาล 2009-2010 แล้วครับ หงษ์กำลังแย่สุดๆ ฉุดไม่อยู่ แต่ตอนนี้ Benitez ไปแล้วครับ)

d) The Education System Reform #1 has come and gone. Anyone notices that? Now we are in full gear for Reform#2. Hopes are high. _______, I do not expect any miracle. As I recall, even with something so single-minded like the Milk for Schools Drive, we had to go through series of news reports on corruptions, logistics headaches, and mismanagement by local authorities. Seeing poor kids drinking spoiled milk and getting sick was awful. And, that went on for years.

e) Most people think cancer is the Number One cause of deaths of Thais. ______, accident is leading ahead. For the past 30 years, traffic accidents have killed over 200,000 Thai people whereas all cancers, diabetes, murder combined have killed a lot less, 100,000 people. (ตัวเลขสมมตินะครับ)


ลอง fill in the blank ข้างบนก่อน แล้วผมค่อยมาเฉลย

แล้วค่อยต่อ Part 2 กัน

ตย.ยากไปป่าว บอกได้นะครับ เด๋วปรับได้




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2553
0 comments
Last Update : 14 มิถุนายน 2553 21:05:10 น.
Counter : 778 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


MissingInAction
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หนังสือ The Resume Book มีวางที่ SE-ED แล้วครับ

http://www.se-ed.com/eShop/Products/Detail.aspx?No=9786169061809

Why you should buy this Book:

- ตำแหน่งงานดีๆ เดี๋ยวนี้ require ให้เราเขียน resume เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นครับ ถ้าคุณอยากได้งานดีๆ ก็ควรจะหัดเขียน resume ภาษาอังกฤษให้เป็นนะครับ …หนังสือเล่มนี้ผมบอกเทคนิค และวิธีการไว้ครบถ้วน ข้อมูลความรู้ update เทียบได้กับตำรา resume ขายดีระดับโลก อ่านแล้วไม่เชยแน่นอนครับ (ตัวผมเอง guide เด็กเขียน resume สมัครงาน และ statement of purpose เรียนต่อต่างประเทศสำเร็จหลายคนแล้วครับ ไม่ต้องห่วง)

- ในช่วงชีวิตคนเรา เรื่องเปลี่ยนงาน สมัครงานเป็นเรื่องที่ต้องพบเจอเป็นธรรมชาติครับ เพราะฉะนั้น… คุณควรจะมีคู่มือดีๆ ไว้ติดตัวซักเล่ม พอถึงเวลาจะใช้ จะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นไปหาที่ร้านหนังสืออีก

- ในท้องตลาดมีหนังสือสอนเขียน resume และจดหมายสมัครงาน มากพอสมควร แต่ส่วนใหญ่นั้น คำแนะนำและตัวอย่างที่มีให้นั้น มันเก่าและไม่ work ในยุคนี้แล้วครับ คุณเอาไปใช้ในต่างประเทศหรือกับบริษัทระดับอินเตอร์จริงๆ ก็มีฮาแน่นอน ถึงบางเล่มดูใช้ได้ แต่ตัวอย่างไม่มี หรือมีน้อยมาก แต่…เล่มนี้มีให้ครบครับ ตัวอย่าง resume มากมายหลากหลาย เขียนด้วยสำนวนภาษาทันยุคทันเหตุการณ์

- ซื้อเล่มเดียวคุ้มครับ คุณเอาไปใช้ได้หมด ทั้งสมัครงานในเมืองไทยกับบริษัทไทย หรือกับบริษัทข้ามชาติ หรือสมัครงานในต่างประเทศ สมัครเรียนต่อโท ต่อเอก เขียน resume ส่ง Graduate Schools ต่างๆ ได้หมดครับ สมัครงานสายการบินก็ใช้ (หรือจะเอาไปประยุกต์เขียน Slide Presentation, Work Portfolio, จัดทำ Company Profile, หรือเขียน Sales Pitch, เขียน Annual Performance Assessment …ได้หมดครับ ใช้หลักการเดียวกัน)

- คุณไม่ต้องห่วงนะครับ ผมทำงานและเรียนต่อในสหรัฐอเมริกานาน 7 ปี ความรู้และคำแนะนำต่างๆ ที่เขียนไว้หนังสือเล่มนี้ ได้กลั่นกรองจากประสบการณ์จริงๆ รวมทั้งได้เห็น resume ผ่านตามาเป็นพันฉบับ และยังมีโอกาสสัมภาษณ์ฝรั่งเข้าทำงานเองด้วยครับ นอกจากนี้ ยังได้ผสมผสานเนื้อหาจากตำราดีๆ ออกใหม่ๆ ในต่างประเทศหลายต่อหลายเล่ม รวมถึง Career Guide ของมหาวิทยาลัยดังๆในต่างประเทศด้วย …ขอให้มั่นใจได้

- …….ไม่ซื้อไม่ได้แล้วครับ!!


ฝันที่เป็นจริง ดีใจสุดสุด ฉุดไม่อยู่
===================

ในที่สุดฝันก็เป็นจริงแว้ว ได้เป็นนักเขียนจริงๆซะที มีหนังสือออกมาแล้ว 1 เล่ม แต่น..แต๊น.. “The Resume Book” นั่นเอง

นึกๆย้อนดูแล้วก็เป็นงานที่เหนื่อยหนักหนาเหมือนกันนะ กว่าจะออกมาเป็นเล่มสำเร็จได้

ตอนแรกๆก็ไม่แน่ใจ ว่าจะมีคนสนใจหรือไม่ ลังเลอยู่นานกว่าจะลงมือเขียน โชคดีวันนึงได้อ่านเจอบทสัมภาษณ์ของคุณนรินทร์ Blogger ชื่อดัง ที่ลงใน Section จุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ ทำให้เกิดไฟมุมานะ โชติช่วง มีกำลังใจจะเขียนต่อ แถมมีเมียคอยเคี่ยวเข็ญ คอยเหน็บตลอด ว่าเมื่อไรจะเสร็จซักที(ขอบคุณจริงๆ)

ถ้าท่านผู้อ่านผ่านไปแถว SE-ED หรือร้านหนังสือที่ไหน ก็ฝากไว้ในอ้อมใจด้วยนะค้าบ มีอะไรติชม ก็บอกกันได้

ผมมีอาชีพหลักเป็น Software Test Specialist ครับ เชี่ยวชาญเรื่อง test design, test automation, performance testing สำหรับ large-scale software systems

แต่มีงานที่ผมชอบมากๆ อีกอย่างก็คือ เป็นอาจารย์พิเศษสอน English Writing, IELTS, TOEFL Test Preparations เคยสอนตามสถาบันภาษาหลายแห่ง

ผมชอบอ่าน ชอบเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กเลยครับ ไม่รู้เป็นอะไรมันชอบจริงๆ แล้วก็ชอบสอนหนังสือ อยากกระจายให้คนอื่นรู้ด้วย

ตอนที่ไปอยู่ต่างประเทศแรกๆ จำได้ว่ารู้สึกเศร้าใจมากครับ ทำไมสื่อสารกับฝรั่งไม่ได้เรื่อง ทั้งที่ grammar ก็แม่นใช้ได้ ศัพท์ก็ท่องมาแหลกราน แต่เวลาพูดออกไปมันกวกวน ฟังไม่รู้เรื่อง พอฝรั่งมันพูดเร็วๆตอบมาหน่อยก็มึน

เพื่อนต่างชาติมันถามว่า ยูเรียนภาษาอังกฤษมากี่ปีแล้ว ใจจริงอยากจะตอบว่า…
ไอเรียนมาตั้งแต่ ป.1 แล้ว จนจบจุฬาฯปี 4 รวมทั้งหมด 20 ปี ก็ละอาย กลัวมันด่าว่า โห… 20 ปีได้แค่นี้เหรอ
ทำไมโง่จังอ่ะ

เพิ่งมาถึงบางอ้อตอนที่ได้เรียนคอร์สปรับพื้นฐานภาษาที่ UC Berkeley Extension นี่เอง ทำไมคุณครูถึงสอนสนุกจัง นักเรียนกล้าพูด กล้าแสดงออก กิจกรรมหลากหลาย ครูพาไปซื้อของให้พูดกับคนขายให้ฟังจะจะ ครูให้ดูหนังแล้วก็อธิบายศัพท์+สำนวนเท่ห์ๆ ให้ฟัง ยังจำได้จนถึงวันนี้

นึกในใจ…ถ้าได้เรียนแบบนี้ตั้งแต่ประถมคงได้คะแนน toefl กระฉูด พูดกับฝรั่งน้ำไหลไฟดับแน่

จากนั้นก็เข้าเรียนต่อ Master ที่ RPI สถานะการณ์บังคับ ต้องทำงานกลุ่ม/ติวหนังสือกับนักเรียนชาติอื่นๆ ทักษะภาษาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนใกล้จบทาง Career Development Center ของ RPI เค้าก็จับติวหมดเลยครับ เขียน resume ยังไง เขียน application letter แบบไหน เทคนิค job interview มีอะไรบ้าง แต่งตัวอย่างไร ตอบคำถาม interviewer อย่างไร มีแต่เรื่องใหม่ๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย

จนได้เข้าไปทำงานที่ American Internet ที่ Bedford และ Cisco Systems ที่ Chelmsford, Massachusetts ก็ค่อยๆกลมกลืน ใช้ภาษาได้ดีเป็นธรรมชาติ…
…เพราะว่าต้องประชุม แสดงความคิดเห็น เขียนเอกสาร นำเสนอผลงาน รวมทั้งต้องไป interview ฝรั่งที่มาสมัครงานด้วยครับ…

รวมเวลาผจญภัยอยู่ในอเมริกานาน 7 ปีแล้วก็กลับบ้าน มาทำงานอีกหลายอย่างครับ

ที่ผมเล่ามานี้ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านวางใจได้ว่า ผมเขียนจากประสบการณ์จริงที่ค่อยๆ สะสมมานานหลายปี เขียนจากการได้อ่าน ได้เห็น resume ผ่านตามาร่วมพันฉบับ ทั้งยังผสมรวบรวมความรู้ใหม่ๆ จาก resume textbooks ชั้นนำหลายเล่ม จนกลายมาเป็นหนังสือตรงหน้าท่านผู้อ่านนี่ รับรองได้ว่าคุ้มค่าเงินที่ท่านซื้อแน่นอน
ขออวยพรให้ท่านผู้อ่านมีทักษะภาษาอังกฤษแข็งแรง เจริญก้าวหน้าในอาชีพสามารถติดต่อสื่อสารและทำมาค้าขายกับชาวโลกได้อย่างไม่น้อยหน้าใครครับ


hits
[Add MissingInAction's blog to your web]