พฤศจิกายน 2558

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
DELTA WORKS การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภาค 1
The Delta Works (Dutch: Deltawerken) คือโครงการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ขนาดใหญ่รอบๆดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ Rhine-Meuse-Scheldt จากทะเล  เป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เกี่ยวเนื่องกันทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อป้องกันพื้นที่ขนาดใหญ่รอบๆดินดอนสามเหลี่ยม Rhine-Meuse-Scheldt (delta) จากทะเล  ประกอบด้วย  dams, sluices,locks, dykes, levees และ  storm surge barriers
และเป็น 1 ใน 7 สิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ของโลก 
(one of the Seven Wonders of the Modern World by the American Society of Civil Engineers )



Tourism statue in Madurodam,The Netherlands, of the nameless boy plugging a dike.

สืบเนื่องจากการเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 1953 ทำให้คนตายเป็นจำนวนมากกว่า 1800 คน และต้องอพยพคนถึง 70,000 คน  ความเสียหายประมาณหนึ่งเพันล้านกิลดอร์  รัฐบาลจึงได้เริ่มโครงการนี้ขึ้น ประกอบด้วย 13 เขื่อนหลัก  เสร็จสิ้นปี 1997  รวมเป็นมูลค่า  $5bn.
ประกอบด้วย dikes  ยาว  10,250 miles โครงสร้างต่างๆทั้งหมด 300 โครงสร้าง





วัตถุประสงค์ของโครงการหลัก เพื่อทำให้ชายฝั่งสั้นลงและเปลี่ยนสภาพเป็นทะเลสาบน้ำจืด  ซึ่ง Delta Works เป็นส่วนหนึ่งของ  Deltaplan  เพื่อระบายน้ำจากพื้นที่ต่ำซึ่งน้ำท่วมเป็นประจำและควบคุมการไหลเข้ามาของน้ำทะเลที่เค็ม
ทำให้ได้น้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค รวมทั้งน้ำจืดเพื่อการชลประทาน

โครงสร้างของโครงการนี้ยังเป็นปรับปรุงการคมนาคมระหว่างเกาะต่างๆ  โดยทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมเกาะต่างๆ

ยังเป็นการปรับปรุงการเดินเรือระหว่าง Rotterdam และ Antwerpen
มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเพิ่มมากขึ้น และมีการจ้างงานมากขึ้นด้วย

The Hollandse Ijssle storm barrier (river) เป็นโครงสร้งแรกของโครงการ Delta Works ที่ก่อสร้าง โดยเริ่มในปี 1958.
Barrier ให้ความปลอดภัยแก่ Randstad ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ  และเป็นพื้นที่ต่ำ ประชากรหนาแน่น







สร้างอีก 2 เขื่อนที่ the Zandcreek และ the Veerse Gat,were โดยปิดเมื่อปี  1961 ซึ่ง 2 เขื่อนนี้หยุดน้ำที่ำหลจากทะเลเหนือและสร้างทะเลสาบน้ำจืด the Veerse Meer 



Eastern Scheldt Barrier  เป็นโครงการที่ซับซ้อนและขนาดใหญ่มาก คือ  The storm surge barrier of the Oosterschelde ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าประทับใจที่สุดของโครงการในเนเธอร์แลนด์
เชื่อมเกาะ Schouwen-Duiveland และ  Noord-Beveland เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดในทั้ง 13 โครงสร้างของาน  Delta Works

The Oosterscheldekering เป็นงานที่สร้างยากที่สุดและแพงมากที่สุดของงาน Delta works
ใช้เวลามากกว่า 10 ปี เริ่มก่อสร้างปี 1976  และเสร็จปี 1986
ถนนบนสันเขื่อนใช้งานได้เมื่อ พย 1987
ได้รับการยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ 8 ของโลก และได้รับการประกาศให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลก  โดย the American Society of Civil Engineers.
ประตูน้ำยาว 4 กม ที่เปิดและปิดได้ ขึ้นกับสภาพอากาศ
เมื่อสร้างเสร็จในปี 1986 ปริมาณน้ำไหลลดลง และความสูงที่แตกต่างกันก็ลดลงจาก   3.40 เมตร  เป็น 3.25 เมตร
ผลคือไม่มีทรายมาทับถมบน sand bars ซึ่งถูกกัดเซาะไปแบบช้าๆ  เปลี่ยนลักษณะชายฝั่งไปเลย







เขื่อนนี้ควบคุมด้วยคน  แต่ถ้าเกิดผิดพลาดก็มีระบบความปลอดภัยแบบอิเลคโทร-นิครองรับอยู่ด้วย

ซึ่งมีกฏหมายกำหนดว่าเมื่อไรจึงให้เขื่อนทำงานได้ คือระดับน้ำต้องอย่างน้อย 3 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปกติ ก่อนจะปิดประตูน้ำได้หมด 

แต่มีการทดสอบปิดประตูน้ำทุกเดือน
และมีการกำหนดวัน เวลา ที่แน่นอน เพื่อทดสอบขั้นตอนกรณีฉุกเฉิน

เมื่อผ่านการทดสอบ จะต้องเปิดประตูน้ำทันที เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อการเกิดน้ำขึ้นน้ำลงและระบบนิเวศน์ทางทะเลน้อยที่สุด 
ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเพื่อปิดประตูน้ำ 
ตั้งแต่เปิดใช้งานในปี 1986  มีเหตุการณืต้องปิดประตูน้ำ 24 ครั้ง เนื่องจากระดับน้ำเกินกำหนด หรือ พยากรณ์ว่าเกิน 3 เมตร
ครั้งสุดท้ายที่ปิด คือ 8 พย 2007 ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาปีละ 17 ล้านยูโร



ตอนแรกแผน Oosterschelde จะกั้นน้ำ และกลายเป็นทะเลสาบน้ำจืด ทำให้ระบบนิเวศน์น้ำทะเลเสียไป  ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงหอย  นักสิ่งแวดล้อมและชาวประมงช่วยกันพยายามป้องกันการปิดประตูน้ำ และประสบความสำเร็จกดดันรัฐสภาให้แก้ไขแผนนี้ คือ แทนที่จะปิดปากแม่น้ำทั้งหมด ให้สร้างเป็น storm surge barrier  เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ คือ เป็นชุดวาล์วขนาดใหญ่มาก
storm surge barrier จะปิดเฉพาะตอนที่ระดับน้ำต้องอย่างน้อย 3 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง
ในเวลาปกติ ปากแม่น้ำจะเปิดให้น้ำทะเลไหลเข้า ออก โดยน้ำขึ้น น้ำลงปกติ
ซึ่งต้องทำระบบใหม่ตลอดเขื่อนระยะทางมากกว่า 200  กม
และต้องเพิ่มเขื่อนและประตูน้ำพิเศษด้านตะวันออกของ Oosterschelde  เพื่อสร้างเส้นทางเดินเรือระหว่างท่าเรือ Rotterdam และ Antwerp

The Eastern Scheldt storm surge barrier  ยังคงเป็นโครงการที่สร้างเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่เพียงขนาด แต่ด้วยปริมาณโครงการวิจัยมากมายมหาศาลในพื้นที่นี้

ได้มีการวัด ระบบน้ำ การเคลื่อนที่ของทราย และผลกระทบระบบนิเวศน์  และบันทึกลงลึกในรายละเอียดมาก



จำเป็นต้องตัดสินใจสร้างทางน้ำใหม่ไปพื้นที่ Europoort เพื่อสร้างฝายกั้นน้ำท่วม
Hartel  เป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญและน่าประทับใจมากที่สุดสำหรับ Europoort barrier เป็นเขื่อนเคลื่อนที่ได้ที่มีตัวเลื่อนรูปวงรีตัวใหญ่ (elliptical sliders ) ซึ่งเป็นรูปไข่ระหว่างหอ
 สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนักออกแบบคือ ต้องได้ตัวเลื่อนที่เงียบ โดยการแกว่ง การหมุน และการสั่น ต้องอยู่ภายใต้ค่ากำหนด
 การตัดสินใจปิดเขื่อนนี้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน เรียก  Operations and Support System (BOS)  ซึ่งตัดสินใจบนข้อสรุปของ Maeslantkering
โดยสถิติเขื่อนจะปิด 1 ถึง 2 ครั้ง ทุก10 ปี

ทุก  2 สัปดาห์จะมีการเลื่อนตัวเลื่อน 2-3 ซม ขึ้นลง 


เพียงลำพัง Maeslantkering จะไม่สามารถรับรองความปลอดภัยพื้นที่ทางใต้ของฮอแลนด์ได้ เพราะน้ำทะลสามารเข้ามาทาง Europoort ได้อย่างอิสระ  จึงต้องมีเขื่อนเพิ่มอีกชั้นหนึ่ง จึงสร้าง Hartel ใน Spijkenisse ในพื้นที่ Europoort ซึ่งคือ Europort Barrier






งานเสร็จสิ้นในปี 1997 กินเวลาทั้งหมดประมาณ 50 ปี  หลังเสร็จงาน Maeslantkering ในทางน้ำใหม่ ( Nieuwe Waterweg ) ระหว่าง Maassluis และ Hoek van Holland  และ  Hartelkering ในคลอง Hartel  ใกล้ Spijkenisse

ในความเป็นจริงงานเสร็จเมื่อ 24 สค 2010 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ งานชิ้นสุดท้าย คือ ผนังเสริมความแข็งแรงที่ยกสูงขึ้นใกล้เมือง Harlingen

****** เนื่องจากปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปและระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ต้องมีการเพิ่มเขื่อนให้สูงและกว้างขึ้น  ซึ่งเป็นสงครามอันยาวนานที่ต้องต่อสู้กับทะเล

ความต้องการป้องกันน้ำท่วมต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงต้องเป็นหัวข้อที่ต้องมีการถกเถียงกันอีกระยะหนึ่ง โดยขณะนี้ได้มีการทำให้เขื่อนที่ Oosterschelde และ Westerschelde แข็งแรงขึ้น

ซึ่งการทำให้แข็งแรงเท่านั้นพิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอ จะต้องมีการสร้างใหม่มาแทนที่ของเดิม งานได้เริ่มไปแล้วไปตั้งแต่ปี  1996 และจะเสร็จปี 2015 มีการเสริมความแข็งแรงระยะทางยาวมากกว่า 400  กม. 
 เดือน กย 2008 เนเธอร์แลนด์ต้องการโครงการใหม่ขนาดใหญ่เพื่อป้องกันประเทศจากน้ำท่วมจากปรากฏการณ์เรือนกระจกในอีก 190 ปีข้างหน้า
แผนนี้ได้วาดภาพกรณีเลวร้ายที่สุดสำหรับการอพยพผู้คน รวมทั้งหมดด้วยงบประมาณมากกว่า ร้อยพันล้านยูโร (€100 billion) ไปจนถึงปี 2100 เช่นการทำให้เนินชายฝั่งกว้างขึ้น และทำให้เขื่อนกั้นแม่น้ำและทะเลแข็งแรงขึ้น
คณะกรรมการให้วางแผนว่าระดับน้ำทะเลในทะเลเหนือจะสูงขึ้น  1.3 เมตรในปี 2100 และ 4 เมตรในปี 2200

SmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmiley




ความรู้และความเชี่ยวชาญเรื่องนี้ของชาวดัชท์ได้นำมาใช้แก้ปัญหา Mekong Delta project ในเวียตนาม ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับพื้นที่ Dutch delta ที่เกิดขึ้นบริเวณปากแม่น้ำ 3 แม่น้ำหลักในเนเธอร์แลนด์ แต่ปัญหา Mekong Delta  ยิ่งใหญ่กว่ามาก เพราะมีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่าตะกอนปากแม่น้ำ Rhine, Meuse และ Schelde และแม่น้ำสายรองก็กว้างใหญ่ไพศาลกว่ามาก
เมืองศูนย์กลาง ที่มีประชากรหนาแน่น คือ Ho Chi Minh City, และเมืองใหญ่อื่นๆ
มีพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญมาก โดย 70 % ของข้าวของประเทศเพาะปลูกในบริเวณนี้     และมีฟาร์มเลี้ยงปลา ซึ่งปลาเป็นสินค้าออกอันดับ 3 ของเวียตนาม ตามหลังข้าวและน้ำมัน

และวิธีการของดัชท์ได้นำไปใช้บริเวณตะกอนปากแม่น้ำอื่นๆแล้ว เช่น 
: New Orleans, the Nile, the Ganges (คงคา) , the Indus (สินธุ ) or Jakarta.


SmileySmiley



Create Date : 15 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2558 20:50:36 น.
Counter : 3055 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MAOK
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]