Bloggang.com : weblog for you and your gang
บันทึกเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น..
ณ ห้องประชุมชั้นที่33 บนอาคารสำนักงานใจกลางเมือง
ท่านประธานบริษัทกล่าวกับบรรดาลูกๆหลานๆดังนี้
"คงถึงเวลาที่เราจะต้องขายหุ้นออกไปจำนวนมาก และนั้นคงทำให้เราไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เกินครึ่งอีกต่อไป"
ทุกคนในห้องประชุมพากันเงียบกริบ ต่างก็หันมามองหน้ากันและกันด้วยความงุนงง
สักพัก
ท่านประธานกล่าวต่อว่า
"แต่ในทางพฤตินัย เรายังเป็นผู้กำหนดนโยบายหลัก ตลอดจนการบริหารทุกบริษัทในเครือเหมือนเดิม
หวังว่าผู้ถือหุ้นคนอื่นๆทั้งหมดคงเข้าใจเรา"
มีคำถามจากผู้เป็นหลานๆซึ่งได้ไปร่ำเรียนมาจากสหรัฐอเมริกาและที่อังกฤษว่า
"ทำไมเราถึงต้องขายหุ้นออกไปละอากง ในเมื่อทุกวันนี้ธุรกิจต่างๆของเราก็ประสบความสำเร็จเจริญก้าวหน้า ไม่มีปัญหาใดๆ"
"นั้นซิครับอากง" .. เสียงจากหลานชายอีกคน
"มีใครบอกได้หรือเปล่าว่าเรามีความจำเป็นอะไร อากงถึงได้ตัดสินใจแบบนี้ละค่ะ!" .. อีกเสียงจากผู้เป็นหลานสาว
"ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เราทุกคนต้องร่วมมือกันคิด ร่วมมือกันทำให้ไปในทิศทางเดียวกันเหมือนเช่นที่ผ่านมา"
... เสียงจากลูกชายคนรอง
"คืออย่างนี้ .. เพื่อนๆชาวญี่ป่นของอากงกำลังประสบปัญหาทางการเงิน
อันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิดังที่เป็นข่าว
ซึ่งผลกระทบนั้นมากกว่าที่พวกเราคิด และเราจำเป็นต้องช่วยเหลือให้เร็วที่สุด" .. ..เสียงจากพี่ชายคนโต
"ทำไมเราถึงต้องขนาดขายหุ้นลอตใหญ่เพื่อไปช่วยคนญี่ป่นด้วยละค่ะ
ป๊าและอั้วเองรู้สึกเฉยๆกับคนญีป่นนะ" ....หลานสาวที่จบจากอังกฤษคนเดิมกล่าว
"นั้นซิครับ เราไม่จำเป็นต้องขายหุ้นจำนวนมาก มันมีวิธีอื่นๆที่น่าจะดีกว่านี้" ..... หลานชายที่เรียนจบจากสหรัฐอเมริกากล่าว
"คืออากงพิจารณาแล้ว ...ว่าเงินที่จะช่วยเพื่อนๆชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนไม่น้อย
เอาว่า...ถึงกับหมดตัวก็ต้องช่วยเพื่อนนะ
แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อเพื่อนๆชาวญี่ปุ่นลุกกลับขึ้นมาได้ พวกเขาก็จะมาใช้คืน" .. ..เสียงจากพี่ชายคนโต
"แสดงว่าเพื่อนๆชาวญี่ปุ่นของอากง คงสำคัญกับพวกเรามาก
ถึงขนาดที่ว่า จะขายหุ้นทั้งหมด อากงก็ต้องทำอย่างนั้นเหรอครับ"
...ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน
"อืมม ใช่แล้ว
ขณะที่พวกลื้อยังเด็กเรียนอยู่ต่างประเทศ ไม่มีทางรู้ลึกซึ้งหรอกว่า ปัญหาที่เกิดกับธุรกิจของพวกเรามันหนักหนาสาหัสแค่ไหน?
ช่วงปี2540-2541 ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศไทย หรือที่พวกฝรั่งเรียกวิกฤตต้มยํากุ้ง
เราถึงขนาดล้มไปแล้วเลยนะ"
.....เสียงจากพี่ชายคนโตเล่าต่อ......
"เมื่อฟองสบู่แตก รัฐบาลในขณะนั้นปรับค่าเงิน จากอัตราแลกเปลี่ยน 1 US$ เท่ากับ 25 บาท มาเป็น 1 US$ ราวๆ 50 บาท
เงินกู้ส่วนหนึ่งของธุรกิจเราที่เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ ก็ต้องใช้คืนแพงขึ้นเป็นเท่าตัว
พวกลื้อก็คิดดูกันเอาเองละกัน กู้เงินสกุลต่างประเทศ 100ล้านUS$ ก็ลองเอา 25 บาทคูณกันดู
แต่อยู่ดีๆ หนีสินเพิ่มขึ้นเป็น2เท่าตัว
ในยามที่เศรษกิจตก เงินคงคลังในประเทศก็หร่อยหรอ เพราะฝรั่งมาตีค่าเงิน ราคาหุ้นทุกตัวแทบไม่มีราคา ต่ำกว่าราคาพาร์ทั้งหมด
การดำเนินธุรกิจมันก็ยากมากพอแล้ว
ต้องมาเจอกับอัตราแลกเปลี่ยนอีก ทำให้เรามีภาระหนัก เรียกว่าล้มกันทั่วหน้าในทุกตระกูล"
"เพื่อนคนหนึ่งของอั้ว ทำโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
ประสบปัญหาการเงินยังไม่พอ ยังต้องมาเจอกับมรสุมลูกใหญ่หนักกว่าเดิมด้วยข้อกำหนดของบริษัทฝรั่งอีก
บริษัทแม่รถยนต์ชื่อดังค่ายยุโรปต่างก็ออกนโยบายที่ห้ามใช้ชิ้นส่วนในไทยอีกต่อไป ซึ่งเป็นการซ้ำเติมเข้าไปอีก
ในขณะนั้นพวกเราต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
อั้วไปเยี่ยมโรงงานของเพื่อนคนนี้ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งใหม่ที่เพิ่งลงทุนขยายได้ไม่นาน
รู้มั๊ยว่าเขาเดินแบกค้อนปอนด์ไปทุบเครื่องจักรให้อั้วเห็น
เขาบอกว่า ในเมื่อมีเครื่องจักร แต่ผลิตสินค้าออกมาแล้วขายไม่ได้ มันก็ไม่ต่างจากเศษเหล็กดีๆนี้เอง
ครั้นจะนำเครื่องจักรที่เพิ่งซื้อมาไปขาย ก็ไม่มีใครเขาเอา ไม่ว่าจะประเทศใกล้เคียง
แล้วนี้ก็ไม่มีเงินไปจ่ายดอกเบี้ย ทางธนาคารกำลังมายึด รวมถึงบ้านที่อยู่ภายในโรงงานอีก
คนงานทั้งหมดก็ตกงาน"
"ส่วนธุรกิจหลักของเราก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ล้มระเนระนาดเกือบแทบทั้งหมด หลายธนาคารถูกปิด
เราไม่มีเงินมาหมุนเวียนอีกต่อไป ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆของเราก็ขายไม่ได้ แม้ว่าจะลดราคาลงครึ่งหนึ่งแล้ว"
หลายบริษัทเริ่มลดเงินเดือนพนักงานในทุกระดับ พร้อมทั้งเชิญให้ออก สุดท้ายแล้วก็ต้องปิดกิจการทั้งหมด
เราเองก็ไม่ต่างจากใครๆ พนักงานและคนงานจำนวนหลายพันคนต้องประสบปัญหา
พนักงานหลายคนที่ไปใช้วงเงินสินเชื่อกู้บ้านกับธนาคารซิตี้แบงค์
ต่างก็เจอกับดอกเบี้ยมหาโหด18% นี้คืออัตราสำหรับลูกค้าชั้นดีที่ไม่ผิดนัดการชำระนะ จากเดิม12.5%
ซึ่งเกิดจากนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยของรัฐบาลชุดนั้น
หลายคนถุกยึดบ้านไปขายทอดตลาด ในเวลาเพียง3-6เดือนเท่านั้น"
รัฐบาลไปสนับสนุนให้บริษัทต่างชาติมาประมูลซื้อบัญชีลูกหนี้ แล้วเรียกเหมารวมว่าหนี้เน่า ในราคาถูกๆ
คนไทยได้แค่มองตาปริบๆ เพราะไม่มีเงินพอไปซื้อแข่งกับฝรั่ง
สุดท้ายฝรั่งก็กลับมาขายให้คนไทยในราคาที่สูงขึ้นมาก
ธุรกิจเของราเองทั้งหมดก็กำลังจะล้มเช่นกัน อากงของเราไม่ได้หลับได้นอน
ยามที่หลับตาก็เห็นตัวเองยืนหันหลังให้กับเหวลึก และค่อยๆถูกดันให้เขยิบไปอยู่ริมหน้าผาที่มีเพียงเส้นด้ายให้พิงกันตกเท่านั้น
เท้าของอากงกำลังจะลื่นตกลงไป
แต่แล้วเช้าวันรุ่งขึ้น ........
เพื่อนๆชาวญี่ป่นของอากง ก็ติดต่อมา พร้อมลงขันกันให้กู้ .... เพราะพวกเขาไม่ได้มองว่าเป็นความผิดของเรา
พวกเขาไม่ทอดทิ้งเรา"
เพื่อนๆชาวญีปุ่นบอกว่าไม่ได้ช่วยอากงอย่างเดียวหรอก
แต่ขอได้ช่วยคนไทยอีกหลายพันคนไม่ให้ตกงาน ไม่ให้โดนฝรั่งยึดบ้านไปขาย
ในตอนนั้น ถึงแม้ว่าเราจะขายหุ้น ขายสินทรัพย์ที่มีทั้งหมด ก็ยังไม่พอใช้หนี้
แต่เราโชคดีกว่าคนอื่นที่มีเพื่อนที่ดี
ถึงตอนนี้ เพื่อนๆที่เคยช่วยเรากำลังประสบปัญหาไม่ต่างจากเราในสมัย10กว่าปีที่แล้ว
เช่นกัน เราก็ไม่ได้คิดว่าเป็นการช่วยเพื่อนของเราเท่านั้น ยังเป็นการช่วยพนักงานชาวญี่ปุ่นอีกจำนวนมากในทางอ้อมอีกด้วย"
อีกทั้งตอนนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นได้เคยช่วยเหลือกับคนไทยโดยให้กู้ในโครงการมิยาซาวาเป็นจำนวนเงิน50,000 ล้านบาท
โดยไม่มีเงื่อนไขเหมือนพวกฝรั่ง และยังให้รีบระบายเงินเข้าสู่ระบบโดยไวอีกด้วย
ตอนนี้อากงจึงมีความคิดว่า ไหนๆจะเทขายหุ้นออกจำนวนมากแล้ว
ก็อยากให้แบ่งเงินที่ได้มาออกเป็นสามส่วน
ส่วนแรก ที่เป็นเงินก้อนใหญ่จะให้เพื่อนๆชาวญี่ปุ่นยืมไปหมุนเวียนในธุรกิจ
ส่วนที่สอง มอบให้กับกาชาดญี่ปุ่นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
และส่วนที่สาม ไว้ช่วยเหลือคนไทยจากภัยพิบัติต่างๆและมอบให้กับองค์กรการกุศล
ยังมีต่อตอนที่2 ....
Create Date : 27 มีนาคม 2554
Last Update : 31 มีนาคม 2554 10:31:14 น.
47 comments
Counter : 771 Pageviews.
Share
Tweet
ทำถูกต้องแล้วครับ มิตรแท้ในยามยาก มีค่ายิ่งกว่าโลกทั้งใบที่ทำด้วยทองคำ
คนที่ช่วยให้เราพ้นสภาพหมดตัวมาได้
ถ้าเราไม่ช่วยคนแบบนี้ แล้วจะช่วยใครคนไหนในโลก
โดย:
ฤดูกาลใต้แสงจันทร์
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:0:28:05 น.
ยิ่งให้ ยิ่งได้ครับ สั้น ๆ แต่ได้ความหมายที่ลึกซึ้งนะครับ
โดย:
chaichoti
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:0:34:27 น.
ฤดูกาลใต้แสงจันทร์ , chaichoti
^
ขอบคุณทั้ง2ท่านมากนะครับ
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:0:39:21 น.
สวัสดียามดึกค่ะ
กำลังลุ้นอยู่ค่ะว่าขอให้เป็นไปในแบบที่ใจหวังอยากให้เป็น
คำว่าเพื่อนที่จะเห็นใจกันในยามยากนั้นหาได้ไม่ง่ายเลยในสังคมยุคปัจจุบัน "ขอให้ท่านประธานสัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่ตั้งใจเอาใจ"
โดย:
cvJ;
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:0:42:50 น.
cvJ;
^
สวัสดีเช่นกันครับ และขอบคุณมากนะครับ
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:0:58:28 น.
โดย:
คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:1:32:16 น.
คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน
^
เธอนิ จะเม้นท์อะไรก็เม้นท์ ชอบมาทำหน้าตางงงวย อยู่เรื่อย เดี๊ยวเถอะ!
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:1:39:01 น.
แวะมาอ่านค่ะ จะรอดูว่าจะผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
โดย:
Fung Lan
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:1:43:49 น.
Fung Lan
^
ขอบคุณครับ แต่เราพิมพ์ช้าหน่อยนะ นานทีค่อยเข้ามาก็ได้ครับ
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:1:50:21 น.
เข้ามาตามอ่านอยู่เรื่อยๆค่ะ
โดย: ..... IP: 58.8.76.245 วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:2:12:16 น.
ก้องงงวยจริงๆนี่น่า ว่ามันจะจบยังไงเรื่องเล่าเรื่องนี้ แบบว่าไม่ชอบรออ่ะ เขียนต่อเร็วๆนะก๊าบอิตา MM
โดย:
คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:2:24:19 น.
..... ( ห้าจุด )
^
อืมม เธอนิเยี่ยมมากเลย
-------
ส่วน คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน
คอมเราไม่ดีนะ พิมพ์ได้นิด มันก็แฮ้งค์ เธอไม่ต้องรอหรอก
ไว้เช้าพรุ่งนี้กลับมาอ่าน เราก็ยังเขียนไม่จบหรอกนะ อิอิ!
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:2:29:57 น.
ลงชื่อด้วยคน
ว่าแต่เรื่องจริงช่ายปะ
โดย:
Sassy Imp
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:2:49:07 น.
ชิ
ใจร้ายมาก ชอบทำให้อยากแล้วจากไปอยู่เรื่อย แต่ไงเราก้อเข้ามาเป้นระยะอยู่แล้วก๊าบบบ ราตรีนี่ยังอีกยาวไกล
good night นะจ๊ะ
โดย:
คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:2:50:56 น.
Sassy Imp
^
อ้าว ไหนถามอย่างนี้ละ ยังไม่นอนอีกเหรอเธอ หรือว่าตื่นแต่เช้ามืดเลย
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:2:52:11 น.
พรุ่งนี้จะมาอ่านตอนต่อไปค่ะ
โดย: ..... IP: 58.8.76.245 วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:4:08:45 น.
..... ( ห้าจุด )
^
อืมม เธอนิอึดจริงๆ ตี4กว่าแล้ว
เรากำลังจะบอกว่า พรุ่งนี้จะมาเขียนต่ออยู่พอดีเลย ...
ไปนอนดีกว่า
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:4:12:20 น.
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันนะคะ จะมาตามอ่านตอนต่อไปค่ะ ที่บ้านเป็นไงบ้างคะ
โดย: คนไม่มีบล็อค IP: 94.211.78.190 วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:5:07:08 น.
ขอบคุณครับ เรื่องจริงเหรอเนี่ย
โดย: แอ๋ง แอ๋ง (
hieina
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:7:28:19 น.
อืมมมมมมมมมม
มาอ่านเพิ่มอีก 6 บันทัดค่ะ
โดย: ..... IP: 58.8.93.114 วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:13:06:04 น.
สุดยอดเรยค่ะ
โดย: ส้นสูง (
ส้นสู๊ง..สูง
) วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:20:40:46 น.
โดย:
toeyao
วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:05:50 น.
เรื่องภายในจริงๆด้วย 555
โดย: ..... IP: 58.8.93.114 วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:06:22 น.
..... ( ห้าจุด )
^
เธอนี้ทำเราฮาหลายหนมาก 555
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:10:55 น.
คนไม่มีบล็อค , แอ๋ง แอ๋ง (hieina) , ส้นสูง (ส้นสู๊ง..สูง) , toeyao
^
ขอบคุณมากนะครับ ...
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:13:13 น.
พวกเขาไม่ทอดทิ้งเรา
อ่านประโยคนี้แล้ว สะเทือนใจมากครับ
โดย:
ฤดูกาลใต้แสงจันทร์
วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:27:42 น.
ฤดูกาลใต้แสงจันทร์
^
อืมม เห็นด้วยเลยครับ
ยิ่งถ้าอยู่ในเหตุการณ์ สถานการณ์เวลานั้นในอดีต
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:42:44 น.
อิตาMMก็ทำเราขำกลิ้งหลายหนเหมือนกานนนนน
เอิ๊กๆๆ
โดย: ..... IP: 58.8.93.114 วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:46:59 น.
โดย: KrUmeOw (
Kitten ConCerto
) วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:48:28 น.
..... ( ห้าจุด )
^
เราแปะไว้กี่เรื่องแล้ว ... อยากอ่านต่อเดี๊ยวให้ Password เข้าไปดูเว็บส่วนตัว
ไม่แพงหรอกแค่US$
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:0:51:57 น.
ไม่แพงหรอกแค่US$
ใจร้ายจัง...ลดหน่อยน๊าๆๆๆๆ
เป็นไทยบาทแล้วกัน
โดย: ..... IP: 58.8.93.114 วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:1:25:14 น.
..... ห้าจุด
^
ไว้เปิดตัวเว็บก่อนละกัน
โทษทีตอบช้า เผลอหลับไปนะ ไปนอนต่อดีกว่า
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:1:53:39 น.
มารอดูเวปส่วนตัวด้วยคนค่ะ อิือิ
โดย: คนไม่มีบล็อค IP: 94.211.78.190 วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:2:06:15 น.
คนไม่มีบล็อค
^
คุ้มมากเลยนะ แต่ละเรื่องมีสาระประโยชน์มาก
ดูเราเป็นตัวอย่างได้เลย
เพียงแค่วันละ1 US$
โดย: MM (
ongchai_maewmong
) วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:2:10:30 น.
ดีใจและปลื้มใจมากที่ได้อ่าน
ขอคารวะอากง . .
อยากเห็นคนรวยๆคิดทำเรื่องแบบนี้
ขอบคุณ MM ที่นำมาเล่า . . จะรออ่านต่อ
โดย:
Dingtech
วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:3:02:20 น.
อยากอ่านต่อค่ะ
ช่วยได้ต้องช่วยกันนะคะ
โดย:
kim_tiger
วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:10:38:29 น.
ชื่นชมอากงมากๆ เลยค่ะ
ปล. ไม่ได้มาบล็อคนี้นาน เรื่องราวในบล็อกวันนี้ เข้ากับเพลงที่สุดเลยค่ะ :)
โดย:
น้ำค้างเดือนหก
วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:12:52:11 น.
อ่านแล้วขนลุก ชื่นชมอากงเหลือเกิน ยากที่จะหาคนมีน้ำใจยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ สาธุ..ขอบุญกุศลนี้ดลบันดาลให้อากงและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป รวมทั้งกิจการเจริญรุ่งเรืองยิ่่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเทอญ..
โดย: Maeboon IP: 85.201.232.98 วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:18:53:46 น.
คำว่า "เพื่อน" จะรู้ซึ้งที่สุดก็ตอนที่ลำบากนี่ล่ะค่ะ ว่าใครคือ "เพื่อนแท้" ของเรา
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ นะคะคุณ MM (มาเขียนต่อเมื่อไรแวะไปบอกบ้างนะคะ อิอิ)
โดย:
Yai Klong_Tour Rai
วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:23:22:34 น.
อ่าววว ยังไม่อัพ ต่ออีกหรออออ เนี่ยยย
ให้เวลา ตั้งเป็นวันแล้วววน้าา อิอิ
โดย:
Sassy Imp
วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:2:14:32 น.
มาด้วยๆ
โดย:
piGipo
วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:2:36:01 น.
แวะเข้ามาอ่าน พออ่านแล้วขนลุก เพื่อนแท้หายากนะค่ะรอตอนต่อไปจ๊ะ
โดย:
ไอชิรา
วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:18:36:06 น.
อิตา MM เอ้ยยยย เค้าไว้ฉีดแก้คัดจมูก
ไม่ได้แก้บรรเทาอาการคิดถึงงง แหม๋๋๋
ถ้าไง ลองใช้แล้ว ได้ผล เอามาบอกต่อด้วยนะ5555
ว่าแต่เธอว์ ไม่คิดอัพต่อหรอ ผู้ชมเค้ารอติดตามกันนะเนี่ย
โดย:
Sassy Imp
วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:19:45:10 น.
โดย:
Princess Lily
วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:10:52:27 น.
โดย:
คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน
วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:0:46:41 น.
รออ่านอยู่นะคะ
โดย:
Red-Rose-14Feb
วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:14:34:15 น.
BKK สาทร ตอนกลางคืน..good photographer ..khun MM
ช่วงตรุษจีนหน้าบ้านอากง คนเข้าแถวยาวมากกกกกกก..
มีเเต่คนที่จนจริงมารับ ข้าว น้ำตาล น้ำปลาetc.....ห้ามนักข่าวมาทำข่าว..ช่วยด้วยใจจริง จริง
โดย: maithai IP: 125.25.139.45 วันที่: 2 เมษายน 2554 เวลา:12:26:54 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
MM Story
Location :
Singapore / Bangkok / Sapporo - Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [
?
]
New Comments
Group Blog
มีนาคม 2554
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
27 มีนาคม 2554
บันทึกเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น..
All Blogs
บันทึกเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น..
บันทึกเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น.
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add MM Story's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
คนที่ช่วยให้เราพ้นสภาพหมดตัวมาได้
ถ้าเราไม่ช่วยคนแบบนี้ แล้วจะช่วยใครคนไหนในโลก