พื้นฐานก่อนเริ่มต้นถ่ายภาพสินค้า ตอนที่ 2
พื้นฐานก่อนเริ่มต้นถ่ายภาพสินค้า ตอนที่ 2 รูรับแสง กับ การถ่ายภาพสินค้า ( Aperture ) Aperture หรือ f/stop หมายถึง ขนาดของรูรับแสงที่ปล่อยให้แสงผ่านไปยังเซ็นเซอร์
ถ้าค่า Aperture หรือ f/stop ต่ำ ตัวอย่างเช่น f/2 หมายถึง ขนาดรูรับแสงจะเปิดกว้างเพื่อให้แสงผ่านเข้าไปได้มาก ถ้าค่า Aperture หรือ f/stop สูง ตัวอย่างเช่น f/16 หมายถึง ขนาดของรูรับแสงจะเปิดแคบ แสงจะผ่านได้น้อย
ในขณะที่รูรับแสงมีผลกับความสว่างของภาพ ยังส่งผลไปยังความชัดตื้น ชัดลึกของภาพ หรือDepth of Field (DoF) ถ้าค่า Aperture หรือ f/stop ต่ำ ตัวอย่างเช่น f/2 หมายถึง ภาพจะมีความชัดตื้น เน้นการเก็บรายละเอียดเป็นจุด และปล่อยให้พื้นหลังเบลอ ซึ่งทำให้ภาพโดยรวมดูเหมือนกับความฝัน แต่ถ้าค่า Aperture หรือ f/stop สูง ตัวอย่างเช่น f/16 หมายถึง ภาพจะมีความชัดลึก ภาพที่ได้จะมีความคมชัด เน้นเก็บรายละเอียดทั้งภาพ สำหรับการถ่ายภาพสินค้า ลองตั้งค่าตามความชอบส่วนบุคคล ถ้าอยากได้ภาพที่ดูเหมือนสินค้าในความฝัน ตั่งค่า f/stop ต่ำ หรือ ถ้าต้องการเก็บรายละเอียดของภาพมากๆ เพื่อให้ดูว่าสินค้าชิ้นนั้น เป็นสินค้าที่ประณีต ทำด้วยมือ เป็นต้น
ความเร็วชัตเตอร์ กับ การถ่ายภาพสินค้า ( Shutter Speed ) ชัตเตอร์ในกล้องถ่ายรูป มีหน้าที่ในการเปิด-ปิด เพื่อควบคุมปริมาณแสงที่จะผ่านเข้าไปยังเซ็นเซอร์ โดยจะควบคุมในหน่วยของวินาที ตัวอย่างเช่น 1/100 คือการเปิด-ปิดชัตเตอร์อย่างรวดเร็วเพื่อให้ปริมาณแสงผ่านเข้าไปได้ในปริมาณน้อย ส่วนการที่ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/1 คือการให้ปริมาณแสงผ่านเข้าไปได้ในปริมาณที่มาก เป็นต้น ในการที่ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำ จะทำให้ภาพรับแสงผ่านเข้ามาได้มาก ซึ่งทำให้ได้ภาพที่ได้จะสว่าง แต่บางครั้งการที่เราถ่ายภาพแล้วเกิดการสั่นสะเทือนระหว่างการเปิด-ปิด ของชัตเตอร์ จะทำให้ได้ภาพที่สั่น เบลอ จึงควรระวัง ในเรื่องของการตั้งค่าชัตเตอร์ให้เหมาะสมสำหรับถ่ายภาพนั้นๆ หลักง่ายๆ นั้นพยายามอย่าตั้งค่าที่ต่ำกว่า 1/30 เพราะจะมีโอกาสได้ภาพที่สั่น ในกรณีที่จำเป็นต้องถ่ายด้วยค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำกว่า 1/30 สามารถมองหา ขาตั้งกล้อง เพื่อช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น สำหรับการถ่ายภาพสินค้า พยายามตั้งค่าที่เกินกว่า 1/30 ก็จะอยู่ในช่วงที่ปลอดภัย ได้ภาพที่ออกมาสว่างและมีโฟกัสของภาพ อย่างแน่นอน ความไวแสงของเซ็นเซอร์กล้อง ( Exposure หรือ ISO ) การตั้งค่าความไวแสงของเซ็นเซอร์ คือ การตั้งค่าว่าให้เซ็นเซอร์มีความเร็วในการบันทึกแสงเร็วแค่ไหน โดยการทำงานนี้จะรับแสงหลังจากที่ผ่านการตั้งค่า f/stop และ ความเร็วของชัตเตอร์มาแล้ว ค่าความไวแสงของเซ็นเซอร์จะส่งผลโดยตรงกับภาพในด้านของ สี ความชัด และ รายละเอียดของภาพ ค่าความไวแสงของเซ็นเซอร์จะถูกควบคุมด้วยค่า ISO โดยถ้าตั้งค่า ISO ต่ำ ตัวอย่างเช่น ISO 100หมายความว่า ความไวแสงของเซ็นเซอร์จะช้า บันทึกหรือซึมซับแสงได้น้อย โดยมากจะนิยมใช้กันในกรณีที่ถ่ายรูปสินค้าที่มีแสงสว่างมากเพียงพอ แต่ถ้าตั้งค่า ISO สูง ตัวอย่างเช่น ISO 5000หมายความว่า ความไวแสงของเซ็นเซอร์จะไวต่อการบันทึกและซึมซับแสงได้มากยิ่งขึ้น โดยมากจะใช้ในกรณีที่มีแสงน้อย แต่การตั้งค่า ISO สูง จะมีข้อเสียในเรื่องของ Noise ซึ่งทำให้ภาพที่ออกมาเป็นจุดๆ ไม่เนียนเรียบเหมือนกับภาพทั่วไป THE HISTOGRAM การอ่านค่า Histogram หรือ ตารางวัดความสมดุลของแสง เป็นกุญแจสำคัญในการตั้งค่าความไวแสงของเซ็นซอร์กล้อง โดยเราสามารถอ่านค่านี้จากจอแสดงผลหลังกล้องถ่ายรูป หรือ ในโปรแกรมแต่งภาพทั่วๆไป โดยทางด้านซ้ายมือ จะเป็น ค่าของความมืด/ดำ และ ทางด้านขวามือ จะเป็นค่าของความสว่าง/ขาว ความสูงของกราฟจะบอกถึงค่าของความสว่าง และ ส่วนยอดแหลมจะบอกถึงค่าพื้นที่ที่ไม่สามารถจับรายละเอียดได้ หรือ อาจแปลว่าได้ภาพเป็นสีขาว หรือ ดำ จนไม่สามารถเก็บรายละเอียดนั้นๆได้ ซึ่งค่านี้ไม่ได้หมายความว่าถ้ารูปทรงของกราฟ Histogram ที่ดูดีดูสมดุล เหมือนกับระฆังคว่ำ จะทำให้ได้ภาพที่สวยงาม เพราะภาพบางภาพจะมีรูปทรงของกราฟที่ไม่สมดุล แต่ดูออกมาสวยงามกว่ากราฟที่สมดุลได้เช่นกัน สำหรับการถ่ายภาพสินค้า ควรที่จัดแสงไฟให้มีความสว่างมากพอ และไม่ควรเลือก ISO ที่ไม่ค่าสูง
สี กับ การถ่ายภาพสินค้า สีกับการถ่ายภาพสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเลือกซื้อสินค้านั้น สีเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ในตามความชอบของผู้บริโภค สีของสินค้าในภาพถ่าย ควรที่จะเหมือนกับสีของสินค้าจริงๆ ที่เรามองเห็น
หลอดไฟที่ใช้ในการถ่ายภาพสินค้า ควรเลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังไฟมากพอที่จะเก็บรายละเอียดต่างๆ และ ให้สีของแสงที่ถูกต้อง หรือ เป็นแสงที่ออกสีขาว เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อสีของสินค้าให้เปลี่ยนไปจากความเป็นจริง รวมไปถึงแสงเงาสะท้อนที่เกิดจากแสงไฟ ให้สีของเงามีความเป็นประกายที่ถูกต้อง การตั้งค่า White Balance ที่ถูกต้องเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยปรับอุณหภูมิสีของภาพให้ถูกต้อง โดยการตั้งค่านั้น วิธีง่ายๆ ในกรณีที่ไม่มีอุปกรณ์ ลองใช้กล้องถ่ายรูปจับสีขาว และ ปรับ white balance จนได้ภาพที่เป็นสีขาวจริงๆ แล้วจะทำให้สีอื่นๆ จะถูกต้องตามมาเช่นเดียวกัน สำหรับมืออาชีพสามารถใช้ แผ่นตั้งค่า white balance สีขาว และ สีเทา ที่มีขายในท้องตลาดเพื่อตั้งค่า white balance ที่ถูกต้องก่อนการเริ่มถ่ายภาพ ข้อควรระวัง การที่เราใช้สีของแสงที่ไม่เหมือนกันในการถ่ายภาพสินค้า เช่น ใช้แสงธรรมชาติผสมกับแสงจากโคมไฟ จะทำให้กล้องไม่สามารถที่จะจับอุณหภูมิสีที่ถูกต้องได้ ส่วนการใช้ฉากหลังที่มีสีในการถ่ายภาพสินค้า ควรที่จะระวังเรื่องสีของฉากหลังสะท้อนลงบนตัวสินค้า และทำให้สินค้าสีเปลี่ยนจากสีจริงได้ ติดตาม บทความต่อๆไป เร็วๆนี้... Content by Lookcamera ถ่ายภาพสินค้า ชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพสินค้า เต็นท์ถ่ายภาพ สตูดิโอถ่ายภาพสินค้า
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //www.lookcamera.com //www.facebook.com/lookcamerashop
Create Date : 28 มีนาคม 2557 |
Last Update : 11 เมษายน 2557 11:30:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 813 Pageviews. |
|
|
|