กำหนดชีวิตตนเองให้เป็น

แต่ละคนที่มีชีวิตเกิดมา เมื่อผ่านชีวิตมาพอสมควร มีประสบการณ์ชีวิตในแต่ละด้านมากมาย ก็มักอดที่จะเจอปัญหาว่า ทำไมบางเรื่องที่เราทำ กลับไม่ได้ผลลัพธ์ดั่งที่เราตั้งใจ ทั้งๆ ที่คิดว่าทำดีแล้ว คิดอย่างรอบคอบแล้ว ทุ่มเทอย่างเต็มที่แล้ว แต่ปรากฏว่าผลที่ออกมาล้มเหลวไม่เป็นท่า ตรงกันข้ามกับผลที่เราคาดหวังไว้ ปัญหานี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต ถ้าจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับการลงทุนที่สูญเปล่านั่นเอง บางท่านที่เจอปัญหาแบบนี้ บางทีก็แทบล้มประดาตายไปเลย บางคนตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าจะหาทางแก้ไขปัญหาแบบนี้ได้อย่างไร แล้วเราล่ะ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหลาย ค้นพบทางออกนี้หรือยัง

สมัยที่ศึกษาโหราศาสตร์ใหม่ๆ พอมีโอกาสนำวิชาไปใช้พยากรณ์ ผลสะท้อนที่ผมได้รับกลับมา คือ เราสามารถพยากรณ์ได้แม่นยำ ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ทำให้มีความมั่นใจในวิชาโหราศาสตร์ ในบางวิชาก็สอนวิธีแก้ไขในยามดวงชะตาไม่ดี ให้ผ่อนหนักเป็นเบา เช่น สวดมนต์เท่านั้นจบ เท่านี้จบ สร้างดวงพิชัยสงคราม ทำบุญให้ทาน ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า บริจาคโลหิต ซื้อชีวิตวัวควาย บริจาคของ บริจาคโลงศพ ทำพิธีบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องของวิธีแก้ดวงในรูปแบบหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงขั้นกำหนดชีวิตตนเองให้ได้ดังใจ

พอศึกษาโหราศาสตร์ยูเรเนียน ผมรู้สึกประทับใจในวิชานี้ตรงที่ว่า ก่อนที่อาจารย์จะสอนถึงตัวเทคนิคการพยากรณ์ จะต้องสอนถึงปรัชญาที่เป็นต้นตอหรือที่มาของเทคนิคการพยากรณ์นั้นเอง ทำให้เรารู้ถึงต้นตอของหลักวิชา หากใครมีสติปัญญา ก็สามารถนำปรัชญานั้นไปคิดต่อยอดได้อีกมากมาย หลังจากที่ศึกษาจบแล้ว ผมก็มุ่งไปในเรื่องของการพยากรณ์ดวงชะตาเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีหลักมากมายให้ใช้และฝึกฝน จนกระทั่งได้มีโอกาสมาเขียนหนังสือพยากรณ์ประจำปีเล่มแรกตอนปลายปี พ.ศ. 2536 ชื่อว่า “พลานุภาพแห่งปูมพยากรณ์ 2537”

ในระหว่างการเขียนต้นฉบับจะต้องนำความรู้ทั้งหมดที่ได้ศึกษามาทบทวน ผมเองต้องทำตัวเหมือนเป็นผู้อ่าน ก็จะมีข้อสงสัยในเทคนิคและปรัชญาหลายๆ ประการ ทำให้ต้องคิดอย่างลึกซึ้ง บางเรื่องทำให้เกิดสมมติฐานใหม่ๆ และใช้เวลาทดสอบอยู่หลายปี โดยเฉพาะในเรื่องของการกำหนดชีวิตตนเองให้เป็นไปตามต้องการ เมื่อพบว่าผลลัพธ์เป็นไปตามที่เราตั้งสมมุติฐานไว้ ก็พยายามนำมาเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง และตนเองก็สามารถใช้ทฤษฎี หลักการเหล่านี้ ทำให้ชีวิตดำเนินไปตามแนวที่เรากำหนดไว้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหลักการที่ค้นพบใหม่นี้ เป็นการนำสมมุติฐานที่ผมสงสัย และได้ทดสอบร่วมกับเทคนิค ความรู้ทางโหราศาสตร์จนเป็นที่มั่นใจ และสามารถนำมาใช้ปฏิบัติจริงได้แบบง่ายๆ ทำให้อยู่ในระดับรู้อนาคตและกำหนดอนาคตของตนเองได้ในระดับหนึ่ง

การกำหนดชีวิตตนเองให้เป็นตามแนวทางของผม มีตั้งแต่

1. กำหนดชีวิตบุตรตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์

2. กำหนดชีวิตบุตรหลังการคลอดจากครรภ์มารดา

3. กำหนดชีวิตประจำปีจากวันท้องฟ้าเปลี่ยนศักราช

4. กำหนดชีวิตประจำปีจากวันครบรอบวันเกิดทางโหราศาสตร์

5. กำหนดชีวิตตนเองรายไตรมาส

6. กำหนดชีวิตตนเองรายเดือน

7. กำหนดชีวิตตนเองรายสัปดาห์

8. กำหนดชีวิตตนเองในแต่ละวัน

9. และอื่นๆ อีกมากมาย

การเรียนรู้ทางโหราศาสตร์ทำให้เราได้รู้จักจังหวะการโคจรของดวงดาวใน รูปแบบต่างๆ เนื่องจากตามหลักแล้ว ฟ้ากับโลกนั้นมีความเชื่อมโยงกัน ฟ้าเป็นอย่างไร โลกย่อมเป็นเช่นนั้น โลกเป็นอย่างไร ฟ้าย่อมเป็นเช่นนั้น หากเราเรียนรู้ฟ้า เข้าใจจังหวะของฟ้า รู้ใจฟ้า เราย่อมเข้าใจโลก และกำหนดความเป็นไปของโลกได้ ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อเรารู้จังหวะฟ้า หากเราจะกำหนดชีวิตตนเองให้ได้ เราก็ต้องรู้จักเลือกทำให้ถูกจังหวะ ผลลัพธ์ของกิจกรรมนั้นๆ ก็จะเป็นไปตามที่เราต้องการ

เนื่องจากเดือนนี้มีจังหวะของท้องฟ้าที่สำคัญจังหวะหนึ่ง คือ จังหวะการเปลี่ยนฤดูกาล ซึ่งคือ จังหวะที่อาทิตย์โคจรย้ายเข้าสู่ราศีตุลย์ ราศีนี้ถือเป็นราศีทวาร เป็นจังหวะโลกเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงของปี เทียบกับช่วง 6 โมงเย็นของแต่ละวัน ตอนศึกษาโหราศาสตร์ หากเราต้องการตรวจดวงชะตาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เราก็ต้องผูกดวงชะตาอาทิตย์ทับจุดตุลย์หรืออาทิตย์ย้ายเข้าสู่ราศีตุลย์มากระทบกับดวงชะตากำเนิดของเรา ถ้าไม่คิดอะไรมากมาย เราก็จะสามารถพยากรณ์ดวงชะตาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ถ้าคิดต่อสักนิด ก็จะเกิดความสงสัยว่าทำไมดวงชะตาจรดวงเดียวกันสามารถใช้พยากรณ์ร่วมกันทั้งโลกได้ และการที่ดวงชะตานี้มีฤทธิ์นาน 3 เดือนหรือ 1 ไตรมาส น่าจะจินตนาการได้ว่า วันนี้น่าจะมีฤทธิ์ 3 เดือน ถ้าใส่อารมณ์จินตนาการเข้าไปอีก แหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็จะเห็นเหมือนประตูท้องฟ้าเปิด ดวงดาวแต่ละดวงส่งกระแสของตนลงมาสู่โลก ทำให้ชีวิตของคนในโลกเป็นไปตามอิทธิพลของตนที่ส่งลงมา ตรงนี้แหละสำคัญทำให้ผมคิดต่อว่า วันนี้ประตูฟ้าเปิดสำหรับคนทั้งโลก วันนี้พลังของดวงดาวมากเป็นพิเศษ เนื่องจากดวงดาวมีอิทธิพลต่อโลกและมนุษย์ ดังนั้นเหตุการณ์ที่มนุษย์แต่ละคนประสบย่อมมาจากอิทธิพลของดวงดาว ซึ่งเทียบเคียงได้ว่า เหตุการณ์ในวันนี้น่าจะเป็นแบบจำลองหรือพิมพ์เขียวของเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นกับเราในช่วง 1 ไตรมาสดังกล่าว นี่เป็นเรื่องของ “ฟ้ากำหนดคน”

อย่ากระนั้นเลย ไหนๆ ประตูฟ้าก็เปิดแล้ว แทนที่เราจะให้ดวงดาวส่งกระแสมากำหนดชีวิตเราฝ่ายเดียว เราก็ฉวยโอกาสใช้จังหวะนี้ กำหนด (หรือสั่ง) ให้ดวงดาวแสดงอิทธิพลตามที่เราต้องการ นั่นคือ “คนกำหนดฟ้า”

ด้วยแนวความคิดนี้ ผมจึงตั้งสมมุติฐานว่า ถ้าเราประสบเหตุการณ์ใดในวันนี้ เราก็น่าจะประสบเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ในช่วง 3 เดือน (ไตรมาส) ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้จริง เราจะได้ประโยชน์ 2 ประการ คือ

1. รู้อนาคตตนเองในช่วง 3 เดือนนี้
2. กำหนดอนาคตตนเองในช่วง 3 เดือนนี้ได้

ผมใช้เวลาหลายปีในการทดสอบสมมุติฐานนี้ (ร่วมกับสมมุติฐานอื่นๆ ทำนองเดียวกันอีกมากมาย) และได้ผลลัพธ์จากเหตุการณ์ในชีวิตจริงของผมว่า สมมุติฐานที่ผมตั้งไว้ถูกต้องร้อยเปอเซ็นต์ทุกประการ ดังนั้น หากท่านอยากกำหนดชีวิตตนเองในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ ท่านต้องทราบก่อนว่าวันท้องฟ้าเปลี่ยนฤดูกาลตรงกับวันที่เท่าไร เวลาใด ซึ่งขอบอกให้ทราบตรงนี้เลยว่า ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 10.09 น. กรุงเทพมหานคร นั่นหมายความว่า ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2553 เวลา 10.09 น.ถึงวันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2553 เวลา 10.08 น. หรือความนาน 1 วัน จะมีฤทธิ์เท่ากับ 3 เดือน แสดงว่า เหตุการณ์ที่เราประสบในช่วง 1 วันนี้ จะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นกับเราในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ สิ่งที่ท่านควรปฏิบัติ คือ เลือกทำแต่เรื่องดีๆ ที่ท่านอยากให้เกิดขึ้นกับชีวิตท่านในวันนี้ (กำหนดชีวิตตนเอง) และบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นไว้ด้วย (รู้ชีวิตตนเอง) นี่แหละครับ การใช้ชีวิตให้ถูกจังหวะ

บางท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วเราจะกำหนดชีวิตตนเองอย่างไรดี ถ้ายังไม่รู้ว่าจะอย่างไร ก็ทำตามข้อแนะนำของผมก่อน พอท่านคุ้นเคยแล้วก็จะสามารถพลิกแพลงได้เอง ผมขอแยกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ของชีวิต ดังนี้

การงาน ในช่วง 1 วันดังกล่าว ควรทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ พอหมดช่วงของวัน ให้มีผลลัพธ์ของงานออกมาดีเป็นที่น่าพอใจ งานในช่วง 3 เดือนนี้จะได้ออกมาดีเหมือนต้นแบบที่เราสร้างไว้ บางครั้งเราอาจเจอปัญหาที่เราไม่ได้เป็นคนสร้าง ขอแนะนำให้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ลุล่วง มิฉะนั้นในช่วง 3 เดือนนี้ ท่านจะเจอแต่ปัญหาที่แก้ไม่ตก แก้ให้ตายก็ไม่ตกจริงๆ ด้วย

การเงิน จากประสบการณ์ของผมเอง ผมใช้วิธีเบิกเงินให้เต็มกระเป๋าก่อนถึงวันท้องฟ้าเปิด 1 วัน เป็นการสร้างพฤติกรรม “ฉันรวย” (บังคับฟ้าให้ส่งพลังแห่งความร่ำรวยมาให้เราโดยไม่รู้ตัว) เหตุการณ์จริงที่ประสบในช่วง 3 เดือนจะทำให้เรา “รวย” หรืออย่างน้อยยามเดือดร้อนก็มักจะ “เงินไม่ขาดมือ” มีช่องทางที่ดีทางการเงินเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันเสมอ นอกจากนั้น วันนี้ควรใช้จ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพ อะไรที่ไม่ควรใช้ในวันนี้ ก็อย่าไปใช้ แต่ถ้าใครจะเอาเงินมาให้ ก็นัดวันนี้แหละ ดีที่สุดเลยครับ

ครอบครัว ความรัก วันนี้ควรทำแต่เรื่องดีๆ กับคนรัก คนรอบข้าง หลีกเลี่ยงการมีกรณีพิพาท การทะเลาะเบาะแว้งกัน ยิ้มให้กัน จะยิ้มกันไปยิ้มกันมาทั้งวันก็ได้ ไม่ใช่ข้อห้ามแต่ประการใด เคราะห์ สุขภาพ วันนี้ต้องขับรถขับราให้ใจเย็นๆ อย่าไปทะเลาะกับเพื่อนร่วมทาง ไม่เว้นแม้กับตำรวจจราจร ไตรมาสสุดท้ายของเดือน ชีวิตจะได้ไม่วุ่นวายในเรื่องดังกล่าว ด้านสุขภาพ ต้องระวังเรื่องอาหารการกินเป็นสำคัญ ระวังล่วงหน้า 1 วัน อย่างน้อยไตรมาสนี้จะได้ไม่ป่วยไข้เกี่ยวกับท้อง แต่ก็มีเหมือนกัน ระวังอย่างดีแล้ว แต่ก็เจอดีจนได้ ป่วยไข้ในวันท้องฟ้าเปิดพอดี เป็นแบบนี้ทำไงดีล่ะ ไม่ยากครับ กายป่วยและใจอย่าป่วย ทำหน้าให้ปกติ ทำโหงวเฮ้งให้แข็งแกร่งไว้ก่อน เดี๋ยวกายจะหายจากการป่วยไข้ได้เร็ว หรือ ต้องใจสู้นั่นเองครับ ถึงเวลาก็เห็นทีจะต้องป่วยตามพิมพ์เขียวที่เราเขียนไว้เอง แต่ก็จะหายป่วยได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อด้วยเหมือนกัน

นี่แหละครับ การกำหนดชีวิตให้เป็นตามตำรับของผม รับรองได้ผล 1000 % ในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า


โดย อ. กิตตินันท์ เจนาคม
//www.horamahawed.com/content.php?cate=uranian&id=14

Create Date : 13 กันยายน 2553		0 comments
Last Update : 13 กันยายน 2553 12:14:57 น.
Counter : 791 Pageviews.
Share Tweet