หลากหลาย เรื่องราว นำมาแบ่งปัน

liumother
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




 Cool Graphics at RevolutionMySpace.com
MySpace Layouts & MySpace Graphics Scrollbars From Dolliecrave.com
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
27 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add liumother's blog to your web]
Links
 

 
อย่าแต่งงานเพราะ 9 อย่าง

บล็อกนี้ ได้รับเป็นอีเมล์ส่งต่อๆกันมา ไม่ได้เขียนบอกไว้ว่า นำมาจากที่ใด จึงให้เครดิตไม่ถูก หากท่านเจ้าของข้อความผ่านมาเห็นก็ขออภัยด้วยค่ะ





นักจิตวิทยาได้กล่าวถึงสาเหตุของการแต่งงานที่ผู้หญิงไม่ควรใช้เอาไว้หลายข้อ โปรดตรวจดูว่าคุณมีข้อใดข้อหนึ่งในนี้บ้างหรือไม่ ถ้าเผอิญคุณมีข้อใดข้อหนึ่งใน 9 ข้อนี้้ มันก็อาจจะเป็นเครื่องสะกิดใจคุณบ้างไม่มากก็น้อย ก่อนการตัดสินใจกระโดดลงไปสู่ประตูวิวาห์ก็ได้ข้อเตือนใจเหล่านี้ได้แก่

1. อย่าแต่งงานเพราะคุณกลัวว่าจะไม่ได้แต่ง

ผู้หญิงหลายคนพอชักเริ่มมีอายุสูงขึ้นก็เกิดอาการวิตกจริตว่าถ้าเราไม่รีบคว้า" ใครไว้สักคนในขณะนี้ พอเราแก่ตัวลงไปจริงๆ คงไม่มีใครมา "คว้า" เราเป็นแน่ อย่ากระนั้นเลย เจอใครที่พอดูได้ก็รีบด่วนตัดสินใจไปลงเอยกับเขาเพียงเพราะกลัวว่าจะต้องเข้าไปเป็นสมาชิกหมู่บ้านสาวโสดนั่นเอง การตัดสินใจแต่งงานด้วยเหตุผลทำนองนี้น่าจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เพราะคุณไม่ได้ไตร่ตรองให้รอบคอบ คล้ายกับลอยคออยู่ในน้ำ อะไรลอยผ่านมาก็คว้าเอาไว้ก่อนไม่ทันได้พิจารณาให้รอบคอบและดูว่าสิ่งที่คุณคว้าไว้นั้นเป็นสิ่งมีพิษมีภัยหรือเป็นที่พึ่งได้จริง บางทีสิ่งที่คิดว่าเป็นทุ่นให้เกาะได้กลับกลายเป็นเพียงฟางหญ้า หรือปลิงที่คอยดูดเลือดคุณเสียอีกสุดแสนจะชอกช้ำยิ่งเสียกว่าอยู่คนเดียวเป็นไหนๆ นอกจากนี้ถ้าคุณอยู่ในวงสังคมคุณอาจจะถูกแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกครอบครัวของคุณไม่ว่าจะเป็นพี่น้องพ่อแม่เพื่อนฝูงที่คอยผลัดเปลี่ยนมาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยคุณด้วยคำถามประเภท "ทำไมจึงยังไม่แต่งงานเสียที?" "มีอะไรหรือ ?" (หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ"คุณมีปัญหาอะไรหรือจึงยังเป็นโสดอยู่ได้ปูนนี้!")สิ่งต่างๆที่ได้ยินได้ฟังเหล่านี้อาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจ ในที่สุดคุณก็ตกลงใจที่จะลดมาตรฐานของชายในฝันของคุณลงอย่างฮวบฮาบน่าใจหาย หรือต่ำกว่า 50% ก็ยอมขอให้ได้ชื่อว่า "ได้แต่ง" ก็เป็นพอ ถ้าคุณทำเช่นนี้ย่อมเป็นของแน่นอนว่า คุณกำลัง"ลนลาน" หาคู่และย่อมเป็นของแน่นอน อีกเช่นเดียวกันว่าคู่ที่หามาได้จากการไม่พิจารณาให้รอบคอบนั้นจะมีผลร้ายกับชีวิตของคุณเช่นไร



2. อย่าแต่งงานเพราะคุณอยากจะออกจากบ้านจากครอบครัวเดิมของคุณ

นี่เป็นเหตุผลที่ฤดีมาศตัดสินใจแต่งงานกับสาธิต เพราะเธอเบื่อพ่อแม่ที่ทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน เธอเบื่อสภาพแวดล้อมของบ้าน และความไม่ปรองดองของพี่ๆ น้องๆ เธอคิดว่าการออกไปอยู่กับสาธิตจะเป็นคำตอบของเธอ แต่เมื่อเธอไปอยู่บ้านกับสาธิตจริงๆ เธอกลับต้องไปเผชิญกับปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่เธอนึกว่าน่าจะหมดไปตั้งแต่สมัย "บ้านทรายทอง" นั่นแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาพี่ๆ น้องๆของเขาที่ไม่ได้ยอมรับเธออย่างสนิทใจ ฤดีมาศรู้สึกว่าตัวเธอเหมือนคนแปลกหน้าที่หลุดเข้าไปอยู่ในโลกที่เธอไม่รู้จัก

3. อย่าแต่งงานเมื่อคุณกำลังอกหัก หรือเมื่อต้องการที่จะประชดแฟนเก่า

ผู้หญิงหลายคนอกหักจากแฟนเก่าและด้วยความเจ็บใจก็จะรีบแต่งงานกับผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างปุบปับเป็นทีประชดแฟนเก่าว่า "ฉันก็มีเสน่ห์ เมื่อเธอจากฉันไปได้ฉันก็สามารถหาผู้ชายคนอื่นมาแทนเธอได้เหมือนกัน"... ความจริงเรื่องการอกหักนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับคนเป็นจำนวนมากคุณย่อมเจ็บปวดเป็นธรรมดา แต่เมื่อคุณอกหัก คุณยังไม่ควรรีบ "คว้า" ใครก็ได้และแต่งๆ ไป เพราะผู้หญิงที่อกหักทุกคนจะมีสภาพจิตใจที่ตกต่ำความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองจะลดลงไป และช่วงนั้นคุณมักจะขาดวิจารณญาณในการเลือกผู้ชายที่ดีๆ คุณมักจะไปเลือกเอาผู้ชายที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติมาแต่งด้วยเพราะจิตใจคุณบอบช้ำคุณต้องการคนมาเยียวยา และเขาเสนอตัวเข้ามาพอดีซึ่งคุณก็จะตกลงเพราะคุณคิดว่าคนนี้แหละที่จะมาสมานแผลใจให้คุณได้ แต่เมื่อแต่งไปแล้วจิตใจคุณเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ
คุณอาจนั่งมองสามีพร้อมกับตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า "ฉันเลือกเขามาได้อย่างไร"

4. อย่าแต่งงานเพราะคุณสงสารเขา

อลิสาตกลงใจแต่งงานกับพินิจเพราะเขาดูน่าสงสารเฝ้ารักเฝ้าติดตามเธออยู่เสมอท่าทางเขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเธอเลยดูเขาเป็นผู้ชายที่แล้วแต่เธอจะกรุณาอลิสารู้ว่า เธอไม่ได้รักเขาเลยแต่ดูเขาก็ไม่มีอะไรเสียหายน่าจะเป็นผู้นำครอบครัวได้ แต่หลังจากแต่งงานกันได้ระยะหนึ่งเขากลับแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธออย่างน่าเกลียดแม้กระทั่งเพื่อนฝูงของเธอเขาก็ไม่ต้องการให้เธอไปคบค้าสมาคมด้วยอลิสาแทบเป็นบ้า เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่อิสระเป็นตัวของเธอเองและคิดไม่ถึงว่า ผู้ชายที่ดูขรึมๆ เรียบๆจะสามารถแสดงถึง "ฤทธิ์เดช"และวางอำนาจกับชีวิตเธอได้ถึงเพียงนี้

5. อย่าแต่งงานเพราะหลงไหลในรูปสมบัติของเขาเพียงอย่างเดียว

รูปสมบัติหรือความหล่อล่ำอาจเป็นสิ่งที่ถูกตาถูกใจในเบื้องต้นแต่ถ้าคุณมัวไปหลงใหลในรูปที่เห็นเพียงอย่างเดียว คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าภายใต้รูปที่ดูหรูเริดของเขานั้นซ่อนอะไรไว้ภายในเขาอาจจะเป็นพยัคฆ์ร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใต้หนังราชสีห์ก็ได้ คุณควรจะหัดมองคนให้ถึงแก่นแท้ของบุคลิกมากกว่าเพียงแค่รถสปอร์ตราคาเป็นล้านของเขา และยิ่งกว่านั้น คนสวยๆ หล่อๆมักจะใช้เวลาตกแต่งแต่รูปภายนอกของเขามากกว่ารูปภายใน และจะมีประโยชน์อะไรที่จะได้แต่เปลือกซึ่งไม่มีแก่นของเขาหรือไม่ก็เป็นแก่นที่เน่าหรือกลวงข้างในยิ่งกว่านั้นภายใต้ความหล่อ และกลิ่นอาฟเตอร์เชฟของเขาก็คือ..กลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว เจาะลึกลงไปก็เจอแต่น้ำเลือดน้ำเหลืองน้ำหนองเหมือนๆ กันแล้วคุณจะไปหลงใหลได้ปลื้มอะไรกันนักหนากับรูปที่ไม่กี่วันก็เหี่ยวเฉาลงไป

6. อย่าแต่งงานเพราะทรัพย์สมบัติและเงินในบัญชีของเขา

ผู้หญิงหลายคนแต่งงานกับผู้ชายที่ร่ำรวยเพราะขี้เกียจไปกัดก้อนเกลือกินกับใครความจริง เรื่องความรวยนั้นใครๆก็ชอบเป็นคุณสมบัติในทางที่น่าพิสมัยของผู้ชายด้วยซ้ำไป แต่ถ้าผู้ชายที่มีแต่ความรวยให้คุณเพียงอย่างเดียวแต่เขาไม่มีเวลาให้คุณ หรือเขาให้คุณเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองของเขาแต่เขาไม่ซื่อสัตย์กับคุณแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยให้คุณช้ำใจอยู่เสมอ คุณจะทนได้หรือต่อให้เขามีเงินล้นฟ้า คุณก็จะน้ำตาเช็ดหัวเข่าและคิดว่าสู้เขาไม่ร่ำไม่รวยแต่มีเวลาและความรักให้คุณจะดีกว่าเป็นไหนๆ ดังนั้นเมื่อรู้จักผู้ชายที่ร่ำรวยควรศึกษาเขาให้ดีว่าเขาทำมาหากินอะไรอย่าให้ความรวยมาทำให้คุณตามืดมัวไปกับวัตถุสำเร็จรูปที่เขาสรรหามาให้มากกว่าความรักและความจริงใจของเขา

7. อย่าแต่งงานเพราะอยากหนีตนเอง
คนบางคนแต่งงานเพราะไม่ต้องการเผชิญกับความรู้สึกสับสนว้าวุ่นและขาดเป้าหมายของชีวิตตนเอง จึงใช้การแต่งงานเป็นการแสวงหาความหมายให้ชีวิต อยากให้คู่สมรสมาเติม ความ"ขาด"ในชีวิตที่เขาควรจะเติมให้ตนเองผู้หญิงบางคนไม่ใคร่ชอบตนเองไม่ใคร่เชื่อหรือไว้วางใจว่าจะมีใครที่รักเธอจริง เมื่อมีความสัมพันธ์กับใครก็มักจะต้องการให้ผู้ชายนั้นมาเติมให้ชีวิตของเธอเต็มขึ้นมา ซึ่งเธอก็มักจะพบกับความผิดหวังเพราะเธอไม่ได้รักผู้ชายคนนั้น เธอต้องการแต่งงานเพื่อหลีกหนีบางสิ่งบางอย่างของชีวิตที่เธอไม่อยากเผชิญกับมันเท่านั้น

8.อย่าแต่งงานเพราะคิดว่าจะเปลี่ยนนิสัยเขาได้

นิสัยคนเรานั้นจะเปลี่ยนได้หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณแต่ขึ้นอยู่ที่ตัวของเขาเองอย่าคิดว่าคนเราจะเปลี่ยนนิสัยกันได้ง่ายๆ เพราะเรามักจะมีความเคยชินดั้งเดิมที่ได้รับการปลูกฝังมาเป็นสิบๆปี การเปลี่ยนความเคยชินต้องใช้ความพยายามและความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยว อย่าแต่งงานเพราะคิดจะเปลี่ยนนิสัยใครเพราะถ้าเขาไม่อยากเปลี่ยนตัวของเขาเองคนที่เสียใจที่สุดก็คือคุณ

9. อย่าแต่งงานเพราะความเหงา

ถ้าคุณเป็นคนขี้เหงามองหน้าตัวเองในกระจกก็เบื่อ ลองมองไปรอบ ๆ ห้องก็เจอแต่สิ่งเก่าๆ เฟอร์นิเจอร์เดิมๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นในชีวิตเอาซะเลย และคุณก็คิดอยากจะได้ใครสักคนมาแก้เหงา... คุณก็เลยแต่งงานไปกับคนที่คุณรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เหมาะกับคุณ แต่คุณคิดว่า "ดีกว่าอยู่เปล่าๆ คนเดียว เขาคงมาช่วยบำบัดความหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวในจิตวิญญาณชั้นได้บ้าง"... ถ้าเป็นแบบนั้นละก็... ขอบอกว่าคุณคิดผิดเพราะเมื่อความเหงาเข้าจู่โจมจิตใจนั้น คนเรามักขาดการกลั่น กรอง เห็นผิดเป็นชอบ คุณอาจจะไปคว้าใครก็ไม่รู้มาบำบัดความเหงาของคุณและคนคนนั้นอาจจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งในชีวิตภายภาคหน้าของคุณก็ได้

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มิได้หมายความว่าคุณไม่ควรแต่งงานหรือถ้าคุณแต่งงานโดยไม่มีข้ออ้างทั้ง 9 ข้อนี้ ชีวิตคู่คุณจะปลอดโปร่งโล่งใจตลอดไป เพราะการแต่งงานจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับตัวแปรมากมาย... 9 ข้อนี้เป็นเพียงข้อควรระวังว่าถ้าคุณแต่งงานด้วยเหตุผลเหล่านี้โอกาสที่คุณจะผิดหวังกับชีวิตคู่นั้นอาจจะมีสูงกว่าคนอื่น การแต่งงานที่ประสบความสำเร็จมักจะเริ่มจากความรักความเข้าใจเป็นพื้นฐาน แต่ก่อนที่ความสัมพันธ์ของคุณจะพัฒนาไปสู่การแต่งงานนั้นคุณอาจจะใช้วิจารณญาณใคร่ครวญสักนิดว่าคุณรักเขาหรือไม่ คุณอยากแต่งงานกับเขาเพราะเหตุใด อย่าเพิ่งให้อารมณ์โรแมนติกเข้ามาเกาะกุมหัวใจของคุณก่อนการใช้สมองถ้าคุณเข้าไปสู่ความสัมพันธ์อย่างมีสติและ วิจารณญาณที่ดีคุณอาจจะป้องกันตัวเองจากการผิดหวังและเจ็บปวดที่ไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย


Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 14:13:51 น. 2 comments
Counter : 515 Pageviews.

 
ขอบคุณมากๆๆๆที่เอามาให้อ่านค่ะ


โดย: van IP: 58.8.21.196 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:00:22 น.  

 
" ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "
ไม่แต่งงานดีที่สุด ไม่ต้องทุกข์เมื่อต้องจากกัน


โดย: porranat วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:10:37:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.