|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ความจริงกับความฝัน : อุดมรัฐ
การเริ่มต้น ทำไมมันยากอย่างนี้ แม้ว่าจะเป็นครั้งที่ 2 แล้วของการเขียนบทความ แต่ความรู้สึกของผู้เขียนก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากการเขียนครั้งแรก ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ผู้เขียนก็ได้แต่ให้กำลังใจตัวเองว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายในสักวัน ถ้าเราทำมันบ่อยๆ
แต่สำหรับ ยูโทเปีย หรือ อุดมรัฐ ของโทมัส มอร์ คงจะต้องใช้คำว่า การเริ่มต้นเป็นเรื่องยาก แต่การก้าวต่อไป(ในโลกของความเป็นจริง)เป็นเรื่องที่ยากกว่า
ยูโทเปียเป็นแนวคิดเชิงอุดมคติเกี่ยวกับโลกอันสมบูรณ์ที่ โทมัส มอร์ นักปรัชญามนุษยนิยมชาวอังกฤษ เขียนขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1516 ในยุคสมัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 แห่งราชวงศ์ทิวดอร์ โดยเขียนขึ้นเป็นภาษาละตินและต่อมาได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยราล์ฟ โรบินสัน ในปี 1551 มอร์ เป็นนักการศาสนาที่เคร่งครัด จนได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญเมื่อปี 1935 และ มอร์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 1535 จากการถูกประหารชีวิตด้วยการตัดหัว เนื่องจากความเห็นขัดแย้งทางการเมือง ต่อพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
เขาเห็นความลำบากยากแค้นของประชาชน ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างขุนนางกับชาวนา ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นตัวแทนจากรัฐ ไปเจรจาการค้าที่แฟลนเดอร์ หลังจากที่พระเจ้าชาร์ลส์แห่งเนเธอร์แลนด์ ขึ้นภาษีนำเข้าขนสัตว์ในอัตราที่สูงลิ่ว ระหว่างการเดินทาง มอร์เกิดแรงบันดาลใจให้นึกถึงหนังสือ Republic ของเพลโตที่ว่าด้วยการปกครองที่ดี และเมื่อย้อนนึกถึงความทุกข์ยากของอังกฤษในเวลานั้น มอร์จึงเขียนถึงสังคมในอุดมคติที่มีชื่อว่า "ยูโทเปีย" ขึ้น โดยตั้งใจเขียนเป็นวรรณกรรมเสียดสีล้อเลียนความโง่เขลาและความเลวร้ายของสังคมในสมัยนั้น สังเกตจากการตั้งชื่อต่างๆ อาทิ ยูโทเปีย มาจากภาษากรีก หมายถึงเมืองที่ดีหรือเมืองที่ไม่มี ณ แห่งหนใด (eu-topia = good place และพ้องเสียงกับความหมายที่ว่า no place เช่นกัน)
ยูโทเปียเป็นประเทศตั้งบนเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ส่วนกว้างที่สุดยาวถึงสามร้อยยี่สิบกิโลเมตร มีแม่น้ำล้อมรอบ และมีแผ่นดินล้อมรอบอีกชั้นเพื่อกันพายุและการบุกรุก มีทางเข้าทางเดียวตรงหน้าเกาะที่มีป้อมซึ่งเป็นคุกสูงตั้งอยู่ คนไม่ชำนาญก็เข้าไม่ถูกทางเพราะจะหลงกระแสน้ำ ยูโทเปียมีการปกครองแบบสาธารณรัฐ ประกอบด้วย 54 เมือง โดยแต่ละเมืองมีระยะทางห่างกันด้วยการเดินไม่เกินหนึ่งวัน บ้านเรือนของชาวยูโทเปียด้านหลังของทุกบ้านเป็นสวนปลูกดอกไม้ ผลไม้หรือพืชผัก และมีถนนอยู่ด้านหลังของสวนอีกด้วย ประตูบ้านมีสองทาง เปิดปิดได้โดยง่าย ปราศจากกลอน เพราะไม่จำเป็น เนื่องจากทรัพย์สินเป็นของส่วนรวม จึงไม่มีอะไรต้องปิดบังหรือไม่ให้คนอื่นใช้ นอกเมืองมีที่ทำการเกษตรจำนวนมาก ชาวยูโทเปียจะคัดเลือกชาวเมืองปีละสามสิบครอบครัวไปอยู่ที่ฟาร์ม หรือสวนเพื่อทำงานสร้างผลผลิตให้เมือง เป็นเวลาสองปี คนที่กลับมาก็จะสอนชาวเมืองอื่นๆ ให้ทำการเกษตรเป็น แล้วพอถึงเวลาก็ไปผลัดเปลี่ยน ทุกสามสิบฟาร์มหรือสวนจะมีผู้ดูแลปกครองหนึ่งคนที่คัดเลือกขึ้นกันเอง เรียกว่า ไซโฟแกรนท์ (เทียบได้กับสมาชิกสภา) อยู่ภายใต้การดูแลของทาร์นิบอร์ (เทียบได้กับรัฐมนตรี) สิบไซโฟรแกรนท์ เจ้าผู้ครองนคร และทาร์นิบอร์ไม่สามารถออกกฎหมายโดยไม่ผ่านพิจารณาของสภา และกฎหมายฉบับหนึ่ง ต้องผ่านการอภิปราย หรือถกเถียงในสภาไม่ต่ำกว่าสามครั้ง การเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ ในรัฐจึงทำได้ยาก หากคนส่วนใหญ่ในเมืองไม่เห็นด้วยว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ชาวยูโทเปีย อยู่ดีกินดี มีการแบ่งสันปันส่วนอย่างเป็นระบบ ไม่จำเป็นต้องแก่งแย่งกัน เพราะสิ่งจำเป็นในชีวิตมีพร้อม ชาวเมืองต่างทำงานตามหน้าที่ ไม่ใช้เวลาว่างไปในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ แต่ก็มิได้ทำงานแบบเอาเป็นเอาตาย ในแต่ละวันทำงาน เพียงสามชั่วโมงตอนเช้า พักรับประทานอาหารกลางวัน แล้วทำงานอีกสามชั่วโมงตอนบ่าย เข้านอนตอนสองทุ่ม โดยนอนไม่ต่ำกว่าวันละแปดชั่วโมง ที่ยูโทเปียไม่มีร้านเหล้า ไม่มีการพนัน หรือสิ่งยั่วยุอื่นๆ พวกเขาจึงแสวงหาแต่ความรู้หรือเพิ่มความชำนาญต่างๆ การอ่านและการถกเถียงกันเพื่อเพิ่มพูนความรู้เป็นเรื่องปกติของชาวยูโทเปียพวกเขาสนใจในหลากหลายวิชา แต่ที่นิยมเป็นพิเศษ คือฟิสิกส์ ส่วนเกมการละเล่นที่ถนัดคือเกมคณิตศาสตร์ซึ่งต่อสู้กันด้วยตัวเลข เกมต่อสู้ระหว่างธรรมะกับอธรรม หรือการฟังดนตรี และไม่ให้ความสำคัญกับวัตถุ โดยเห็นว่าเงินและทองเป็นสิ่งหยาบช้า ไม่มีค่า มีไว้สำหรับทำโซ่สำหรับทาส หรือจ้างคนชั่วไปทำสงครามแทน (เป็นการกำจัดสิ่งชั่วร้ายไปในตัว) ยูโทเปียไม่มีกฎหมายออกมาบังคับประชาชนมากมาย พวกเขาอยู่ร่วมกันด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ใส่เสื้อผ้าเรียบง่ายคล้ายคลึงกัน เสื้อผ้าแต่ละชุด ใช้ทนทานนานถึงเจ็ดปีและผู้คนในระดับผู้ปกครองก็ไม่มีสิ่งบ่งบอกด้วยวัตถุใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ หรือสิ่งประดับที่ชี้ให้เห็นว่าแตกต่างจากประชาชนอื่นๆ
ในจินตนาการของผู้เขียน ยูโทเปีย หรือ อุดมรัฐ ของโทมัส มอร์ น่าจะมีลักษณะเป็นสังคมเกษตรกรรม มองไปที่ไหนก็จะเห็นแต่พื้นที่สีเขียว อาจจะเป็นเพราะว่าในสมัยนั้นยังไม่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ประชาชนในยูโทเปียอยู่กันอย่างมีความสุข เพราะต่างมีคุณธรรมและศีลธรรม หรืออาจจะมีกิเลสอยู่บ้างเป็นส่วนน้อยมากซึ่งกิเลสนั้นก็เป็นกิเลสที่เบาบางไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนของส่วนรวมมาก ระบบการปกครองมองโดยรวมแล้วน่าจะเป็นการผสมผสานระหว่างสังคมนิยมและเสรีนิยม กล่าวคือประตูบ้านที่ปราศจากกลอน เนื่องจากทรัพย์สินเป็นของส่วนรวม น่าจะเป็นระบบสังคมนิยม และการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ ในรัฐทำได้ยาก หากคนส่วนใหญ่ในเมืองไม่เห็นด้วยน่าจะเป็นเสรีนิยม ในยูโทเปียดูเหมือนวิทยาการจะสวนทางกับจิตใจคือถึงแม้เทคโนโลยีอาจจะไม่สูงเท่ากับปัจจุบันแต่ว่าจิตใจของผู้คนสูงส่ง ซึ่งถ้าหากมองกลับมาในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าต่างกันมาก อาจจะว่าเป็นคนละขั้วกันเลยก็ได้คือเทคโนโลยีสูงแต่จิตใจคนกลับตกต่ำลง ความก้าวหน้าและการแข่งขันทำให้มนุษย์ถูกกีดกันจากความเป็นมนุษย์ในเชิงคุณภาพ เกิดความขัดแย้งโดยอ้างแต่สิทธิและเสรีภาพทั้งที่ไม่รู้ว่าแก่นของมันคืออะไร หน้าหนังสือพิมพ์ของแต่ละวัน มีข่าวอาชญากรรม ฆาตกรรม เกิดขึ้นทุกวันจนเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทรัพยากรต่างๆและสิ่งแวดล้อมกำลังสูญเสียไปอย่างรวดเร็ว มลภาวะมากมายเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ เกิดโรคและความเจ็บป่วยอื่นๆอีกมากมาย ช่องว่างระหว่างคนรวยจำนวนน้อย และคนจนจำนวนมากเห็นอย่างได้ชัด โลกตอนนี้กำลังอยู่ในภาวะของความทุกข์ยากลำบาก
ส่วนรัฐในอุดมคติของผู้เขียนนั้นผู้เขียนไม่สนใจว่ารัฐจะมีอาณาเขตมากน้อยเพียงใด แต่ผู้คนภายในรัฐยึดถือคุณธรรม คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ไม่ตกเป็นทาสของระบบทุนนิยม เทคโนโลยีและธรรมชาติสามารถเดินไปด้วยกันอย่างลงตัว ระบบในการปกครองนั้นเป็นการผสมและลองผิดลองถูกของระบบต่างๆที่เคยมีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วรัฐในอุดมคติของผู้อ่านหละเป็นอย่างไร??
อ้างอิง : ชำนาญ จันทร์เรือง กรุงเทพธุรกิจ วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551
Create Date : 31 กรกฎาคม 2552 |
|
30 comments |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 23:11:58 น. |
Counter : 1027 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: นายอึเหม็น IP: 58.8.109.132 31 กรกฎาคม 2552 23:14:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: เห็บ IP: 202.28.78.70 31 กรกฎาคม 2552 23:35:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กป๊อต IP: 202.28.78.138 1 สิงหาคม 2552 0:41:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กชายพยุง IP: 202.28.78.81 1 สิงหาคม 2552 12:35:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: SIis" IP: 114.128.56.83 1 สิงหาคม 2552 13:44:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: oOoARToOo IP: 203.156.32.17, 203.130.159.3 1 สิงหาคม 2552 15:33:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: JEwz IP: 114.128.56.83 1 สิงหาคม 2552 16:01:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: m IP: 202.28.78.136 1 สิงหาคม 2552 16:48:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: โซ้ยตี๋ IP: 125.24.157.126 1 สิงหาคม 2552 18:44:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก้อย เอกจิตฯ IP: 202.28.78.179 1 สิงหาคม 2552 18:47:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ็มเลิฟ IP: 202.28.78.180 1 สิงหาคม 2552 19:01:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: โซ้ยตี๋ IP: 125.24.157.126 1 สิงหาคม 2552 19:25:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: หสหส IP: 113.53.162.75 1 สิงหาคม 2552 21:08:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: น.ส.เพล้งงง IP: 125.24.5.131 1 สิงหาคม 2552 21:29:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: นางฟ้า IP: 125.26.44.52 1 สิงหาคม 2552 21:31:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bonus IP: 125.27.9.81 1 สิงหาคม 2552 22:48:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทวีรัก IP: 119.31.90.96 2 สิงหาคม 2552 3:41:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: นางฟ้านะคะ IP: 202.28.78.131 2 สิงหาคม 2552 11:56:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: MON IP: 202.28.78.14 2 สิงหาคม 2552 12:19:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาจารย์แรก IP: 124.122.29.57 2 สิงหาคม 2552 13:06:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaiko IP: 118.173.238.242 2 สิงหาคม 2552 14:20:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: whan_whan IP: 202.28.78.138 2 สิงหาคม 2552 15:00:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: kanyarat IP: 202.28.78.172 2 สิงหาคม 2552 22:51:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลาวาฬสีรุ้ง งุ๊งๆ IP: 202.28.78.171 2 สิงหาคม 2552 23:07:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: เปาเปา IP: 222.123.111.198 3 สิงหาคม 2552 0:36:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาจู๋ IP: 115.67.26.179 4 สิงหาคม 2552 10:17:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลิลลี่ IP: 202.28.78.138 6 สิงหาคม 2552 12:12:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: poo IP: 124.122.250.160 7 สิงหาคม 2552 13:39:24 น. |
|
|
|
| |
|
|
^O^