แบกเป้เที่ยวคนเดียว@ เกาะช้าง, ตราด

เป็นคนชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ....อยากไปเที่ยวที่ไหน..ตั้งใจแล้วต้องไปให้ได้
วางแผนว่าจะไปเที่ยวเกาะช้าง...ชวนเพื่อน ไม่มีใครว่างซักคน..ไม่เป็นไร เพราะไปเที่ยวคนเดียวได้..สบายมาก ว่าแล้วก็ค้นหาข้อมูลของเกาะช้าง ว่ามีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง

ได้ข้อมูลว่า หาดต่างๆ บนเกาะช้างไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ (ในความรู้สึกเรานะ) เลยเปลี่ยนแผนไปนอนโฮมสเตย์ดีกว่า ที่หมู่บ้านสลักเพชร และจะไปดำน้ำดูปะการังด้วย...ซึ่งโชคดีมากๆ ที่มีเพื่อนที่ทำงาน เขามีเพื่อนทำโฮมสเตย์อยู่ที่บ้านสลักเพชรพอดี (จำชื่อไม่ได้) แต่เขาบอกว่าสวยและเป็นธรรมชาติมาก

เพื่อนเขาให้เบอร์มา...เราก็โทรติดต่อ สรุปแล้วพักคืนละสองร้อยบาท พร้อมอาหารเช้า และดำน้ำดูปะการังเขาคิดแค่ห้าร้อยบาท เพราะเป็นเรือของโฮมสเตย์จัดเอง เพราะวันที่เราไป มีนักท่องเที่ยวกรุ๊ปใหญ่เกือบสามสิบคน เขาเหมาเรือ....เราจึงขอแอบไปด้วยคนหนึ่ง

ทริปนี้จึงเกิดขึ้น...เดินทางวันที่ 6-7 เมษายน 2010
เดินทางด้วยรถทัวร์ขึ้นที่สถานีเอกมัย ตอนเที่ยงคืน...หลับๆ ตื่นๆ จนมาถึงท่าเรือแหลมงอบ เวลาประมาณตีห้า....ล้างหน้าแปรงฟัน และรอซื้อตั๋วขึ้นเรือเฟอรี่รอบแรกตอนหกโมงเช้า....

นั่งเรือเฟอรี่ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ถึงแล้ว....เกาะช้าง


โทรหาเจ้าของโฮมสเตย์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับเพื่อนที่ทำงานเรา ชื่อพี่ไพรวัลย์ ว่าถึงแล้ว พี่เขาใจดีมาก ขี่มอเตอร์ไซด์จากบ้านเขาที่อยู่ สลักเพชร มารับเราที่ท่าเรือหน้าด่านเลย ไกลมากประมาณยี่สิบกว่ากิโล....เกรงใจมาก แต่เราก็ไม่มีรถไปจริงๆ....พอพี่เขามาถึง ก็พาเราไปที่บ้าน...ตอนเช้าอากาศเย็นสบาย วิ่งรถมาผ่านจุดหนึ่ง สวยมากๆๆ เลยขอให้พี่เขาจอดรถเพื่อถ่ายรูปค่ะ...(นี่ขนาดเกรงใจนะ)


พอถึงที่พัก...ซึ่งเป็นบ้านของพี่เขาเอง ทำเป็นโฮมสเตย์...บรรยากาศสุดยอด..




พอดีวันนี้...มีนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ มากันกลุ่มใหญ่เลย 30 คนมาถึงก่อนแล้ว เราก็เข้าไปเนียนๆ พี่เขาก็ดูแลเราอย่างดี ที่พักไม่พอ เพราะเขานอนกันเต็มลานบ้านเลย แต่พี่เขาให้เรานอนห้องของเขาแทน....เมื่อไปถึงเขาก็ให้เราทานข้าวเช้าก่อน...เป็นข้าวต้มทะเล อร่อยมาก....

ขณะที่นั่งทานนั้น..ก็มีคนของกลุ่มใหญ่มานั่งทานด้วย ก็คุยกันไปจนได้ความว่า เขาเป็นกลุ่มหารเฉลี่ยจากเว็บ trekkingthai รวมตัวกันเพื่อมาดำน้ำที่นี่...ซึ่งเรารู้จักดี เพราะติดตามเว็บไซต์นี้อยู่แ้ล้ว เลยคุยกันถูกเขา พวกเขาเช่ารถตู้มา และมีที่ว่างเหลือด้วย เราเลยขอตามเขาเที่ยวด้วยเลย...(ใจง่ายมาก) ไหนๆ ก็หารเฉลี่ยกันอยู่แล้ว ก็ขอแจมด้วยเลย

เมื่อได้เพื่อนใหม่...และหารถกลับกรุงเทพฯ ได้แล้ว ก็เตรียมตัวสนุกละ...เพราะโชคดีมากๆ ที่เจอกลุ่มนี้ ทุกคนสนุกสนาน เป็นกันเอง รักการเที่ยวเหมือนกัน บางคนไม่เคยรู้จักกัน ก็มารู้จักที่นี่เลย...ที่สำคัญ ขากลับกรุงเทพฯ จะแวะเที่ยวรายทางด้วย...โชคดีเป็นบ้าเลยเรา

พอสองโมงเช้า...ก็พากันไปดำน้ำดูปะการังกัน...โดยนั่งรถมาลงเรือที่ท่าเรือจ้า...เราได้อยู่กลุ่มกับเด็กๆ วัยรุ่นทั้งนั้น...ดีใจจริงๆ


เพื่อนใหม่....ที่เจอกันโดยบังเอิญ


นั่งเรือประมาณชั่วโมงกว่า...ก็ถึงจุดดำน้ำชื่อดังของที่นี่...เกาะยักษ์เล็ก
น้ำใสมาก...ปะการังสวย



หลังจากนั้นก็ย้ายไปดำน้ำที่ เกาะยักษ์ใหญ่....


พี่ไพรวัลย์ ดูแลเราดีมาก...แกเป็นเจ้าของเรือ และเป็นไกด์ด้วย แต่ก็มีน้องๆ มาคอยช่วยดูแลนักท่องเที่ยว...แต่ตัวเราแกจะดูแลเป็นพิเศษ โดยจะว่ายน้ำพาเกาะหลังไปดำน้ำดูปะการังสวยๆ...
ซึ้งในน้ำใจจริงๆ ค่ะ

พวกเราใช้เวลาดำน้ำดูปะการังกันครึ่งวัน...ขากลับพี่เขาพามาแวะพักที่เกาะหวาย
ซึ่งหาดไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็มีปะการังน้ำตื้นให้ได้เห็นบ้าง


อยู่ที่เกาะหวายประมาณหนึ่งชั่วโมง....ก็เดินทางกลับถึงที่พักประมาณสี่โมงเย็น
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่...เตรียมตัวทานอาหารเย็นกัน

ซึ่งเรามาคนเดียวจะต้องทานแยกอยู่แล้ว แต่เพราะความโชคดีได้เจอกับกรุ๊ปนี้ เลยได้ทานอาหารทะเลรวมกับพวกเขา โดยเขาคิดแค่สองร้อยบาทเท่านั้น
อาหารอร่อยมาก สดจริงๆ คุ้มสุดๆ เลย (ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะกล้องแบตหมด)
โมโหตัวเองมากที่ลืมเอาที่ชาร์ตแบตกล้องมา...ทำให้ทริปนี้ไม่ค่อยมีรูปเท่าไหร่

หลังทานอาหารค่ำแล้ว พี่ไพรวัลย์ก็พาไปดูหิ้งห้อยที่ป่าโกงกาง....ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติจริงๆ เป็นสะพานไม้เลาะเลียบป่าโกงกางไป สวยมากๆ และไปบรรจบตรงกลางเวิ้งปากอ่าว....สวยมากค่ะ โชคดีจริงๆที่ได้มาเห็น

หลังจากนั้นก็เข้านอน...พักผ่อนตามอัธยาศัย

ตอนเช้าตื่นมาแต่เช้า...มารับบรรยากาศ...จิบกาแฟ อากาศดีมากๆ เลยค่ะ
ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหายไปหมดเลยค่ะ


หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว....ก็เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ซึ่งเราก็อาศัยไปกับเขาด้วย โดยเสียค่าใช้จ่าย 600 บาท เพราะเขาหารเฉลี่ยกัน
ซึ่งเราก็ถือว่าคุ้ม เพราะเขาจะแวะเที่ยวที่ อ่าวคุ้งกระเบน ด้วย
ที่อ่าวคุ้งกระเบนนี้ เป็นศูนย์ศึกษาป่าโกงกางชื่อดังของจันทบุรี มีพื้นที่ใหญ่มาก ร่มรื่น ทางเดินเป็นไม้ตลอดทาง มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และมีป้ายชื่อบอกชนิดของพันธุ์ไม้ตลอดทาง...


หลังจากนั้น...ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเขาไปส่งให้เกือบถึงบ้านเลย ใจดีมากๆ เลย...ทำให้เราประทับใจทริปนี้มาก โชคดีได้เจอเพื่อนร่วมทางที่ดีและน่ารัก ได้เพื่อนใหม่หลายคนเลยค่ะ...
ขอบคุณผู้ร่วมทริปหารเฉลี่ยทุกคนนะคะ ที่ยอมให้คนแปลกหน้าเข้าร่วมกลุ่มด้วย....

Create Date : 05 กันยายน 2555 Last Update : 5 กันยายน 2555 22:40:08 น. Counter : 8572 Pageviews.		2 comments
Share Tweet