เคล็ด-ดวง-ฮวงจุ้ย ประเดิม ′เก้าอี้ใหม่′
หน้า 1 มติชน 2 ตุลาคม 2555
| แม้จะมีข่าวคราวการปรับคณะรัฐมนตรีออกมาหนาหูในช่วงนี้ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในเร็ว
ต่างกับ "ข้าราชการประจำ" ที่ฤดูแห่งการ "จัดทัพ-จัดแถว" แต่งตั้งโยกย้ายผ่านไปแล้วเป็นส่วนมาก หลายคนเริ่มต้นกับชีวิตในตำแหน่งใหม่
ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
เป็นธรรมดา เมื่อมีการเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ เปลี่ยนสถานที่ทำงาน ก็ต้องพึ่งพาอาศัย "ศาสตร์พิเศษ" เสริมใยเหล็ก สร้างสิริมงคลกับชีวิต
เรื่อง เคล็ด ลาง ดวง และ ฮวงจุ้ย เป็นความเชื่อที่ต่อเนื่อง จากอดีตจนปัจจุบัน
อย่างการปรับฮวงจุ้ย เปลี่ยนภูมิทัศน์ที่นั่ง ห้องทำงาน ไปจนถึงตัวอาคาร ส่วนประกอบ การจัดสวน เกิดขึ้นตลอด
ศูนย์กลางราชการบริหารอย่างทำเนียบรัฐบาล นายกฯแต่ละยุคแต่ละสมัยต่างก็ปรับเปลี่ยนเพื่อให้หนุนเสริมดวงชะตาของตน
สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องเผชิญกับม็อบหลายกลุ่มจนต้องทาสีรั้วโรงเรียนพณิชยการพระนครและบริเวณริมสันกำแพงสำนักงาน ก.พ. เพื่อปรับดวงเล็กน้อย
หรือแม้แต่การย้ายศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่บริเวณรั้วหน้าทำเนียบฯ มากว่า 50 ปี ออกไปไว้ที่ข้างตึกสันติไมตรีหลังนอกแทน เพราะหมอดูทักว่าหน้าทำเนียบฯ ควรจะโล่งโปร่ง เพื่อให้เห็นโลกภายนอก
สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีการปรับภูมิทัศน์บ่อยครั้ง นอกจากย้ายต้นไม้เก่าแก่ ต้นกระถินณรงค์ยักษ์ ต้นลีลาวดี ต้นมะม่วง สมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม หรือการนำเสาธงชาติต้นสีทองใหม่เอี่ยม 3 ต้น มาตั้งไว้บริเวณประตูทางเข้า-ออก
แต่ที่เป็นที่จดจำกันเป็นอย่างดีคือการยกสวนนงนุชมาไว้ที่ทำเนียบรัฐบาล
ไม่เพียงแต่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมัยที่มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ตร. ก็ทำพิธีย้ายศาลพระภูมิเจ้าที่ จากประตูทางออกถนนพระราม 1 ไปตั้งอยู่ประตูทางเข้าด้านหน้ากองรักษาการณ์
ขณะที่การเชิญซินแสหรือหมอดูฮวงจุ้ยมาปรับตำแหน่งโต๊ะทำงาน และห้องทำงาน ของบรรดาหัวหน้าสำนักงาน หรือส่วนราชการต่างๆ ก็ทำกันเป็นปกติ
แนวทางการเสริมสิริมงคลในวันเข้ารับตำแหน่งใหม่ ควรเป็นอย่างไร
โหรดัง อย่าง อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา ชี้ว่า วันเริ่มต้นทำงานของบรรดาข้าราชการที่เข้าสู่ตำแหน่งใหม่ หนีไม่พ้นการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงนั้นๆ
เช่น กระทรวงมหาดไทย ก็ควรจะถวายสักการะ พระรูปกรมพระยาดำรงราชานุภาพ หรือไม่ก็ไปไหว ศาลหลักเมือง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับดวงเมือง
"ในช่วง 2-3 เดือนที่จะถึงนี้ ประเทศไทยจะปั่นป่วนเพราะน้ำมาก อีกทั้งจะเกิดภัยพิบัติต่างๆ ขึ้น ดังนั้น การเลือกบุคคลที่จะเข้ารับตำแหน่ง ในกระทรวงที่มีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องบริหารจัดการน้ำ ก็ควรจะเลือกคนที่มีธาตุหิน หรือไม่ก็ธาตุไฟ" อรรถวิโรจน์ทำนาย
"อรรถวิโรจน์" ยังคาดการณ์ว่า กระทรวงมหาดไทยจะเป็นกระทรวงที่ยุ่งยากมากที่สุด เพราะเป็นกระทรวงใหญ่ มีเรื่องที่จะต้องรับผิดชอบเยอะ อีกทั้งยังมีหน้าที่โดยตรงในการบริหารจัดการน้ำอีกด้วย รวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
"การจัดวางหรือปรับฮวงจุ้ยของกระทรวงต่างๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะห้องทำงาน ของบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงนั้นๆ จะต้องจัดตำแหน่งไฟห้องทำงานให้สว่างๆ หรือไม่ก็หารูปภาพหรือรูปปั้นสัตว์ธาตุไฟ อย่าง มังกร เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดควรเลือกบุคคลที่มีธาตุตรงข้ามกับธาตุน้ำจะได้มีพลัง" อรรถวิโรจน์กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน ภาณุวัฒน์ พันธุวิชาตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย แนะนำว่า วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นปีมะแม ถ้าคนที่มารับตำแหน่งใหม่ ชงกับปีมะแมคือปีจอ หากรับตำแหน่งวันนี้ จะเป็นปีจอที่เข้ามารับปัญหาหนัก และจะเป็นคนที่เป็นแพะรับบาป
แต่ถ้าเป็นคนปีวอก ปีชวด และปีมะโรง สามารถรับตำแหน่งวันนี้ได้ ส่วนคนที่ปีชงกับปีมะแม ถ้าจะให้ดีเลื่อนวันรับตำแหน่งไปวันที่ 2 ตุลาคม หรือวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นวันเอาฤกษ์เอาชัย ยิ่งตำแหน่งสำคัญในวันที่ 2 ตุลาคม เป็นวันที่สมพงษ์ และไม่ควรนำสิ่งที่บ่งบอกถึงรูปสัตว์ต่างๆ มาตั้งไว้ ควรเป็นรูปพ่อ-แม่ ที่ถือเป็นเทพยดา
นอกจากนี้สถานที่ มุมห้องที่ตั้งโต๊ะทำงานมีส่วนสำคัญ ถ้าคนเดิมอยู่แล้วถูกย้ายให้เปลี่ยนมุมโต๊ะทำงานทันที
แต่ถ้าคนเดิมอยู่แล้วได้ตำแหน่งสูงขึ้นไม่ต้องย้าย การเปลี่ยนที่นั่ง เปลี่ยนทิศทางการตั้งโต๊ะ เป็นเรื่องที่ดี
ยกตัวอย่างกระทรวงสำคัญๆ คนที่จะเข้า ไปนั่งแทนคนที่เกษียณอายุราชการ ที่ผ่านมามักจะแก้ฮวงจุ้ย ด้วยการเปลี่ยนทิศทาง การเข้าออก อย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมี ผบ.ตร.เข้ามาแทนคนเดิม ก็ทำล่วงหน้าในการรับตำแหน่ง ไม่รับในวันที่ 1 ตุลาคม แต่ที่ผ่านมาจะโดนเรื่องหนักๆ หลายเรื่อง ควรเปลี่ยนทิศทางเข้าออกเสียใหม่
"ผมขอให้ทุกคนที่รับตำแหน่งใหม่ แทนคนเดิม ต้องช่วยเหลือประชาชนให้มาก ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นแพะรับบาปในปีนี้ ก็จะแย่ไปตามๆ กัน"
นั่นคือส่วนหนึ่งของความเห็นและความเชื่อ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนุนเสริมเท่านั้น
ความสำเร็จหากจะเกิดขึ้น ต้องอาศัย "สติปัญญา" การ "ลงมือทำ" ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ถือเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง คือตัวชี้ขาด
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ สวัสดีวันอังคารค่ะ
Create Date : 02 ตุลาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 2 ตุลาคม 2555 13:42:37 น. |
Counter : 1607 Pageviews. |
|
|