เดินทางมาถึง อ.ภูเรือ ประมาณตี 5 รถทัวร์จะจอดให้ลงหน้าตลาด อะไรก็ไม่รู้ พวกผมก็ล้างหน้าแปรงฟันและรอรถกระบะที่ติดต่อไว้มารับครับ เราจะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกัน

อ๋อ ลืมบอกไป ผมคาดการณ์ผิดไปคิดว่าไม่น่าจะหนาวซักเท่าไหร่ เลยไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวไป เอาแต่เสื้อแจ็คเก็ตผ้าร่มบางๆ ไปเท่านั้น ที่ไหนได้รถทัวร์เปิดแอร์ยังเย็นสู้ข้างนอกรถไม่ได้เลย ลงจากรถมาเจอ 8 องศา ได้แต่ยอมรับชะตากรรม

บนภูเรือวันนี้ลมแรงมาก แรงเหมือนเสียงน้ำตกเลยคับ ทะเลหมอกหมดสิทธิ์เห็น ลมพักกระจายหมด มีปัญญาถ่ายภาพมาได้แค่นี้เองครับ สังเกตุใบสนขวามือนะครับ ลมแรงเจงๆ

ก่อนที่จะแข็งตายบนนี้ไปซะก่อน ผมก็ทำการเดินลัดเลาะจากยอดภูเรือเพื่อไปที่ผาโหล่นน้อยที่อยู่ไม่ไกลกัน

มองจากผาโหล่นน้อยกลับไปที่ยอดภูเรือครับ สังเกตุเห็นศาลาเล็กๆ ตรงกลางภาพ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปครับ

ที่ผาโหล่นน้อยมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นง่ายกว่ายอดภูกระดึงอีกครับ จำนวนคนเลยเยอะกว่า รออยู่นานพระอาทิตย์ก็โผล่ขึ้นมาให้ชม เรียกเสียงเฮจากนักท่องเที่ยวได้ ผมถ่ายรูปพระอาทิตย์ไม่เป็นครับ ถ่ายยังไงก็ไม่สวย เอารูปป้ายชื่อผาไปก่อนนะครับ

พอชมพระอาทิตย์สาแก่ใจแล้วก็ลงมาที่ทำการอุทยานฯ เพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆ จากนั้นก็แวะทานข้าวครับ คนขับรถเค้าแนะนำร้านอร่อยๆ ให้ เป็นข้าวต้มหมูเห็ดหอมสด ที่ผมชอบ หนาวๆ อย่างนี้กินข้าวต้มแล้วอร่อยจริงๆ ครับ ผมเลยต้องน้องพลับเลย (น้องพลับขอ 2 น่ะ)

อิ่มแล้วก็ตกลงกันว่าเอาของเข้าไปเก็บในที่พักก่อนแล้วค่อยออกมาลุยเที่ยวกันต่อ คืนแรกเราไปพักที่ เลยลีลาวดี รีสอร์ท ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรกับชื่อนี้แต่พอตอนนั่งรถเข้ามาจากทางเข้ารีสอร์ทถึงรู้ว่าที่นี่ต้นลีลาวดีเยอะมาก เค้าปลูกไว้เพื่อขาย ยังมีต้นไม้ประดับอื่นๆ อีกเยอะต้องลองไปดูเอง ที่นี่ยังมีสวนส้มโชกุนด้วยครับ ผมชอบน้องส้ม

รูปหน้าห้องพักจ้า... ห้องที่เล็กที่สุดในรีสอร์ทรู้สึกว่าจะมี 2 ห้องนะ ผมนอนห้องนี้แหละ ห้องนี้ไม่ต้องการแอร์ครับนี่ขนาดพระอาทิตย์ขึ้นแล้วยังเย็นอยู่เลย ผมไม่รู้เหมือนกันว่าถ้ามาพักที่นี่หน้าร้อนแล้วห้องไม่มีแอร์พวกนี้จะร้อนมั้ย

ห้องนี้เป็นห้องพักแบบเรือนแถว แถวนึงมี 5 ห้อง ที่นี่มีอย่างนี้ 2 แถว ห้องสุดท้ายของแถวจะเล็กที่สุด และที่นี่ยังมีบ้านแบบที่ยกพื้นกับบ้านเป็นหลังๆ และก็บ้านดินด้วยครับ

เรือนแถวมันจะต่อๆ กันไปแบบนี้แหละ แถวละ 5 ห้อง

ภายในรีสอร์ทต้นไม้เยอะมากๆ เลยครับ ก็สมแล้วที่ปลูกต้นไม้ขายและก็รับตกแต่งสวน ถ้าทำของตัวเองไม่ดีก็เสียชื่อเสียงแย่ซิครับ

อยากไปเที่ยวจังเลย แต่ช่วงนี้สงสัยคนคงเยอะน๊อะ ก่อนไปต้องจอง ทีพักไว้ก่อนใช่เปล่า

คุณ =+ชาครียา+= -> ถ้าไปช่วงหน้าหนาวระหว่าง พ.ย. - ก.พ. ก็คงจะเต็มหมดแล้วแหละครับ เพราะมันเป็นช่วง High ของแถวๆ นั้น คนกรุงเทพนี่ชอบหนาวๆ ครับ พอหน้าหนาวทีก็ไปหาที่หนาวๆ เที่ยวกันครับ

ถ้าไปอื่นที่ไม่ใช่ฤดูหนาว มันก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่งะ ยังงัยก็คงต้อง ไปสักเที่ยวดูสักครั้งคะ

คุณ =+ชาครียา+= -> ผมก็เห็นด้วยกับคุณนะครับ ถ้ายังไงอยากไปภูเรือ และไม่ได้สนใจที่จะต้องเอารีสอร์ทดังๆ ผมว่าตอนนี้ยังพอมีเหลือนะครับ เพราะบริเวณภูเรือมีรีสอร์ทอยู่เยอะพอสมควรอย่างที่ใกล้ๆ ภูผาน้ำก็มีภูผาหมอกแล้วยังมีรีสอร์ทเล็กๆ อีกเพียบเลยครับ

โชคดีที่ จ.เลย มีที่เที่ยวอยู่หลายที่ คนก็เลยกระจายๆ กันไป ส่วนใหญ่จะไปกระจุกตัวอยู่ที่ภูกระดึงกัน โชคดีอีกอย่างก็คือสถานที่เที่ยวใน อ.ภูเรือ มีอยู่หลายที่ไม่กระจุกตัวและถ้าไปตอนช่วงหน้าหนาวบริเวณข้างทางจะมีร้านขายดอกไม้เมืองหนาวอยู่เต็มไปหมด น่าชมครับ เดี๋ยวมีรูปให้ชมด้วยครับ

พอจัดเก็บของเข้าที่พักเสร็จแล้ว คนขับรถก็พาเรามาไหว้พระที่วัดเนรมิตวิปัสสนา หรือที่คนแถวนี้เค้าเรียกกันว่าวัดโบสถ์ร้อยล้าน ทำไมถึงเรียกอย่างนี้เหรอครับ ดูรูปซิครับ พระอุโบสถและวัดสวยจริงๆ ครับ

ตัวพระอุโบสถทำด้วยอิฐสีแดง สีสันไม่เหมือนวัดใด

ภายในพระอุโบสถ(รูปบน) เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลองครับ

มีการจัดแต่งสวนกลางลานวัดสวยงามขนาดรีสอร์ทยังอาย

คุณ lekstudio นี่เป็นคนจ.เลย หรือเปล่าคะ ดูรู้เรื่องเที่ยวจ.เลยจังน๊อะ . แต่ปีนี้คงไปไม่ได้แล้วคะ คงต้องรอปีหน้า
ปีหนีมีโครงการไปเที่ยวดอยอินทนนท์ คะ อบากไปสัมผัสบรรกาศหนาวๆๆ อยากรู้ว่าเป็นงัยคะ
>>> ไปกับทัวร์เหรอคะ หรือว่าไปกันเองแล้วจะมี ไกด์ที่โน่น แต่รูปสวยมากนะคะ>>>>

คุณ =+ชาครียา+= -> ผมเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิดครับ ที่รู้เรื่องเที่ยว จ.เลยเยอะก็ได้มาจากการหาข้อมูลใน Internet กับหนังสือเที่ยวทั่วไทยกับนายรอบรู้และจาก BluePlanet ใน Pantip นิดหน่อยน่ะครับ

เนื่องจากผมไม่มีรถเป็นของตัวเอง การเดินทางทั้งหมดมักต้องใช้รถสาธารณะหรือเหมารถเอาจึงต้องหาข้อมูลเยอะกว่าปกติครับ ไม่งั้นเที่ยวไม่ทั่วหรือไม่ก็เที่ยวมันเกินไปเลยตกรถ ไปต่อไม่ทันน่ะครับ

ส่วนการเที่ยว จ.เลย อ.ภูเรือในครั้งนี้เป็นการเหมารถทั้งวัน วันละ 1,500 บาท (รวมน้ำมัน) เค้าจะพาเราไปจุดต่างๆ ที่คนมาที่นี่จะไปกันแล้วจอดรอให้เราเที่ยวเอง เที่ยวจนหน่ำใจแล้วก็กลับไปปลุกคนขับที่รถให้ไปต่อน่ะ

จบจากวัดเนรมิตวิปัสสนา ก็มาต่อกันที่พระธาตุศรีสองรักซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก จะว่าไปแล้วพระธาตุฯ ถึงก่อนด้วยซ้ำแต่คนนำทางพาไปชมวัดเนรมิตฯ ซึ่งอยู่ด้านในก่อน

การเข้านมัสการที่พระธาตุศรีสองรักนั้นไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีแดงนะครับ

พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๑๐๓ เสร็จในปี พ.ศ.๒๑๐๖ พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา(สมัยพระมหาจักรพรรดิ)และกรุงศรีสัตนาคนหุต(เวียงจันทน์) สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช

ที่บอกว่าไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีแดงนั้นเนื่องจากองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็นสัญญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรงนั่นเองครับ





อ๋อ ลืมบอกไปวัดเนรมิตวิปัสสนาและพระธาตุศรีสองรักนั้นอยู่ที่อำเภอด่านซ้ายนะครับไม่ใช่อำเภอภูเรือที่ระบุอยู่บนรูป แต่เนื่องจากการท่องเที่ยวในครั้งนี้ของผมอยู่ที่อำเภอภูเรือเสียส่วนใหญ่และเป้าหมายหลักคือมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูเรือ ผมจึงขอเรียก Trip นี้ว่าภูเรือก็แล้วกันนะครับ

ต่อจากนั้นพี่คนขับก็พาผมบุกสวนองุ่นชาโต้ เดอ เลย ขับรถตะเวนเข้าไปในสวนเลยครับ ยิ่งใหญ่ไพศาลมากมารู้ทีหลังว่ามีขนาดกว่า 1 หมื่นไร่ (ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ใหญ่จริงๆ ครับ)

รถส่วนใหญที่เข้ามาในไร่ เค้าห้ามจอดห้ามหยุดหรือลงจากรถให้วิ่งผ่านไปเรื่อยๆ สงสัยคงกลัวคนขโมย แต่เผอิญรถผมขับผ่านพี่คนสวนที่ขี่มอเตอร์ไซค์สวนมาพอดีเลยขอพี่เค้าลงไปถ่ายรูปคู่กับพวงองุ่นได้ โดยมีพี่มอ'ไซค์ยืนคุมตลอดการถ่ายทำ

ที่นี่ผมแวะซื้อองุ่นดำไร้เมล็ดด้วยครับ เอามาแช่ตู้เย็นให้เย็นเจี๊ยบแล้วกินอร่อยจริงๆ เล้ยย

แล้วไปเที่ยวกี่วันคะ ดีน๊อะ เป็นผู้ชายแล้ว ไปเที่ยวไม่ต้องห่วง เท่าไหร่เป็นผู้หญิงแล้วไปเที่ยว ลำบากจัง แม้จะไปกันหลายๆ คนก็ตาม

คุณ =+ชาครียา+= -> Trip นี้ผมไป 3 วัน 2 คืนครับ โดยส่วนใหญ่ที่ผมไปเที่ยวผมก็ไปประมาณนี้แหละครับ ลางานวันศุกร์ 1 วัน หยุดต่อเนื่องเสาร์ - อาทิตย์ ถ้าไปไกลหน่อยก็ออกจากกรุงเทพคืนวันพฤหัสฯ แค่นี้ก็เที่ยวได้แล้วครับ ส่วนเรื่องผู้หญิงเที่ยวลำบากก็เห็นด้วยนะครับ ยังไงหาเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ ที่มีผู้ชายอยู่ซักหน่อยไปเที่ยวกันใกล้ๆ ดูก่อนก็ได้นะครับ

พื้นที่สวนองุ่นนั้นใหญ่จริงๆ ครับ อยากจะกระโดดจากรถลงไปเด็ดกินให้หน่ำใจแต่กลัวลูกซองอ่ะ

หลังจากชิมไวน์จนมึน ชิมขนมจนอิ่มแล้ว พี่คนขับก็พามาที่นี่เลยครับห้วยกระทิง อธิบายนิดนึงครับว่าก่อนผมจะไปเที่ยวที่ใดผมจะหาข้อมูลสถานที่ๆ ผมจะไปก่อนทุกครั้งว่าบริเวณที่เราจะไปนั้นมีที่เที่ยวอะไรบ้าง จากนั้นก็จะเริ่มมาจัดโปรแกรมว่าจะไปที่ไหนก่อนหลัง แต่ผมก็ไม่เคยได้ยินชื่อห้วยกระทิงนี้เลยว่ามันเป็นสถานที่แบบไหน เนื่องจากเวลาเหลือเฟือบวกกับพี่คนขับบอกว่าดีก็เลยตามเลยครับ

เมื่อมาถึงแล้วพบว่าดีเกินคาด ที่นี่เป็นเสมือนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีแพคอยให้บริการประมาณว่าเช่าแพ 100 - 150 บาท ตามขนาดของแพ จากนั้นก็สั่งอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องการบนฝั่ง ทางร้านค้าจะจัดไปให้บนแพ บนแพจะมีเสื่อปูและก็มีหมอนให้ เมื่อเราขึ้นแพกับอาหารพร้อมแล้วเค้าก็จะเอาเรือหางยาวมาผูกติดกับแพแล้วลากไปกลางอ่างเก็บน้ำนี้ พอได้ที่เหมาะๆ แล้ว คนขับเรือก็จะโยนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ใช้แทนสมอแพ (สมอเรือ) ลงไปในน้ำแล้วก็แกะเรือวิ่งกลับเข้าฝั่ง ปล่อยเราอยู่บนแพลอยหมุนไปหมุนมา เมื่อท่านต้องการกลับเข้าฝั่งหรือต้องการเข้าห้องน้ำก็ให้ชักธงที่อยู่บนแพขึ้นแล้วเรือจะกลับมารับเองครับ สนุกดีจริงๆ

ผมทานอาหารบนแพซักพักก็หลับไป 2 ชั่วโมง อากาศมันน่านอนจริงๆ ครับ

ถ้าท่านใดมีเวลาเหลือเฟือแวะมาที่นี่ก็ได้นะครับ คนไม่ค่อยเยอะครับส่วนใหญ่มีแต่คนพื้นที่ สงสัยไม่ค่อยโปรโมต ส่วนเส้นทางไปบอกไม่ถูกเพราะหลับตลอดทาง แฮะ แฮะ

หลังจากหลับเต็มอิ่มแล้ว เราจะไปชมสวนดอกไม้กันต่อครับ ถ้าท่านไปช่วงหน้าหนาวสองข้างทางที่รถผ่านจะมีร้านขายดอกไม้เมืองหนาวอยู่เต็มไปหมด สีสันสดใสจิงๆ เล้ย อดใจไม่ไหวเลยให้พี่คนขับจอดแวะถ่ายรูปซะหน่อย

จากนั้นคนขับก็พาไปที่สวนดอกไม้ ที เอส เอ กันต่อเลยครับ บรรยากาศก็เหมือนๆ กับสองข้างถนนที่เราผ่านมานั่นแหละ ไม่ต่างกันมาก แต่ที่ต่างกันคือสิ่งนี้ครับ คุณพ่อและคุณแม่น้องฟักทอง โอ้แม่เจ้าอะไรจะใหญ่ปานนั้น

เช้าวันต่อมาเดินขึ้นไปถ่ายรูปเล่นบนหอคอยของเลยลีลาวดี รีสอร์ท รูปนี้เป็นส่วนรับแขกและห้องอาหารครับ

ข้ามถนนทางด้านขวาของรูปข้างบน ก็จะพบกับสวนส้มโชกุนที่รีสอร์ทนี้ปลูกไว้เอง ส้มออกลูกเต็มสวนเลย (ทำไมยังไม่เก็บก็ไม่รู้)

เห็นเงาของผมบนหอคอยไหมครับ คนอะไรก็ไม่รู้ขนาดเงายังดูเท่ห์เลย

อ๋อ มีอีกเรื่องน่าสนใจ โดยปกติแล้วมื้อเช้าของโรงแรมจะมีน้ำส้มให้ทานและมักจะใช้น้ำส้มซันควิส ซึ่งจะมีรสชาดแปลกๆ แบบส้มสังเคราะห์ที่แต่งสีแต่งกลิ่น แต่ที่เลยลีลาวดี รีสอร์ทนั้นเป็นที่ที่เดียวจากที่ผมเคยใช้บริการอาหารเช้าของโรงแรมกว่า 30 - 40 แห่ง ที่นี่เค้าใช้น้ำส้มโชกุนคั้นครับ ผมเติมเป็น 10 แก้วเลย อร่อยจริงๆ

หลังจากอิ่มอร่อยจากอาหารเช้าแล้ว วันนี้ผมจะต้องย้ายรีสอร์ทครับ ก็ได้ผู้จัดการเลยลีลาวดี รีสอร์ทใจดี๊ดีรับอาสาไปส่งผมที่ภูผาน้ำแถมยังอาสาขับรถวนเข้าไปชมสวนของรีสอร์ทอีก ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

มาถึงภูผาน้ำซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเลยลีลาวดี รีสอร์ทมากนักก็เช็คอินกันเลยครับ นี่รูปภายในห้อง ที่ผมคิดว่าวิวดีที่สุดในรีสอร์ทแล้ว (ถ้าไม่นับห้อง Suite ที่อยู่เหนือห้องนี้ขึ้นไป)

หลังจากเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินชมรีสอร์ทไปเรื่อยๆ เดินชมห้องต่างๆ ทั้งที่อยู่บนเรือนใหญ่กับอยู่ริมผา ที่นี่เค้ามีเลี้ยงนกกระจอกเทศไว้ด้วยนะครับ ผมก็พึ่งจะรู้ว่านกกระจอกเทศชอบกินใบตอง เลยขนไปให้มันชุดใหญ่

อ๋อ!!! ที่รีสอร์ทนี้เค้าเลี้ยงนกเงือกเอาไว้ด้วยครับ มีประมาณ 7 - 8 ตัว เลี้ยงแบบปล่อยบินไปมาเลย เวลานั่งทานอาหารทีมันก็จะมาเกาะอยู่ข้างๆ รออาหาร สนุกดีครับ ผมชอบ

อีกอย่างที่ทำให้ผมชอบที่นี่ก็คือ ตอนกลางคืนที่นี่เปิดไฟสวยงามมากครับ โดยเฉพาะบริเวณสระว่ายน้ำ สวยอย่าบอกใครเชียว อีกทั้งบริเวณทางเดินโดยรอบจะซ่อนลำโพงเอาไว้แล้วเปิดเพลงเบาๆ เวลาเราเดินชมสวน ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศมาให้ชมนะครับ ช่วงนั้นกล้องผมมี Memory น้อย ถ่ายที่อื่นไปเยอะเลยหมดซะก่อน

เอารูปห้องตอนกลางคืนไปชมพลางๆ ก่อนนะครับ

ตื่นมาตอนเช้าก็เดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยรอเวลาเที่ยวรถทัวร์ เลยได้รูปนี้มาครับ เป็นมุมยอดนิยมของที่นี่เลยครับ ผมได้ห้องที่อยู่ทางขวามือของภาพที่มีระเบียงและไม่ใช่ห้องใต้หลังคา ส่วนห้องที่เป็นหลังคานั้นห้อง Suite ครับ

นิดนึงนะครับ ข้อเสียของที่นี่มี 2 ข้อ

- ข้อแรกเซลล์ที่กรุงเทพไม่ได้มีการติดต่อที่ดีกับ Reception ของที่นี่ ทำให้ห้องที่ผมจองไว้ก่อนนั้น (ชำระเงินครบแล้วด้วยนะ) โดนคนอื่นเอาไป กว่าจะติดต่อขอห้องคืนได้ก็ลำบากลำบน เพราะคนที่เข้าพักนั้นออกไปเที่ยวข้างนอก ดีนะที่ได้ออนเซ็นช่วยไว้ไม่งั้นคงน่าเบื่อกว่านี้
- อีกข้อคืออาหารที่นี่ไม่อร่อยเลย ข้อนี้ผมบอกเซลล์ไปแล้ว ไม่รู้ตอนนี้ปรับปรุงไปหรือยัง

.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.

จบแล้วครับสำหรับทริปตลุยภูเรือ (และอำเภออื่นๆ) ท่านใดมีอะไรจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือติชมใดๆ เชิญได้เลยนะครับ

ถ้าไปภูเรือแนะนำ ภูเรือรีสอร์ท วิวสวยมากๆๆคะ
ประทับใจมาก มีน้ำตกข้างหลังรีสอร์ทด้วย
ลงเล่นน้ำกับเพื่อนๆๆสนุกมากๆๆค่ะ ที่สำคัญอาหารเย็น
อร่อยมากๆๆๆ แนะนำ ยำผักกูด และ เห็ดหอมสดผัดน้ำมันหอย
เข้าไปดูรูปภาพได้ที่
//phuruaresort25.multiply.com

สวยดีค่ะ

สถานที่ที่น่าเที่ยวที่สุดคือ เชียงคาน แต่รีสอร์ทที่สวยและน่าพักที่สุดต้องยกให้ Lee - la wa -dee Resort

กำลังวางแผนเที่ยวอยู่เลย
น่าสนุกจัง
ว่าจะไปหลังปีใหม่ง่ะ

ดูในเน็ต แล้วสวยมาก ๆ เลย เราก็เป็นเจ้าของ รีสอร์ทเล็ก ชื่อ" เฮือนสันติสุข" อยู่ทางเข้าวัดป่าม่วงไข่ ว่างๆก็ช่วยแนะนำน้องใหม่ด้วยน่ะค่ะ ให้ว่างจากแขกแล้วจะมาขอคำแน่ะนำนุค่ะ
JEAB.VONG@gmail.com 0817498827

คุณเจี๊ยบครับ รีสอร์ทมีเว็บไซด์ไหมครับจะได้เ้ข้าไปเยี่ยมชม

เรามีเว็บค่ะ..เว็บชื่อ I Love purua.com (ไอเลิฟภูเรือ เข้าเป็นภาษาไทยก็ได้ค่ะเว็บเรากำลังปรับปรุงอยู่ค่ะ) และขอโทษมากๆ ที่ตอบช้าเพราะเจี๊ยบเป็นทุกอย่างในรีสอร์ทของตนเอง..ถ้าว่าก็โทร.มาคุยกันก่อนก็ได้ 0817498827 ค่ะ ที่รีสอร์ทเราเป็นกำลังทำไร่ข้าวเหนียว,ปลูกไผ่หวานเมืองเลย,ทำนาข้าวเหนี่ยวทนแล้ง และขุดสระปล่อยปลาทำผักสวนครัวรั้วกินได้ด้วยค่ะอีกหน่อยก็ไม่ต้องซื้อแล้ว..

คุณใช้คนที่โพสนี้หรือเปล่าบอกเลยว่าสนุก ๆ จริง..ตอนนี้ขอแนะนำวันที่ดีและอยากให้ไปไหว้เพื่อเป็นมงคลคือวัดป่าม่างไข่เคยไปหรือยังค่ะห่างจากเรา 1.5 กม...และยังมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวฝั่งอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ห่างจากรีสอร์ทเรา20กว่ากม.เอง

มี ไอเลิฟภูเรือ ค่ะหรือโทรมาคุยก่อนก็ได้ 0817498827 เจี๊ยบ