Group Blog |
ลาก่อนหลังลาย ตอนที่2 สวัสดีค่ะ วันนี้บัมจะขอรีวิวเกี่ยวกับเรื่องที่ติดไว้กับสาวๆที่เคยได้เข้ามาอ่านblogเล็กๆนี้ ด้วยเรื่อง หลังลาย ใช่ค่ะแผ่นหลังของเรานี่แหละค่ะที่มีจุดด่างดำอันเกิดจากสิวขึ้นที่หลังของเราและได้ทิ้งรอยดำไว้ให้เราช้ำใจเล่นๆ จากความเดิมตอนที่แล้วบั๊มได้แนะนำผลิตภัณฑ์ ทีรักษาเกี่ยวกับลบรอยดำไปนั่นก็คือ Bio-oil หน้าตาเจ้าผลิตภัณฑ์นี้ก็ตามรูปข้างล่างนี้ล่ะค่ะ ส่วนเรื่องคุณสมบัติของเจ้าผลิตภัณฑ์นี้ท่านที่เพิ่งเข้ามาอ่านสามารถตามไปอ่านได้จากรีวิวตอนก่อนๆของบั๊มนะค่ะ ซึ่งจากวันที่บั๊มใช้เจ้าตัวนี้และนำมารีวิวให้ท่านได้อ่านเป็นช่วงเดือน สิงหาคม ปี 57 ซึ่งบั๊มได้เก็บภาพหลังลายๆของบั๊มในช่วงเวลานั้นมาให้พวกท่านได้ชมกันด้วยค่ะ ภาพที่จะได้เห็นต่อไปนี้อาจจะชวนสยองได้นะค่ะ นี่คือหลังลายๆของบั๊มเองค่ะเห็นแล้วอึ้งเลยไหมค่ะอะไรจะเป็นจุดเยอะแยะขนาดนั้นบอกตรงๆนะค่ะ บั๊มไม่กล้าใส่เสื้อที่โชว์แผ่นหลังเลยค่ะ จะต้องมีเสื้อคลุมเพื่อปกปิดรอยดำพวกนี้ไว้ ภาพนี้บั๊มใช้Bio-oil อยู่นะค่ะ แต่ด้วยนิสัยขี้เกียจของบั๊มนะค่ะที่ไม่ค่อยชอบทาเช้าและเย็น ชอบอ้างว่าไม่มีเวลาทาอันที่จริงก็คือนิสัยขี้เกียจของบั๊มเองค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่บั๊มรู้สึกได้คือรอยดำได้จางลงพอสมควรค่ะเพียงแต่โจทย์ของบั๊มคือ ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราไม่เสียเวลาไปกับการที่จะต้องทาหลังให้ทั่วซึ่งสำหรับบั๊มการทาหลังตัวเองมีนเป็นอะไรที่จะทาให้ทั่วนี่ลำบากมากเลยอ่ะค่ะ ยกเว้นคนไหนมีคนทาให้ก็ไม่ว่ากันนะค่ะ หุหุ และในช่วงนั้นเองที่บั๊มกำลังขี้เกียจกับการทาBio-oilบนแผ่นหลังของตัวเอง บั๊มก็ได้เจอ ฮีโร่ ที่มารักษารอยดำที่แผ่นหลังบั๊มนั่นก็คือ สบู่วิตามิน อี เบนเนท(BENNETT) นี่คือสบู่ฮีโร่ สำหรับบั๊มเลยค่ะ จริงๆแล้วหลายท่านอาจจะรู้จักดีหรือใช่อยู่แต่สำหรับบั๊ม บั๊มกล้าพูดได้เลยค่ะว่า ตั้งแต่เกิดมาบั๊มไม่เคยใช้สบู่ถูตัวที่ราคา 48 บาท เลยค่ะ สูงสุดก็30กว่าบาท คือตอนแรกที่หยิบมาดูยังคิดเลยค่ะว่า ราคาสบู่ก้อนนี้ทานข้าวได้1 จานแล้วอ่ะ แต่พอได้ลองใช้ก็เข้าใจเลยค่ะว่าถึงราคาจะสูงไปสักนิดสำหรับคนมนุษย์เงินเดือนอย่างบั๊มแต่ ผลที่ได้มัน คุ้มและใช่เลยค่ะ ภาพนี้ถ่ายช่วงเดือนกันยายน ปี57 ค่ะตอนถ่ายไม่ได้ใช้แอปอะไรช่วยเลยค่ะตั้งใจอยากให้เห็นกันชัดๆเลยค่ะว่า สิวและรอยดำ ได้จางลงไปพอสมควรซึ่งในช่วงนั้นบั๊มใช้ทั้งBio-oilและสบู่เบนเนท ควบคู่กันไปค่ะ จะเห็นได้เลยใช่ไหมค่ะว่าเดือนเดียวรอยดำได้จางลงไปเยอะพอสมควรถ้าเทียบกับรูปข้างบนค่ะ ยังค่ะยังไม่พอขอตอกย้ำหลังลายๆของบั๊มแบบซูมใกล้ๆชัดๆกันค่ะ จากรูปจะเห็นเลยใช่ไหมค่ะว่าจุดดำๆบนหลังของบั๊มมันจางลงจริงๆค่ะ และหลังจากเดือนกันยายน ปี57 เป็นต้นมาบั๊มก็ไม่ได้ใช่Bio-oil อีกเลยค่ะใช้แต่สบู่เบนเนท สูตรวิตามินซี เพียงอย่างเดียวค่ะ 1ปีผ่านไป เรามาดูกันค่ะว่า ปัจจุบันนี้หลังของบั๊มมีสภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง นี่คือ แผ่นหลังของบั๊มในปัจจุบันนี้ค่ะ เป็นไงบ้างค่ะ ดูดีขึ้นไหมค่ะ สิ่งหนึ่งที่บั๊มรู้สึกได้จากการใช้เจ้าสบู่เบนเนทนี้ก็คือ 1. สิวยังขึ้นอยู่ค่ะแต่ไม่ขึ้นเยอะเป็นและเป็นกระจุกๆแบบเมื่อก่อน อาจจะมีขึ้นมาบ้างประปราย 2. รอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นจากครั้งก่อนๆจะค่อยๆลบเลือนและจางหายไป โดยใช้ควบคู่กับการใช้บวบขัดถูหลังเป็นประจำสมำเสมอ 3. สำหรับผู้ที่ผิวแห้ง เมื่อใช้เจ้าสบู่นี้ไปผิวจะมีลักษณะลอกเป็นขลุยๆเพราะเนื่องจากเป็นสบู่วิตามินซี ซึ่งเป็นเหมือนกรดผลไม้อ่อนๆทำให้ผิวหนังชั้นนอกของเราลอกเป็นขลุยๆได้ค่ะ 4. กลิ่นสบู่ เมื่อใช้โดยส่วนตัวบั๊มบั๊มชอบค่ะมันให้ความรู้สึกที่สดชื่นดีค่ะ 5. สบู่ยี่ห้อนี้ละลายเร็วค่ะ บั๊มใช้2 ก้อน/เดือน ค่ะ ซึ่งก็ต้องยอมค่ะเพราะของเขาดีจริงๆ ท่านใดที่ใช้สบู่นี้อยู่ประจำก็คงยอมรับในเรื่องนี้ใช่ไหมค่ะ สำหรับบั๊ม บั๊มจะถูสบู่ 2 รอบต่อการอาบน้ำทุกครั้งคะ นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึงที่ทำให้สบู่หมดเร็วค่ะ แต่บั๊มเชื่อว่าการที่เราอาบน้ำแล้วถูสบู่2 รอบเป็นการล้างสิ่งสกปรกออกจากตัวเราได้เกลี้ยงหมดจดค่ะ ไม่เชื่อลองดูจากสีของไขสบู่รอบแรกกับรอบหลังสิค่ะ สีของไขสบู่จะแตกต่างกันเลยละค่ะ จบแล้วค่ะสำหรับรีวิว บอกลาหลังลาย บั๊มหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารีวิวนี้อาจจะตอบโจทย์ให้กับบางท่านทีมีปัญหาเรื่องสิวและจุดด่างดำที่หลังได้บ้างนะค่ะ ท่านใดที่มีข้อเสนอแนะหรือข้อสงสัยสามารถคอมเมนท์ได้เลยนะค่ะเพื่อที่บั๊มจะได้นำไปพัฒนาในการเขียนblog ครั้งต่อไป ขอบคุณค่า Ladybump20
|
bumpza
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?] เป็นผู้หญิงที่รักและหลงใหลแคคตัส/กระบองเพชร ชอบแต่งหน้าให้คนอื่นแต่ไม่ชอบแต่งหน้าให้ตัวเอง รักสวยรักงามแต่ขี้เกียจดูแลตัวเองให้สวยงาม ขี้อายในบางเรื่องและก็กล้าในบางเรื่องเช่นกัน แต่ทุกสิ่งที่ทำคือใจรักล้วนๆเพราะถ้าไม่รักบั๊มจะไม่ทำ |