กันยายน 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
เมื่อส่งแม่เข้าวัด

ตั้งแต่เกิดมาจนปูนนี้ ทั้งชีวิตที่เห็นมาตลอดคือแม่ไปวัด ทำแกงหม้อใหญ่ไปถวายวันพระใหญ่ ทำสังฆทาน ใส่บาตร สร้างพระ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ก็คิดว่าตัวเองดีใจได้เกิดมาใช้ชีวิตอยู่ในพุทธศาสนา แต่จนวันนึงเมื่อ 5 ปีที่แล้วได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่ยุวพุทธ ก็เริ่มรู้สึกว่าจริงๆ แล้วการได้มาปฏิบัติธรรม ได้มาอยู่กับตัวเอง อยู่กับปัจจุบัน แล้วมันดีเหมือนกันนะ ก็ทำมาเรื่อยๆ ปีละครั้ง 2 ครั้งมั่ง 8 วันมั้่ง 3 วันมั่ง

ในขณะที่ทำก็นึกตลอดว่าอยากให้พ่อกับแม่มาบ้าง แม่เป็นคนใจร้อน โผงผาง ขี้นอยด์ตลอดเวลา กลัวที่สุดคือกลัวหมอกลัวโรงพยาบาล เวลาหาหมอทีไร ร้องไห้ทุกทีคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว พอทุกคนบอกทำใจดีๆ ไม่มีอะไรๆ ทำใจดีๆ นะ เราก็ย้อนมาดูตัวเองว่าถ้าเราไม่เคยปฏิบัติธรรม แล้วนอยด์ขนาดนี้ พอคนมาบอกว่าทำใจดีๆๆ จะทำได้หรอ กรูแม่งกลัวจะตายห่ามาบอกให้กรูทำใจดีๆ ไม่ลองเป็นกรูแล้วมรึงจะรู้มะ

เวลาทุกข์เรื่องครอบครัว เรื่องปั๋ว เรื่องลูก ก็มานั่งอมทุกข์ จะเป็นจะตาย ทำไมเค้าทำกับเราอย่างนี้อย่างนั้น จนมีวันนึงแม่หลุดออกมา "แม่อยากไปอยู่วัดซักวันสองวันมั่งลูก" คิดในใจ เสร็จโก๋ คืนนั้นจัดการจองหลักสูตรพื้นฐานให้แม่ทันที แต่กว่าจะได้ไปรอไปอีก 2 เดือน

2 อาทิตย์ก่อนถึงวันเข้าปฏิบัติ บอกแม่ว่าหม่าม๊าเตรียมชุดขาวรึยัง เดี๋ยวพาไปซื้อ แม่เริ่มนอยด์ คือทุกข์ทั้งหลายผ่านไปแล้วไง วันนี้ไม่อยากไปแล้วอ่ะวัด ไม่ไปได้มั๊ยลูก ให้แม่ไปคนเดียวหรอ เราก็บอกว่าใช่ดิ หม่าม๊าต้องไปคนเดียว เพราะคอร์สนี้เค้ารับอายุ 45-80 นี่ หนูอายุไม่ถึงไปกับหม่าม๊าไม่ได้ อ้าว แล้วหม่าม๊าจะอยู่ยังไง เดี๋ยวรอไปกับพวกน้าแม๊กละกัน โอ๊ะๆๆ อย่าเลยไปคนเดียวเถอะไม่ต้องกลัว หม่าม๊าไปอยู่วัดอื่นอ่ะ ไม่ใช่วัดไม่ดีนะ แต่ถ้ายังพูดคุยได้ ใช้โทรศัพท์ได้อ่ะ หม่าม๊าก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆหรอก ไปถึงจับกลุ่มคุย ไม่ได้เรื่องชาวบ้านมา ก็ชาวบ้านรู้เรื่องเราหมด หนูเชื่ออย่างนั้น

วันสุดท้าย แม่ยิ่งนอยด์ หาข้ออ้างสารพัดว่าไม่ว่างติดโน่นติดนี่ ต้องเตรียมของสาร์ทจีน (แม่ไปกลางเดือนสิงหาที่ผ่านมา) แต่ของอ่ะซื้อของเสร็จหมดแล้ว พอถามก็บอกว่าก็ซื้อแล้วแต่หม่าม๊ายังไม่ได้ซื้อเป็ดไก่นี่ แม่เจ้า...วันนี้กลางเดือน หม่าม๊าจะซื้อมาเลี้ยงแล้วรอฆ่าหรอ ปกติเป็ดไก่ซื้อเช้าหรือคืนก่อนสารทจีนไม่ใช่หรอจ้ะ คุณแม่

พอถึงวันไปจริงๆ ไปรับแม่ที่บ้านขับรถออกนอกเมือง แม่เริ่มงง อ้าวไปไหนเนี่ยไม่ถึงซะที ก็ไปวัดไง อ้าววัดไม่อยู่ในเมืองหรอ ใครบอกอ่ะ ป่าวนี่อยู่โน่นฉะเชิงเทรา

"นี่เอาแม่ไปทิ้งถึงโน่นเลยหรอ" แม่ช็อค
"อ้าว..อยู่วัดในกท.หม่าม๊าก็นั่งแท๊กซี่กลับได้ดิ" เราแซว "ทิ้งที่ไหน พาไปปฏิบัติธรรม ไม่น่ากลัวหรอก ไม่ต้องกลัว เชื่อดิ" ค่อยๆ ปลอบใจ

ตลอดเวลาเดินทางพ่อโทรมาหาตลอดเป็นระยะๆ ว่าถึงรึยัง ซึ่งพ่อก็เข้าใจว่าวัดในกทม. พอรู้ว่าเป็นฉะเชิงเทรา พ่อก็งง โห ถึงโน่นเลยหรอลูก ดูแม่มรึงดีๆนะ ที่หลับที่นอนเป็นยังไง แม่มรึงขาไม่ค่อยดี อยู่คนเดียวจะได้หรอ บลา บลา จ้ะๆๆ ป๊าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวหนูจัดการให้

ไปถึงวัดจัดการลงทะเบียน ขออนุญาติเข้าเขตปฏิบัติธรรม เพราะช่วยยกกระเป๋าแม่ขึ้นไปเก็บ หาที่นอนให้ ลงมาพาไปดูห้องน้ำ หม่าม๊ามาเข้าห้องนี้นะ ห้องนี้ไม่ต้องนั่งยองๆ แก้วน้ำประจำตัวอันนี้นะ อย่าไปหยิบของคนอื่นล่ะ แล้วก็หม่าม๊าไม่ต้องนั่งพื้นก็ได้นะ ถ้านั่งไม่ไหวไม่ต้องฝืน ส่วนเวลาเดินจงกรมอ่ะก็ใช้ไม้เท้าเอานะ รู้ป่าว แล้วก็ไปนะบ๊ายบาย ไม่ต้องกลัวล่ะ สู้ๆ

พอกลับออกมา พ่อก็โทรมาอีก

"ส่งแม่เข้าวัดรึยังลูก" พ่อถาม
"เรียบร้อยจ้า" เรารีบตอบ
"โทรศัพท์ไม่ได้เลยหรอ" ถามต่อ
"จ้ะ ไม่ได้พ่อ ไม่ต้องห่วงหรอก ดีแล้วจะได้ไม่ฟุ้ง" เราเสริม
"แล้วเอาปากกาให้แม่มรึงไว้รึปล่าว"
"เฮ้ย ปากกาไรอ่ะ ทำไมต้องให้ไป" เราถามงงๆ
"อ้าว ก็เห็นบอกว่าต้องลงทะเบียนก่อน แล้วแม่มรึงจะทำเป็นหรอ"
"อ๋อ เรียบร้อยแล้วป๊า ไม่มีอะไรหนูจัดการให้เสร็จแล้ว" เราตอบแบบขำๆ
พ่อยังถามต่ออีก "แล้วกระเป๋าแม่มรึงอ่ะ ดูให้รึปล่าว แม่มรึงเตรียมของไปครบมั๊ย ยิ่งขี้หลงขี้ลืมอยู่"
"อ้าวไม่รู้อ่ะ เค้าบอกว่าเค้าจัดการเอง"
"แล้วโทรศัพท์ใช้ไม่ได้เลยหรอ" พ่อถามซ้ำ ด้วยความเป็นห่วงกลัวแม่หกล้ม หรือมีอะไรฉุกเฉิน
"ไม่ได้จ้า ป๊าไม่ต้องห่วงนะ ที่นี่เค้ามีพี่เลี้ยงคอยดูแล" เราคอนเฟิร์มอย่างหนักแน่น

ตอนบ่าย พี่สาวโทรมาถาม "หม่าม้าเข้าวัดรึยัง"
"อืม เรียบร้อยแล้ว" เราตอบไป
"แล้วแอบไปดูเค้าป่าว ว่าเป็นไงมั่ง"
"เฮ้ย เพิ่งเข้าไปไม่กี่ชม.เองนะ แล้วจะไปแอบดูได้ไง" แอร๊ยยย ถามแปลกๆ

วางหูไปพร้อมกับรอยยิ้มปนความเป็นห่วง ย้อนนึกถึงตอนเป็นเด็ก นึกถึงตอนไปโรงเรียนครั้งแรก ที่พ่อแม่ตื่นเต้นกับการส่งลูกเข้าโรงเรียน เตรียมกระเป๋าจัดของ ไปส่งที่โรงเรียน แถมท้ายด้วยการแอบไปดูว่าลูกเป็นยังไงมั่ง นี่มันคงเป็นวงจรชีวิตจริงๆ เป็นช่วงที่เราต้องเป็นคนดูแลพ่อแม่ ตอบแทนบุญคุณท่าน แต่ในขณะเดียวกันก็ลุ้นระทึกว่าแม่จะอยู่ได้มั้ย จะลื่นล้มมั้ย จะนอนได้มั้ย เอาน่าแค่ 2 คืนเอง  พระคุ้มครอง

3 วันผ่านไปไวเหมือนโกหก วันอาทิตย์ออกไปตั้งแต่ 9 โมง จริงๆแล้วแม่จะเสร็จประมาณเที่ยง  แต่ไปถึงโน่นประมาณ 10.30 แฟนบอกว่ารีบไปเหอะ เผื่อเลิกก่อนออกมาแล้วไม่เจอใครเดี๋ยวเค้าตกใจ ไปรอดีกว่าให้เค้ามารอ ก็เหมือนเด็กอ่ะ พ่อแม่ฉันมารับก่อนคนอื่น ดูเป็นความภูมิใจ ฮ่าๆๆ

ขับรถไปก็ลุ้นไปว่าเฮ้ยกรูจะโดนด่ามั้ยเนี่ย จับแม่มาทำอะไร เค้าจะเข้าใจในสิ่งที่เราพยายามให้เค้าทำมั้ย

เจอหน้าแม่ หม่าม๊าเป็นไง หม่าม๊ามาพร้อมกับรอยยิ้ม ดีลูก ขึ้นไปหยิบกระเป๋าให้แม่ทีข้างบน "ได้ๆ หม่าม๊ารอนี่นะ" เรารีบขึ้นไปจัดการเก็บของแม่ลงมา ส่วนแม่ก็ร่ำลา ขอบอกขอบใจพี่เลี้ยง วิทยากร ที่คอยช่วยดูแล
"หม่าม๊าเป็นไงมั่ง" เรารีบถามตอนขึ้นรถ
"ก็ดีนะลูก แม่ชอบ" แอบกรี๊ดดด ในใจ  

เสร็จก็พาไปกินข้าว ไปส่งบ้านพร้อมอาการแช่มชื่น แต่หลังจากนี้ต่อไปเป็นยังไง ไว้จะมาอัพเดทกันใหม่

 




Create Date : 11 กันยายน 2555
Last Update : 11 กันยายน 2555 14:55:46 น.
Counter : 1332 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

โค่วเหวิน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]