เทคนิคการหาจังหวะเข้าซื้อหุ้น

..........เช้าวันพระใหญ่อากาศสบาย ๆ เลยขอเอา lecture ในห้องไลน์ ที่ทบทวนจังหวะการเข้าซื้อหุ้นมานำเสนอในนี้อีกครั้ง เพราะยังมีคำถามเรื่องการเข้าซื้อหุ้นมาอีก โดยขอสรุปรูปแบบการเข้าซื้ออีกครั้งนะครับ  
………1.เข้าซื้อแบบทันที (Aggressive Entry) คือการเข้าซื้อทันที่ที่หุ้น Breakout
………2. เข้าซื้อแบบรอให้หุ้นพักตัวเสร็จ (Wait for Retracment) คือรอหลังจากหุ้น 1. เบรคไปแล้ว 2. พักตัวลงมา 3. พักตัวเสร็จ จึงเข้าซื้อ
………. 3. เข้าซื้อแบบรอให้เบรคซ้ำอีกครั้ง (Wait for Second Breakout) คือรอหลังจากหุ้น 1.เบรคไปแล้ว 2. พักลงมา 3. พักตัวเสร็จ 4. เบรคอีกครั้ง
……….รูปแบบการเข้าซื้อมีเพียงเท่านี้ นอกเหนือจากนี้เป็นการเข้าซื้อแบบมวยวัด วัดดวงกันไป การเข้าซื้อตามหลักการข้างต้น จะมีผลเกี่ยวเนื่องกับ
……….1. การบริหารความเสี่ยงของเรา ซึ่งถ้าหากเราจะพิจารณาดูการซื้อทั้งสามแบบ จะเห็นว่าความน่าจะเป็นของหุ้นที่จะขึ้นจะมีมากกว่าจะลง เพราะเราจะซื้อเมื่อหุ้นเริ่มทะยานขึ้นทั้งนั้น ไม่มีข้อไหนที่เราจะซื้อเมื่อหุ้นกำลังลบ หรือปักหัวลง
……….2. เป็นการลดต้นทุนของเงิน การมีจุด Entry จะทำให้เราสามารถเข้าซื้อแบบไม่เสียเปรียบ ได้ต้นทุนต่ำในเชิงหุ้นขาขึ้น
………3. เป็นการลดต้นทุนทางเวลา จะเห็นการเข้าซื้อทุกจังหวะ จะไม่มีการรอคอยว่าหุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ แต่จะซื้อเมื่อฟุ้นพร้อมจะทะยายแล้ว
………4. ไม่เป็นการสูญเสียมากเกินควรเมื่อหุ้นนั้นไปผิดทิศทาง ทั้งนี้เพราะหากเราซื้อแบบคร่อมจังหวะแล้ว บางครั้งเวลาคัทลอส จะมีส่วนสูญเสียเกินความจำเป็น เพราะกว่าจะถึงจุดคัทลอส จะสูญเสียในส่วนที่คร่อมจังหวะไปก่อน
………5. ทำให้เราสามารถกำหนดจังหวะในการเข้าซื้อไม้ต่อ ๆ ไปได้ ข้อนี้จะรวมกันตั้งแต่การบริหารความเสี่ยง คือตามที่สอนไปเราจะแบ่งเป็นไม้ ๆ ดังนั้นการสูญเสียในแบบนี้จะไม่มากอย่างที่คาด
………6. ทำให้เราสามารถลดความกลัวซึ่งเป็นขวากหนามสำคัญในการเล่นหุ้น เพราะหากเรารู้จุดเข้า รู้จุดออก จะทำให้เรากล้าเล่นหุ้นได้ในทุกจังหวะ โดยเฉพาะกับหุ้นที่ขึ้นไปสูง ๆ แล้วเราไม่กล้าเล่น (ซึ่งที่จริงบางตัวเป็นหุ้นทองคำเลย)
………นี่เป็นสรุปหลักการในการหาจังหวะเข้า ก่อนที่จะลงต่อในรายละเอียด หลังจากสอนวันนี้เสร็จ จะงดตอบคำถามประเภท จะเข้าตรงไหนดีคะ จะเข้าไม้สองตรงไหน เข้าเลยหรือคะ ประเภทนี้ถือว่ายังขาดความมั่นใจ หรือไม่เข้าใจ หรือไม่อยากจะเข้าใจ
……… คราวนี้เรามาดูของจริงกัน จากกราฟ itd ที่ทำให้เมื่อวาน ให้เรานึกภาพย้อนกลับไป 13/8/56 วันที่หุ้นพยายามจะขึ้นไปเบรคแต่ทำไม่ได้ แล้วจากนั้นราคาก็ไหลร่วงลงกลับมา setup ตัวเองใหม่ จนถึงวันที่ 28/8/56 มีแสงสว่างส่องประกายว่าน่าจะหยุดตก
………. 2 วันต่อมาหุ้นเริ่มขยับขึ้นเล็กน้อยแบบโวลุ่มน้อย จน 2/9/56 หุ้นขึ้นด้วย spread กว้าง โวลุ่มมาพอใช้ได้ (ผมขอทำความเข้าใจก่อนะครับว่านี้เป็นการ Demo ย้อนหลัง ที่จริงในช่วงนั้น หุ้น ITD ยังไม่น่าซื้อนะครับ เพียงแต่ผมจะชี้ให้เห็นถึงจังหวะการเข้าหุ้นเท่านั้น จึงขอให้แยกให้ออกกับ Price Pattern กับการสาธิต)
……….วันที่ 2/9/56 หากเราจะเข้าซื้อหุ้นแบบ Wait for Retracement เราจะต้องเข้าตอนนี้ วันนั้นหุ้นเปิดโดด เปิด 4.22 High วันก่อน 4.26 สิ่งแรกที่เราจะต้องดูคือ ถ้าเข้าแล้วจุดคัทลอสอยู่ที่ไหน หุ้นหากเปิด Gap เราให้ถือราคาที่เปิดเป็นจุดรับแรก และราคาปิดวันก่อนเป็นจุดรับถัดไป ในกรณีนี้แนวรับแรกจะเป็น 4.22 แนวรับถัดไปคือปิดวันก่อน 4.18ตัวเลขนี้ท่านสามารถหาได้ตั้งแต่ 10.00 น.ท่านได้ข้อมูลตัวแรกแล้ว
………ขั้นต่อไปท่านจะต้องคำนวณหาความเสี่ยงของท่านเอาเองว่าจะรับความสูญเสียได้แค่ไหน สิ่งนี้แหละที่หลายคนชอบหลังไมค์ หน้าไมค์มาถาม ซึ่งผมตอบไม่ได้ เหมือนกับถามผมว่าวันนี้นู๋จะกินข้าวกี่จานดี มันก็แล้วแต่นู๋จ้ะ นู๋อยากอ้วนก็กินเยอะได้ เมื่อเรารู้ลิมิตลอสของเราแล้ว ขั้นต่อไปคือดูโวลุ่มว่าวันนั้นจะมีโวลุ่มเข้าหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่าน แต่ที่ใช้ดูคือค่าเฉลี่ยย้อนหลัง (จะ 5 วัน หรือ 10 วันก็แล้วแต่ท่าน) หรือประเมินด้วยสายตาเอา
……….ลำดับต่อไปคือกำหนดว่าจะเข้าที่ราคาไหน ก ให้พิจารณาประกอบกับการยอมรับความสูญเสียของเรา เช่นเรารับได้ 5 ช่อง ที่ 4.18 เราก็เข้าได้ไม่เกิน 4.28 เกินกว่านั้นถือว่าเราเข้าคร่อม บางคนอยากได้ มาถาม อ. นู๋เข้า ATC เลยนะ ก็แล้วแต่ แต่นั่นเป็นการเข้าคร่อม เพราะจุดคัทลอสแรกอยู่ที่ 4.22 แต่เราไปเข้า 4.48 เวลาลงมาก็คัทไม่ได้ เพราะไม่ใช่จุดคัท เวลาลงมาถึงจุดคัทก็อ่วม บางทีก็มีแถมจินตนาการไปอีกว่า เด๋วก็ขึ้น สุดท้ายติดดอย
……….อีกตัวอย่างไปดูที่วงกลม 1 สีเหลืองอีกตัว จังหวะการเข้าแบบนี้คือวันที่ 1/10/56 ซึ่งเป็นวันที่หุ้นกลับตัว พักเสร็จ มี spread กว้าง โวลุ่มมา เปิด Gap ด้วย คราวนี้ให้ย้อนหลังไปที่ วงกลม 1 แรก จะเห็นว่าหุ้นเมื่อดำเนินต่อไป จนไปถึงเส้นวงกลม 0 เส้นวงกลม 0 เป็นแนวต้าน หากเราดูเส้นที่พาดไว้ย้อนหลังไป จะเห็นไปแตะยอดดอยล่าสุดที่ 13/8/56 ราคา 5.60 วันที่ 16/9/56 หุ้นได้เบรคเส้นนี้ขึ้นไป เมื่อหุ้นเบรคแล้ว หากเราเข้าซื้อทันทีเมื่อเบรค เราจะเรียกการเข้าแบบนี้ว่า Aggressive Entry เช่น เข้าไปที่ 5.70 จุดคัทสำหรับเข้าแบบนี้อยู่ที่เส้น แนวต้าน หรือแนวรับเมื่อเบรคแล้ว ซึ่งคือ 5.60 หากราคาต่ำกว่านี้ต้องคัททิ้ง การเข้าแบบนี้ แทบจะไม่มีเวลาให้ตัดสินใจ และสุ่มเสี่ยงต่อการคัทลอสง่าย แต่ข้อดีคือถ้าเบรคแล้วหุ้นไปต่อจะได้ราคาต่ำกว่าคนอื่น
………หุ้นตัวนี้ต่อมาได้ขึ้นไปสูงสุดที่ 5.95 เมื่อ 19/9/56 แล้วร่วงลงมาอีก เพราะยืนไม่ได้ และในที่สุดก็ลงมาต่ำกว่าจุดรับ หรือจุดเบรค 5.60 ดังนั้นคนที่เข้าแบบนี้และยังไม่ได้ Take Profit จะต้องคัททิ้งที่ 5.55 ขาดทุน 1 ช่อง + ค่าเสียเวลา การเข้าแบบนี้ส่วนใหญ่จะเน้นหุ้นกระทิง เช่นหุ้นที่ทำ All time high ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีการรอกัน จะยิงเข้าเลย
Q. เข้าเมื่อเบรกเลยเหมาะกับ All time high แล้วถ้า sideway ควรเข้าแบบไหนครับ
A. เข้าแบบ Wait for retacment ครับ
……… กลับมาดูที่วงกลม 3 สีขาว ที่วงกลม 3 จะเห็นว่าตอนนั้นจะมีแนวต้านอยู่ที่เส้น 0 ในกรณีนี้ เส้นแนวต้านนี้เคยมีการเบรคมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ และลงมา setup ใหม่ จนถึง 9/10/56 หุ้นได้เบรคขึ้นไปอีก เป็นการเบรคครั้งที่สอง หากเราเข้าตรงนี้เรียกว่า Wait for second Breakout เข้าทันทีที่เบรค 5.60 จุดคัทก็อยู่ที่ 5.55 หรือ 5.50 แล้วแต่ดุลยพินิจ การเข้าแบบนี้มีข้อดีที่ทำให้เรามั่นใจได้อีกระดับหนึ่งว่าหุ้นนี้แข็งแรงแน่นอน เป็นการ confirm แนวต้าน โดยการมาทดสอบ และ Breakout จะมีโวลุ่มมาก (ในส่วนนี้จะอธิบายเรื่องแนวรับ แนวต้าน และการ Confirm) ซึ่งได้สอนไปแล้ว ให้กลับไปอ่านทบทวนมาก่อน
………เมื่อหุ้นเบรค 5.60 ขึ้นมาแล้ว ก็จะมีแนวเบรคครั้งที่สองถัดไปที่ 5.95 ดังนั้นเมื่อผ่านตรงนี้ได้ ถือว่าเราได้เข้าแบบ Wait for second Breakout อีก แนวรับจะเปลี่ยนมาเป็น 5.95 แทน และจนถึงปัจจุบัน หุ้นได้เบรคขึ้นไปทำ High ใหม่ที่ 6.70 ดังนั้นให้ช่วยกันตอบหน่อยว่า แนวรับ แนวต้านตอนนี้อยู่ที่ไหน เราจะเอาจุดสูงสุดที่เค้าไปได้เป็นเกณฑ์ คือ 6.70 คำถามคือทำไมเราจึงเอาสูงสุดเป็นจุดวัด ทั้งนี้เพราะในระหว่างวันหุ้นได้ไปถึงตรงนั้น แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่ามันไปยืนตรงนั้นนานหรือไม่ บางทียืนครึ่งวันด้วยโวลุ่มมากมายก็มี เราจึงอนุมานว่ามันไปยืนตรงนั้น อย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง เวลาใครถามจะได้ตอบเค้าถูก ให้สมกับที่เคยมาเรียน แต่ถ้าเราตามทั้งวัน ทุกวัน มีการจดเอาไว้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
……….ตอนนี้เราก็รู้แนวรับ แนวต้านของ itd ปัจจุบันแล้ว คำถามที่จะถาม ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ เมื่อมีใครมาขอคำแนะนำจากท่านว่าสนใจ itd ท่านจะแนะนำเค้าอย่างไร โปรดอธิบาย
A. ถ้าเรามีหุ้นที่ราคาสูงกว่าต้านแล้วอยากลงจากดอย..ต้องขายออกครึ่งหนึ่งก่อน...แล้วรอมารับคืนใหม่เมื่อมีสัญญาณขึ้นอีกครั้ง..ถูกต้องไหม่ค่ะ
A. แนวรับ 5.95 แนวต้าน 6.70 ถ้าราคายืนเหนือ 6.70 โดยประเมิณว่า วอลุ่มมากกว่า 252 ล้านขึ้นให้ตามได้เลย แล้วเอา 6.70 เป็นแนวรับครับ
A. ให้รอดูว่าจะลงมาถึงแนวรับที่5.95 หรือไม่ ถ้าไม่ถึงรอดูว่าจุดกลับตัวอยู่ตรงไหน ถ้าราคายืนได้โวลุ่มมาก็ค่อยเข้า คัตเมื่อต่ำกว่า จุดกลับตัว หรือถ้ามีการ break แนวต้านที่ 6.70 ก็เข้าได้แบบ agressive จุดคัตที่ 6.70 ค่ะ
A. ซื้อที่แนวรับ 5.95 หรือซื้อเมื่อทลุแนวต้าน 6.70 เมื่อยืนได้ 15 นาทีอาจจะดู volume ประกอบการตัดสินใจ
A. กำลังพักตัว ถ้ามีอยู่แล้วปล่อยออกส่วนหนึ่งก็ได้ ถ้ายังไม่มี รอจุดกลับตัวยืนได้เหนือ 6.7 ค่อยเข้าอีกครั้ง แนวรับ 5.95
.......... itd นี่เป็นกรณีศึกษาได้ดีเลย จะเห็นว่า ราคากำลังอยู่ตรงกลาง ๆ ค่อนไปทางแนวต้าน เมื่อวานมีแรงส่งปลายตลาด ถ้ามีคนมาถามเข้าราคานี้ได้เลยมั้ย จะตอบเค้าอย่างไรดี
……….การเข้าคร่อมจังหวะคือ การเข้าที่เลยจุด Entry ไปมากแล้ว จนราคามันจะไปถึงแนวต้านแล้ว ถามว่าแล้วเข้าได้มั้ย ตอบว่าได้ แต่เสี่ยงแม้จะเป็นหุ้นดี จึงต้องสอนให้เข้าแบบเค็ม ไม่ยอมเสียเปรียบมาก

Create Date : 20 ตุลาคม 2556		2 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2556 11:54:08 น.
Counter : 7462 Pageviews.
Share Tweet