Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 

ในหลวงของปวงเรา กับยายซุบ สามร้อยยอด ชาวบ้านวัย 70 ปี แห่งบ้านคุ้งโตนด อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ

** ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้
เลย **


ยายซุบ สามร้อยยอด เป็นหญิงชาวบ้านวัย 70 แห่งบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี
จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์


ยากจนมาตั้งแต่ยังสาวจวบจนวันนี้หากแต่เธอกลับยืนยันว่า เธอมีอดีตที่มีความหมาย
ต่อชีวิตของแก อดีตที่หมายถึงชีวิตใหม่ ไม่ว่าแกจะยังจนต้องขอเงินลูก ๆ 9 คนใช้
ดังเช่น ทุกวันนี้หรือจะมั่งมีศรีสุข ถูกหวยรวยเบอร์อย่างไรก็ตาม แกไม่เคยลืม
เหตุการณ์ครั้งนั้น เหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานานกว่า 40 ปี การเสด็จพระราชดำเนิน
เยี่ยมเยียนราษฏรบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี ไม่เพียงทำให้หมู่บ้านที่ยากจน ล้า
หลัง ไม่มีแม้ถนนที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หากแต่การเสด็จ
พระราชดำเนินในครานั้นได้ทำให้หญิงคนหนึ่งมีชีวิตยืนยาวต่อมาจนถึงวันนี้


ถาม - สมัยยังสาวยายเคยไปรับเสด็จในหลวงใช่ไหม?


ยาย -ใช่ ตอนนั้นไปรับเสด็จที่ตีนถ้ำไทรในหมู่บ้านเรานี่แหละ ท่านเสด็จฯ มาทาง
เหนือ ไอ้เราป่วยเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่รู้หรอกนะตอนนั้น
ว่าเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องนอนซม คนในบ้านบอกในหลวงจะมา เราก็อยากเห็น อยากไปรับ
เสด็จ แต่ปวดท้องจนเดินไม่ไหว


ถาม - เดินไม่ไหว แล้วไปรับเสด็จยังไงล่ะ?


ยาย - ก็ให้คนหามไป ใส่เกวียนไปเลย


ถาม - ทำไมถึงเลือกไปเฝ้าในหลวง ไม่ไปหาหมอรักษาตัวเองล่ะ?


ยาย -ไม่รู้สิ คืออยากเห็นตัวจริง ๆ ใกล้ ๆ นะ คิดในใจว่ายอมตายได้แต่ขอไปรับ
เสด็จก่อน แลกตัวแลกชีวิตกันเลย พูดง่าย ๆ ว่าวัดดวงเอาเลย อีกอย่างตอนนั้นถ้า
เราไปหาหมอก็ลำบาก เพราะน้ำแห้งเรือเครื่องก็ไม่มี ถ้าไปก็คงไปไม่ถึง มันคงจะ
ตายก่อน

ถาม -แล้วตอนนั้นได้ถวายอะไรท่านบ้างไหม?


ยาย -ยกมือพนมยังจะไม่ไหวเลย จะให้ถวายอะไรอีก (หัวเราะเสียงดัง)


ถาม -แล้วยายได้เห็นท่านไหม?


ยาย -ก็ได้เห็นท่านอยู่ แต่ก็เห็นห่าง ๆ แล้วก็เห็นไม่นานเพราะว่าพระองค์ ท่าน
ต้องเสด็จฯ ไปที่ตีนเขาอีกลูกคนละฟาก ทรงไปดูเรื่องที่จะระเบิดเขาทำทางเข้าออก
หมู่บ้าน


ถาม -ไส้ติ่งเรากำลังจะแตก แล้วรอดมาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น?


ยาย -ตอนนั้นไส้ติ่งกำลังจะแตก เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว พอดีว่าพระราชินีท่าน
ทรงเยี่ยมเยียนราษฏร แล้วทอดพระเนตรเห็นเรานั่งหน้าซีดพิงเพื่อนไว้ คือตอนนั้น
มันไม่ไหวจริง ๆ ท่านทอดพระเนตรเห็นก็คง สังเกตได้ว่าอาการเราไม่ดี พระองค์ก็
ถามว่าเป็นอะไร? ท่านบอกให้พูดธรรมดาก็ได้ เราบอกว่าเจ็บท้อง พระองค์ท่านตรัส
ถามต่อว่า เจ็บมากี่วันแล้ว? เราก็บอกว่า เจ็บมาครึ่งเดือนเห็นจะได้ ท่านก็เลย
บอกให้หมอที่มาด้วยตรวจดู


ถาม -แล้วหมอว่ายังไงล่ะ?


ยาย -หมอบอกว่าไส้ติ่งกำลังจะแตก พอหมอบอกอย่างนั้น พระองค์ท่านก็ทรงติดต่อไป
ที่ในหลวงซึ่งทรงอยู่ที่ตีนเขาอีกลูก


ถาม -แล้วยายรู้ได้ยังไงว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงติดต่อไปที่ในหลวง?


ยาย -รู้สิ เพราะเห็นในหลวง พระองค์ท่านทรงวิ่งจากตีนเขาลูกโน้นมาเลย ห่างกัน
เกือบ 1 กิโลน่ะ (แค่นี้ก็ตื้นตันแทนคุณยายแล้ว)


ถาม -รู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น?


ยาย -ดีใจแล้วก็ปลื้มใจแบบมาก ๆ ไอ้ตอนแรกคิดว่ากำลังจะตายนี่คิดว่าตัวเองรอด
แน่ มันมีกำลังใจ คิดว่าขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังเอาใจใส่เราขนาดนี้ เราจะตายไม่
ได้็


ถาม -พอในหลวงเสด็จมาถึง ทรงตรัสว่าอย่างไรหรือไม่่?


ยาย -ท่านให้เอา ฮ. มารับ ท่านตรัสว่า เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเองให้เอาคนไข้ไป
ส่งก่อน พอพระองค์ท่านตรัส หมอสองคนก็หิ้วปีกเราไป ในหลวงท่านทรงเมตตาเราไปจน
ถึงเครื่อง พอเราขึ้นไป ก่อนที่ประตู ฮ. จะปิด เราก็มองลงมาเห็นในหลวง ท่านทรง
โบกพระหัตถ์เราซาบซึ้งมาก ยิ่งบอกตัวของเราเลยว่าเราจะตายไม่ได้


ถาม -ถ้าไม่มีในหลวงในวันนั้น ก็ต้องตายแน่?


ยาย -แน่นอน ไม่ต้องอะไรหรอก หมอบอกว่า มาช้ากว่านี้แค่ 2-3 นาทีก็ไม่รอดแล้ว
แล้ววันนั้นอย่างที่บอกว่าเรือเครื่องก็ไม่มี น้ำก็แห้งไม่รู้ใช้เวลาครึ่งวันจะ
เดินทางไปถึงโรงพยาบาลหรือเปล่า


ถาม -ถ้าในหลวงไม่เสด็จมาที่นี่ วันนั้นก็ตายแน่ ตายทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่า
ตัวเองเป็นอะไรตายเหมือนกับได้ชีวิตใหม่?


ยาย -ใช่ ชีวิตทุกวันนี้ถึงฉันแก่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงวันนั้นทีไรรู้สึกเหมือน
ได้เกิดใหม่ทุกที ตอนนั่งดูโทรทัศน์ เวลาเห็นท่าน เราก็จะพนมมือไหว้ตลอด รู้สึก
ว่าท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา


ถาม -ตอนนั้นอยู่บน ฮ. เป็นอย่างไรบ้างล่ะ?


ยาย -จำไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าพอบินขึ้นไปพักใหญ่หมอก็ถามว่าเป็นยังไงบ้างเราพูด
ไม่ค่อยไหว แต่ก็บอกไปว่าปวดท้อง บน ฮ. นอกจากเรา ก็มีหมออีก 2 คน แล้วก็คนขับ
อีก 2 คน จำได้แค่นี้ล่ะ


ถาม -ฮ. พาไปที่โรงพยาบาลไหนล่ะ?


ยาย -โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เพชรบุรี


ถาม -แล้วยายพักอยู่กี่วัน?


ยาย -ปกติคนเป็นไส้ติ่งทั่วไปเขาพักกัน 3-4 วันก็ออกได้แล้วแต่เราเป็นหนักต้อง
พักถึง 24 วัน ถ้าในหลวงไม่ช่วยก็ตายแน่ แล้วถ้าเราตาย ลูกเต้าก็ไม่รู้จะอยู่
ยังไง ในหลวงท่านทรงเมตตาทรงดูแลเราอย่างดี ห้องที่เราพักอยู่นี่ดีมาก เป็นห้อง
พิเศษเลยพูดตรง ๆ ว่าดีกว่าบ้านที่ฉันอยู่อีก หมอก็นิสัยดี พูดจากับเราเพราะ
แล้วก็ใจดีด้วย


**ในหลวงท่านทรงห่วงใยเรามากมีคนมาเยี่ยม ถามอาการ ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน คน
ใกล้ชิดพระองค์ท่านก็ถามเรานะว่า จะฝากอะไร ถึงท่านไหม เราบอกให้พระองค์ทรงพระ
เจริญ ทรงพระเจริญ พูดได้แค่นั้น มันตื้นตันจนนึกไม่ออก**


ถาม -หลังจากวันนั้นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?


ยาย -ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอีกเลย ถ้าเรามีโอกาสจะขอเข้าไปกราบแทบ
พระบาทเลย สิ่งที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือเราไว้ เป็นความซาบซึ้งที่สุดในชีวิต
แล้ว


**คิดูสิโลกนี้จะหากษัตริย์อย่างท่านได้ที่ไหน เราเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ แต่ท่าน
ห่วงเราเหมือนเราเป็นลูกพระองค์ท่าน ทรงห่วงเราเหมือนที่เราห่วงลูก ท่านทรงเสีย
สละแม้กระทั่งของส่วนพระองค์ ทรงยอมลำบากกลับทางเรือเพื่อคนอย่างเรา พูดตรง ๆ
ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ฉันตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ทดแทนไม่หมด**


ถาม -กลับมาบ้านแล้ว เป็นอย่างไร?


ยาย -ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ พระองค์ท่านก็ส่งเงินมาให้อยู่ถึง 1 ปี ครั้ง
ละ 3-5 พันบาท ส่งมาหลายครั้งอยู่ เรารู้เพระว่าใส่ซองสีขาวประทับตราสำนัก
พระราชวัง จากเหตุการณ์นั้นทำให้เรารักในหลวงของเรามาก แล้วทุกวันนี้ก็ยังน้อย
ใจตัวเองอยู่ว่า เวลาที่ท่านป่วย
เราก็ไม่มีเงินไปเฝ้า ไปแสดงความจงรักภักดีกับท่าน ได้แต่ร้องไห้อยู่กับบ้าน
นั่งร้องไห้ทุกวัน ดูข่าวทุกวันไม่เคยเว้นเลย


**ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้
เลย**


ถาม -การเสียสละของในหลวงคราวนั้น ได้เอามาปฏิบัติตามหรือไม่?


ยาย -มีส่วนมากเลย เวลาคนในหมู่บ้านเขาป่วยเป็นอะไร ฉันก็ไปเยี่ยมเขาทั่วไปไหน
ไปกัน มีใครเจ็บในหมู่บ้านนี่ฉันจะไปเยี่ยมหมด บางที ถึงไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ญาติ
เขา แต่เราก็ไป ไปนั่งพูดคุยให้กำลังใจ บางทีก็ไปบีบให้นวดให้ นี่คือสิ่งที่
ในหลวงให้เรา และเราให้คนอื่นต่อ


**เมืองไทยเราโชคดีที่มีในหลวง โชคดีมาก ๆ ไม่มีกษัตริย์ที่ไหนในโลกอีกแล้วที่
จะเป็นห่วงชาวบ้านอยางฉันเท่ากับท่าน คนอยางเราเปรียบไปก็เหมือนมดปลวก แต่ท่าน
ก็ยังใส่ใจ ท่านใส่ใจจริง ๆ เหมือนกับว่าคนไทย คือ ลูกของท่านทั้งแผ่นดิน**




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2550
3 comments
Last Update : 23 พฤษภาคม 2550 12:33:17 น.
Counter : 963 Pageviews.

 

ภูมิใจที่เกิดในแผ่นดินไทย

และเป็นคนไทย

 

โดย: goodpeople 23 พฤษภาคม 2550 13:00:10 น.  

 

อ่านไปร้องไห้ไปค่ะ

 

โดย: คุณแม่แมว@Israel 23 พฤษภาคม 2550 14:00:43 น.  

 

ทฤษฎีใหม่กินอยู่แบบพอเพียง เป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนมีกินแบบอัตภาพ คืออาจจะไม่ร่ำรวยมากแต่ก็พอกินไม่อดอยาก ตามแนวทางพระราชดำริ ฯลฯ

 

โดย: นัย IP: 125.26.209.58 13 พฤษภาคม 2552 15:26:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


psak28
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]





คนเราเกิดมาจากเหตุปัจจัยจากกรรมที่เราสร้างขึ้น และด้วยอนุสัยที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตกาล ย่อมมีความสุข และความทุกข์เป็นธรรมดา เราก็แค่เป็นเพียงผู้ดูสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เปรียบเสมือนการดูละคร ดูแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปยึดติดกับมัน เคยสงสัยเหมือนกันว่าคนเราเกิดมาทำไมกัน แล้วทำไมคนเราจึงไม่เหมือนกันเลย ทั้งรูปร่าง หน้าตา กิริยา และการดำเนินชีวิต ที่กล่าวมาล้วนมีกรรมสรรสร้างให้เป็นอย่างนั้น หน้าที่ของเราก็คือ ละเว้นความชั่ว ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตใจให้ขาวรอบ


อันนี้ลองดูนะครับ หากใครสนใจหวยหุ้น หวยรัฐบาล นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ ได้มากกว่า ^_^



อันนี้น่าสนใจดีครับ จุ๊บลมยางที่สามารถบอกเราได้ว่าลมยางตอนนี้เป็นเท่าไหร่ และเตือนเราในกรณีลมยางอ่อนได้ ลองดูกันนะครับ




: Users Online

Friends' blogs
[Add psak28's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.