Another Side of the Mount Fuji : by kanaho__( ^ ^ )
|
||||||
= ภูกระดึงในความทรงจำ = เพราะหน้าหนาวปีนี้ (พ.ศ.2564) ดูหนาวกว่าหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ทำเอาอยู่ ๆ ก็นึกถึงภูกระดึงที่เคยไปเมื่อหลายครั้งในอดีต ไปค้นรูปมาเก็บไว้ในนี้ดีกว่า แชร์ความหนาวเหน็บให้ใครต่อใครที่เข้ามาอ่านได้รู้สึกไปด้วย กับวันเวลาที่เคยสุขปนลำบากกับรุ่นพี่กับเพื่อนที่ยังแจ่มชัด ขึ้นภูกระดึงครั้งแรก (พ.ศ.2523) ไปกันแบบฉุกละหุก ลูกพี่ลูกน้องที่เรียนอยู่กรุงเทพฯ กลับมาบ้านชวนเพื่อนขึ้นภูกระดึง หาคนร่วมทริปได้สี่คนปรากฏว่าเงินกองกลางเหลือเยอะเลยหนีบผมขึ้นไปด้วย (ซะงั้น) ช่วงนั้นบนภูยังไม่มีเต็นท์แบบเป็นทางการของอุทยาน ส่วนใหญ่มักจะเอาขึ้นไปเอง ไม่งั้นก็ต้องไปเช่าจากพ่อค้าแม่ค้าบนนั้น ส่วนพวกเราแบกขึ้นไปเอง ผู้ชายล้วนแรงเหลือเยอะ ทริปนั้นเราขนข้าวสารขึ้นไปหุงกันเอง กับข้าวก็ผักกาดดองหมูแผ่นปลากระป๋องประมาณนั้น ตกกลางคืนก็นั่งซดแม่โขงที่พกมาในกระบอกพลาสติกแก้หนาว (ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย) ขอเล่าตอนขาไปซักหน่อย... เราขึ้นรถทัวร์สายกรุงเทพฯ - เมืองเลย จากขอนแก่น (คล้ายว่าจะขึ้นฟรีด้วย) ไปลงที่ทางเข้าอำเภอภูกระดึงตอนตี 3 ยังจำความรู้สึกนั้นว่า...ฉันมาทำอะไรที่นี่... ทั้งมืด ทั้งลมแรง เดินตามทางไปเรื่อย ๆ โชคดีที่เอาเครื่องเล่นเทปหูหิ้วมาด้วย เลยมีเพลงกล่อมพอให้ไม่เงียบเหงาวังเวง (เพราะรอบข้างมีแต่พงหญ้า) ทุกวันนี้ยังจำเพลงแรกที่รุ่นพี่เปิดในวันนั้นได้เลย (Morning Has Broken ของ Cat Stevens) สุดท้ายหลังจากเดินไปเกือบ 2 กิโลมีรถสองแถว (ชาวบ้านไปขายของตอนเช้า) ผ่านมาพอดี กลุ่มเราเลยรอดไม่ต้องเดินขาลากไปจนถึงหน้าอุทยาน ขาลงกับสภาพที่อยากจะขว้างเสื้อกันหนาวทิ้ง ขึ้นภูกระดึงครั้งที่สอง (พ.ศ.2524) ครั้งนี้ไปกันคณะใหญ่กับสาว ๆ รุ่นพี่จากกรุงเทพฯ ส่วนพวกเราเจ้าถิ่นขอนแก่นรอเป็นไกด์พาเที่ยว ขาไปรอบนี้ไปแบบชาวบ้านเค้าหน่อย นั่งรถบัสประจำทางขอนแก่น - เมืองเลย ถึงที่โน่นก็สว่างแล้วไม่ต้องเดินฝ่าความมืดแบบครั้งแรก ทริปนี้นี้จำได้สองอย่างคือสาวรุ่นพี่จากวิทยาลัยกรุงเทพฯ (สมัยนั้นยังไม่เป็นมหาวิทยาลัย) ที่น่ารักเหลือเกิน และเต็นท์เช่าจากพ่อค้าบนนั้นที่กันลมไม่ได้ หนาวจนนอนแทบไม่หลับกันเลยทีเดียว ขึ้นภูกระดึงครั้งที่สี่ (พ.ศ.2526) *จากครั้งที่สองข้ามมาสี่เพราะรูปภาพเที่ยวภูครั้งที่สามหายหมดเกลี้ยง* ขึ้นภูครั้งนี้ไปในฐานะนักเรียนกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ชวนเพื่อนที่เรียนจิตรกรรมด้วยกัน 7 คนลุยภูกระดึงในเดือนตุลาคม เจอฝนถล่มจนพื้นเละนอนในเต็นท์ไม่ได้ เหมือนฟ้ามาโปรดเพื่อนในกลุ่มดันไปรู้จักหัวหน้าอุทยาน จากนั้นก็ย้ายที่นอนสิครับรออะไรอยู่ กลายเป็นครั้งแรกและน่าจะครั้งเดียวในชีวิต ที่ได้นอนใต้ผ้าห่มหน้าปล่องไฟและห้องกระจกบนภูกระดึง ที่ยามเช้ามองออกไปเห็นหมอกลอยผ่านตาอย่างกับใน MV ขึ้นภูกระดึงครั้งที่ห้า (พ.ศ.2530) นี่คือครั้งสุดท้ายที่ขึ้นภูกระดึง (34 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก) ขึ้นไปเดือนกุมภาท่ามกลางเต็นท์ที่กางไว้มากมายแต่คนนอนมีน้อยนิด คืนแรกเหลืออยู่สองกลุ่มที่ยังไม่กลับ พอคืนที่สองมีแค่กลุ่มเราบนภูที่ยังอยู่ ทำเอารู้สึกอย่างกับเป็นเจ้าของภูกระดึงขึ้นมาเลยเชียว จัดว่าเป็นทริปภูกระดึงที่แปลกประหลาดและเงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ ขอบคุณทุก ๆ คนที่แวะเข้ามาชมนะครับ รู้อยู่แก่ใจ - แฟลชและชรัส เฟื่องอารมย์ 「kaizank cover」 "รู้อยู่แก่ใจ" ALBUM : แฟลชและชรัส เฟื่องอารมย์ LABEL : รถไฟดนตรี RELEASED : พ.ศ.2524 (1981)
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:3:02:36 น.
เราไปครั้งเดียวเอง รูปไม่มีเลย หายเกลี้ยง
เพลงเพราะมากค่ะ โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 มกราคม 2564 เวลา:14:24:48 น.
โห ขยันแท้
แม้จะผ่านมาแล้วถึง 34 ปี จากการแต่งกาย ครั้งแรก และครั้งต่อๆมา รู้เลยว่า มีประสบการณ์ขึ้นภูกระดึงหลายรอบ ดูมีความชิลล์นะคะ โดย: VELEZ วันที่: 29 มกราคม 2564 เวลา:22:49:59 น.
สุขสันต์วันเกิดนะค่ะ
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง เฮงๆรวยๆ..ห่างไกลโควิด โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:21:32:54 น.
|
kaizank
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] I'm a simple man ( ^ ^ )............
All Blog
Friends Blog
Link |
|||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |