Bloggang.com : pat_pk : "การเขียน Resume"

"การเขียน Resume"

โจทย์ยากของชีวิตของเรา ในช่วงใกล้จบมหาวิทยาลัยเทอมสุดท้ายนี้ หนีไม่พ้น "การเขียน Resume"
เนื่องจาก Resume เป็นอะไรที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา และนำเสนอความสามารถที่สะสมมาตลอดชีวิตให้กับใครก็ไม่รู้... ที่เค้าจะคัดเราเข้าไปร่วมทำงานด้วย เกิดเป็นความยุ่งยากในชีวิตนิดโหน่ย ที่ต้องทำเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเอง >///<

ประเด็นในการเขียน Resume ที่เราสังเกตได้มีอยู่ 2 ประการนะจ๊ะ

เขียนให้สั้น สรุปได้ใจความ ไม่วกวน และชัดเจนมักไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ หลายคนเป็นประเภทกิจกรรมดีเด่น ชีวิตตูี้ำผ่านสมรภูมิกิจกรรมมานับไม่ถ้วน ตั้งแต่ออกค่าย ดูงาน เป็นพี่เลี้ยงน้องใหม่ ประกวดนู่น ชนะนี่ เข้าโครงการนั้น ผ่านโครงการนี้ จัดกิจกรรมก็เคยขายของก็ทำมาแล้ว ฝึกงานมาหลายแห่ง นักกีฬาก็เป็น ละครก็เล่น(เป็นต้นไม้ก็จะใส่ลงไปด้วย) อันที่จริงถ้าชีวิตนี้เราผ่านอะไรมาเยอะแยะ ก็ควรคัดเอาแต่ที่ี่เด่นๆลงไปดีกว่านะคะ ไม่ต้องใส่ไปหมด... ถ้าเยอะไปจะขี้คร้านอ่านเอาได้เลือกกิจกรรมที่คิดว่า เข้าตากรรมการ เหมาะสมและสอดคล้องกับงานที่จะไปทำอย่างงานบริษัททั้งหลายแหล่ ก็เขียนกิจกรรมที่แสดงถึงความสามัคคี ชีวิตนี้เคยทำงานร่วมกับคนอื่นมาบ้า้ง แสดงความเข้าสังคมให้ฝ่าย HR (Human Resource) เห็นสักนิด

ข้อมูลความสามารถ ก็ให้ระบุความสามารถที่คิดว่าเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครไว้ระบุให้ชัดเจนไปเลยว่าเรามีความสามารถด้านไหน... อย่าโกหก อย่าเหมารวม เช่น มีความรู้ด้านภาษา Html บ้างนิดโหน่ย... แต่ดันระบุไปครบ Set ทั้ง Java ASP PHP เพราะคิดว่ามันครือๆกันระวังเจอเค้าจัดยัดตำแหน่งงานที่ตัวเองไม่เคยมีความรู้มาก่อนแล้วสิซวยเอาเด้อ

แบ่งข้อมูลให้เป็นระเบียบและเหมาะสมกับบริษัท จัดแบ่งข้อมูลภายใน Resume ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยนะจ๊ะ ส่วนใหญ่ก็หาตัวอย่างการเขียน Resume ได้จาก internet เอาก็ได้เน้อ มีตัวอย่างเยอะมาก วิธีการจัดแบ่งข้อมูลก็ต่างกันไปนิดหน่อย ส่วนใหญ่ก็คล้ายๆกันคือ

ชื่อ-สกุล

ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ หรือ E-mail

ตำแหน่งงานที่สมัคร

ความสามารถ

ประวัติด้านการศึกษา

ประสบการณ์

หรืออาจมีงานอดิเรก / เหตุผลที่อยากเข้าทำงาน

หรือเงื่อนไขอื่นๆที่ทางบริษัทกำหนด

ก่อนเขียน Resume ก็ต้องศึกษาให้ดีก่อนว่า เค้าต้องการข้อมูลเรื่องใดบ้างจากเราเพราะแต่ละบริษัท ก็มีวิธีในการคัดเลือกบุคลากรที่แตกต่างกันออกไปเน้อ นอกจากนี้ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ... การสมัครงานทางราชการและบริษัทเอกชน จะมีความยุ่งยากแตกต่างกัน เราจึงต้องดูความเหมาะสมของรูปแบบ Resume ด้วย

การสมัครงานราชการดูเหมือนจะยุ่งยาก เพราะราชการแปลว่า ทางการ เคอะ... เขียน resume ต้องเป็นแบบทางการแต่ Resume ของราชการมักจะมีแบบฟอร์มที่ตายตัว ฟอนต์ตายตัว เอาให้เป็นกลางๆไว้ไม่ต้องทำหวือหวา อย่าใส่ไอเดียลงไปให้มันดูเวอร์จนเกินไป (ประเดี๋ยวจะเจอจับผิด ข้อมหาทำเกินที่กำหนด)

การสมัครงานบริษัทเอกชนลิว่ามันน่าจะแบ่งได้ 3 ประเภทนะ
- แบบธรรมดา :เขียนสรุป ได้ใจความ เป็นระเบียบ อ่านง่าย ไม่เกิน 1 หน้า และแนบผลงานที่เกี่ยวข้อง
- แบบพิเศษ :เหมือนแบบธรรมดา แต่เป็นภาษาอังกฤษ(สุดแสนจะยุ่งยากสำหรับคนไม่ถนัดภาษาอย่างเฮา)
- แบบหรรษา :เหมือนๆจะธรรมดา แต่ต้องใส่ไอเดียเยอะหน่อย มักพบในบริษัทหัว Creative ทั้งหลาย

(สร้างความยุ่งยากนิดหน่อย เพราะต้องเดาใจความต้องการของอีกฝ่าย)

Resume ในแบบของเราเขียนออกมา 2 ส่วนคือ
- Resume แบบธรรมดา สรุปข้อมูลส่วนตัวลงใน A4
- Resume แบบหรรษา ไรท์แผ่น CD ข้อมูลและ portfolio เพิ่มลูกเล่นเรื่องออกแบบลงไปหน่อย

ข้อมูลใน resume ก็เป็นพวกข้อมูลโดยย่อ อย่างประวัติ ผลงานการออกแบบ การทำเว็บไซต์E-book ดูจากผลงานที่แนบมา ...นี่เราสมัครตำแหน่งกองบรรณาธิการจริงๆรึนี่

Create Date : 11 มกราคม 2551

Last Update : 11 มกราคม 2551 16:24:52 น. 1 comments

Counter : 641 Pageviews.

Share
Tweet

จำได้ว่า ไปขอแบบ resume จากเพื่อนคนนึงมัน อ่านแล้วเข้าใจง่าย หน้าเดียวพอ ไม่ได้ซีเรียสกับ resume เลยนะเนี้ย เพิ่งรู้ว่า มันมี resume หลายแบบ มีแบบหรรษาด้วยนะเออ

ขอให้ได้ตำแหน่งกองบรรณาธิการนะคะ แสดงว่าชอบอ่านหนังสือแน่ๆ เลยเน้อ

โดย: mini mini

วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:18:45:56 น.