Onsen Hakone and Fujiyama
ทริปนี้ออกจากไทยแต่เช้า โดยสายการบิน ANA รู้สึกดีกับการบริการบนเครื่อง อย่างน้อยเครื่องดื่มแต่ละชนิดก็เปิดของใครของมัน ไม่เทจากขวดรวม ทำให้มีความรู้สึกเป็นส่วนตัวขึ้นทริปนี้บินไป 6 ชั่วโมงโดยประมาณ Immigation สบายไม่เคร่งมาก แต่หากเพื่อนๆโดนถามเค้าจะมีแฟ้มคำถามเป็นภาษาของเราเลยคะ เห็นคนที่ร่วมเดินทางบอกคะ อากาศที่ไปค่อนข้างเย็นเลยทีเดียว ทำให้ทริปนี้พลาดการชมดอกซากุระแบบ Full Option 555ทริปนี้เราไปถึง ก็มุ่งสู่ ฮาโกเน่ เลยเพื่ออาบน้ำแร่กันเลย โรงแรมที่ไปห้องออนเซ็นจะมีทั้ง indoor and Open Air แต่ว่าขอบอกว่าแยกห้องชาย หญิงคะ เพราะฉะนั้นเราก็เห็นเหมือนๆกันเคยไปออนเซ็นที่ Osaka มี Sand bath แบบว่าหมกตัวในทรายร้อนก่อน ก็ผ่อนคลายไปอีกแบบ แล้วออนเซ็นแบบน้ำตกไหลลงตัวเรานวดไหล่ ตัวเราสบายมากๆเลยคะ บางที่ก็เป็นแบบ Red Wine Onsen จำไม่ได้ว่าที่ไหนก็แปลกไปอีกแบบคะ ญี่ปุ่นเรียกการอบาน้ำแร่ว่า ออนเซ็น ส่วนเกาหลี เรียก ซาวน่า ที่เกาหลีจะมีห้องซาวน่า กับ สตรีมให้ด้วยคะ แต่วัฒนธรรมคล้ายกันมาก แล้วก็มีอีกประเทศนึงที่นิยมอาบน้ำแร่ นั่นก็คือ ไต้หวันคะโรงแรมที่ไปเปิดห้อง ออนเซ็นตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง จนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียวคะแต่ว่าออนเซ็นนี่ไม่มีภาพนะคะต้องลองไปเองนะคะ เค้าห้ามถ่ายรูป เดี๋ยวฟ้าผ่า 55มื้อค่ำที่ต้อนรับก็เป็น เมนู ขาปูอลาสก้าแบบไม่อั้นคะ เคล้าเสียงเพลงร้องบริการตามโต๊ะเลยทีเดียวคะเอาเมนูที่ตักมาโชว์คะ และก่อนเข้าก็ใส่ชุดยูกะตะ ถ่ายรูปกันสไตล์ ญี่ปุ่นซะหน่อยคะคืนนี้หิมะตกด้วยงงมากเป็นหิมะหลงฤดูคะ เสียดายลืมถ่ายมารอบนี้โทษทีจ้าตื่นเช้ากับบรรยากาศทะเลสาปหน้าโรงแรมในฮาโกเน่คะและเช้านี้เราก็จะไปกินไข่ที่ต้มจากบ่อน้ำแร่กำมะถัน บนหุบเขาโอวาคุดานิกัน เค้าบอกว่ากิน 1 ฟอง ก็จะอายุยืนกันไป 7 ปี มันดำจริงๆคะแต่ว่าถ้าคุณซื้อกลับมาซัก 2-3 วันสีมันจะค่อยๆจางลงเรื่อยๆ สงสัยลืมบ่อมั้ง อิอิคิตตี้เนี่ยดังมากๆไปไหนก็จะมีสัญลักษณ์ ของคิตตี้นะสถานที่นั้นๆคะ คิตตี้ไข่ดำ จริงๆคะคุณขาส่วนอันนี้คิตตี้สีน้ำตาล จ้าอันนี้ทางไปดูบ่อน้ำแร่กำมะถัน ยิ่งเดินไปใกล้เท่าไหร่ก็จะได้กลิ่นไม่พึ่งประสง (ก๊าซไข่เน่า) มากขึ้นเท่านั้นคะ และแล้วหลังจากเราทดลองไปกินไข่ดำแล้วก็ถึงการผจญภัยขึ้นเรือโจรสลัดล่องทะเลสาปอาชิกันคะและเราก็ถ่ายรูปคู่กับกัปตันแจ็คสแปโรว์ ฮิฮิ ซะหน่อยน้าพักทานอาหารกันก่อนประมาณทอดเอง กินเอง น้ำจิ้มก็ต้องบดงาเองก่อนใส่นะ สนุกไปอีกแบบนึงเครื่องปรุงและอุปกรณ์การทำคะ และนี่ก็คือที่บดงาดำฝนๆแล้วก้อจะกลายเป็นผงคะและอันนี้ก้อเอาไว้ทอด ขอบอกว่ากระเด็นดีนักแลคะอิ่มแล้วเราก็ขึ้นไปดู ภูเขาไฟฟูจิกันคะ เนื่องจากวันนี้อากาศแปรปรวน แถมหิมะโปรยเกือบตลอดวันจึงทำให้ไม่สามารถขึ้นถึงชั้น 5 ได้คะ ถ่ายกันที่ชั้น 2 กับ 4 ได้เท่านั้น ครั้งนี้เลยอดขึ้นชั้น 5 แต่ 2ครั้งก่อนเคยขึ้นแล้วก็เลยไม่เป็นไร เอารูปอีกแบบนึงมาลงก็แล้วกันคะเนี่ยเป็นช่วงชั้น 4 นะคะ ไม่ค่อยมีอะไรแต่ก็สนุกคะเช้าวันนี้เราตื่นแต่เช้าเพื่อไป โอชิโนะ ฮัคไค บ่อน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิ ที่ใช้เวลานานในการไหลลงมาสู่พื้นดินและซึมซาบไปยังบ่อน้ำแต่ละบ่อ ดังนั้นน้ำที่อยู่ในบ่อจะใสมาก มีอยู่บ่อนึงลึก 10 เมตรแต่ว่าเห็นก้นบ่อชัดแจ๋วเลยคะอันนี้คือทางเข้าไปดูบ่อน้ำลึก 10 เมตรหากได้มาลองกินน้ำที่นี่ดูนะคะก่อนเข้าไปก็จะมีร้านค้าดักไว้มากมายกว่าจะไปถึงคะ ละลายเงินไปไดทีเดียว จะเน้นเหมือนของ OTOP ที่นี่และที่มีเยอะก็แป้งข้าวเหนียวที่ใส่ไส้ถั่วแดงย่างร้อนๆอันละประมาณ 100 เยนกินร้อนๆก็อร่อยดีคะเต้าหู้ญี่ปุ่นคะ เย็นดี แต่เดี๋ยวนี้บ้านเรามีขายเยอะแล้วคะและก็ที่นี่มีจุดให้ลองชิมน้ำที่ไหลมาจากฟูจิด้วยคะ ต้องต่อแถวด้วยนะคะ คิดว่าไกด์แต่ละทัวร์เค้าคงบรรยายกันมาเยอะ นักท่องเที่ยวเลยลองชิมกันเป็นแถบ มันก็คล้ายน้ำฝนละคะ แต่ว่าเราว่าน้ำฝนจริงๆมันชื่นใจกว่าละคะ แต่เดี๋ยวนี้หากินยากมากคะแล้วก็อันนี้ก็หัวมังกรเป็นตัวพ่นน้ำให้เราดื่มกันคะและนี่ก็คือบ่อน้ำที่ลึก 10 เมตรและมีปลาเทราด้วยสวยดีคะ น้ำใสมากจริงๆคะมองลึกเลยเห็นหมดด้วยคะเสียดายกล้องไม่ค่อยตัดเงาสะท้อนของน้ำคะของที่เค้าวางขายตามทางเดินที่เราผ่านคะวันรุ่งขึ้นก็เดินทางไปเที่ยว Disney Sea สวยดีคะแต่เครื่องเล่นธรรมดาไม่หวาดเสียวมาก ตกแต่งสถานที่ดูแล้วเพลินดีคะ วันที่ไปเป็นช่วงปิดเทอม เครื่องเล่นทุกอย่างต่อคิวยาวมาก แนะนำว่าอย่าไปเที่ยวสวนสนุกตอนช่วงโรงเรียนปิดเทอม เพราะคนของประเทศเค้า ชอบสวนสนุกมากๆบัตรเข้างานคะ เน้นตัวการ์ตูนจ้าขอแต่งตามเทรนหน่อยเถอะ ขอถ่ายไว้ดูเฉยๆแต่ไม่เสียเงินซื้อ อิอิเพราะว่าใครจะกล้าเอามาใช้ละจ้าข้างนอกอะบรรยากาศภายใน ดิสนีย์ซี คะตกแต่งสวยดีคะ ไม่ดูเด็กจนเกินไป