สิงหาคม 2552

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
กอด :: กอดสุดท้ายหัวใจยังจำ


หัวข้อที่กว้างและออกจะง่ายที่จะนึกและเขียนเรื่องเล่าสู่กัน

หากกริยาของกอดจะหมายถึง

การกางแขนออกให้กว้างมากมายที่สุด ..
เพื่อที่จะโอบอุ้มไว้ในวงแขนอย่างแนบแน่นอย่างอบอุ่น นุ่มนวล อ่อนหวาน
หรือการทำตัวให้เล็กที่สุด ..
เพื่อที่จะซุกกายลงในวงแขนของอีกคนที่พยายามโอบอ้อมเอาไว้ ให้คลายทุกข์ร้อนกังวล


แต่ แต่ทำไมในสมองกลับนึกอะไรไม่ออกเอาเสียเลย
นอกจากภาพบางภาพเท่านั้นเอง
..............

คุณคงยังจำเรื่องเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ฉันพูดถึงได้กระมัง
ในวันที่ต่างล้มหายตายจาก และเราต้องเตรียมเอาไว้
เพื่อที่ จะได้ทำสิ่งนั้นให้ดี ที่สุด
แต่ในเมื่อสิ่งที่ไม่อยากคาดหมาย และดันวิ่งอย่างรวดเร็วมาถึงนั้น
แม้ไม่อยากได้ แต่ก็ต้อง เต็มใจรับมันเอาไว้ในมือ ... ใครจะหลีกหนีความตายไปได้


วันที่สิ้นเสีย
ฉันจำได้ว่า วันนั้น 6 เมษายน ตรงกับวันหยุดที่ฉันยังอยู่กรุงเทพ
ซึ่งผิดจากปกติของตัวเองไปนัก หากเมื่อหยุดสามวันทีไร ฉันมีอันหายหัวไปจากเมืองกรุง
แต่ครานั้นไม่ได้ไปไหน อาจจะด้วยติดขัดเรื่องอะไรสักอย่างที่นึกไม่ออก
ทำให้ฉันไปทำงานในช่วงเช้าก่อนจะเตร็ดเตร่ที่ห้างระหว่างมื้อบ่าย
พ่อโทรมาหา ว่า อยู่ไหนลูก ทำงานหรือเปล่า ยุ่งไหม
ฉันว่าไม่ยุ่ง งานเลิกแล้ว กำลังเดินอยู่ชิดลมกับนาย หาของกินอยู่
พ่อว่า เสร็จแล้วซื้อข้าวหน้าเป็ดเข้ามาด้วยยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า

พ่อไม่เคยโทรหา ไม่เคยรบกวน ไม่เคยต้องให้ดูแล
เหมือนลางสังหรณ์หรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่เป็นความผิดปกติที่รู้สึกได้แน่ ๆ
เจ้านายรีบพาฉันกลับบ้านทันที และซื้อตามที่สั่งทุกอย่างไปให้ทาน
เท่าที่เห็นอาการปกติดี พ่อยังคงส่องพระเดินไปเดินมา กินข้าวชามโตที่ยกไปให้
เห็นแต่แค่ว่าหน้าขาวไปหน่อย และพ่อก็บ่นว่าร้อน เวียนหัว สงสัยคงจะหิว
ฉันก็ว่า อากาศก็ค่อนข้างร้อน ยังไม่ได้ทานข้าวคงจะอย่างนั้น
แต่ก็ถาม ว่า ไปหาหมอไหม ไปนะ วันนี้มีรถด้วยเดี๋ยวขับไปหาหมอกัน

พ่อว่าไม่เป็นไร แค่หิว เดี๋ยวกินข้าว กินยา แล้วก็นอน เย็น ๆ เข้ามาดูสักหน่อยนะ
นี่แหละตามประสาแบบบ้านฉัน เมื่อว่าไงก็ว่างั้น ว่ากันภาษาง่าย
ฉันนั่งโอ้เอ้อยู่พักใหญ่ ยังได้ยินเสียงพื้นไม้ลั่นไปตามแรงเดินที่หมุนเปลี่ยนไปตามมุม
สักพักใหญ่ก็หยุด ฉันแวะเวียนขึ้นไปดู เห็นหลับ ก็ออกไปซื้อกับข้าวเข้ามาทำ
ต้มจืดไก่ใส่มันแบบอิสลาม ผัดมะระใส่ไข่ เต้าหู้ผัด แล้วหุงข้าวแดงผสมไว้
หกโมงแล้ว พ่อยังไม่ตื่น อืมม ไม่เป็นไรรอถึงทุ่มก็แล้วกัน ฉันนั่งอยู่หน้าคอมพ์

ไม่ทันถึงเวลา พ่อเข้ามาเคาะเรียก พาไปโรงพยาบาลหน่อย หายใจไม่ออก
เข่าที่เจ็บอยู่ทำให้ฉันพยุงน้ำหนักพ่อไม่ไหว ต้องเรียกคนช่วย
โชคดีที่บ้านเจ้านายและฉันอยู่ใกล้กัน แค่ยี่สิบนาทีรถก็ถึง ฉันกดโทรหาทันที
เราค่อย ๆ ประคองออกไปปากซอยบ้าน ระยะทางเดินประจำยังไม่ทันจบเพลง
วันนี้ทำไมเหมือนจะเล่นไปทั้งอัลบั้ม ดูทางช่างแคบอึดอัด แล้วเดินไกลเหลือเกิน

ยังไม่ถึงต้นซอยที่รถวิ่งผ่านได้ พ่อยืนหอบ เหงื่อแตกเต็มไปทั้งตัว
เหมือนกับคนเพิ่งอาบน้ำแล้วใส่เสื้อเลย เนื้อตัวเย็นจนตกใจ
พ่อว่า ให้ไปหาอาที่โรงพยาบาลแถวสะพานควาย ถึงไม่ไกลนัก แต่ฉันไม่รู้จัก
เราหลงตรงทางตัดวิภาวดีเข้าสะพานควาย รถขึ้นสะพานเลยไปลาดพร้าวอ้อมกลับมา
ฉันโทรหาอีกคนที่รออยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้รถอยู่หน้าทางเข้า และคนไข้หมดสติ
แค่ป้ายรถเมลล์เดียวรถเลี้ยวเข้าไม่ได้ ลมหายใจที่ยื้อไว้ – ก็ไปต่อไม่ได้



วันที่สิ้นสูญ
ไม่กี่นาทีเอง ฉันไม่ทันได้เสียใจ ทุกอย่างในสมอง วิ่งวุ่นไปหมด
ทุกอย่างถูกเรียงลำดับที่ต้องทำ ที่ควรเป็น ในขณะบุคคลที่เหลือร้องไห้เจียนตาย
ฉันถูกต่อว่าต่าง ๆ นานา ทำไมถึงพาพ่อมาที่นี่ มันห่างจากบ้านเราร่วมชั่วโมง
ใครจะรู้ล่ะ ใครจะคิดล่ะ ใครมันจะอยากให้เป็นแบบนี้ ฉันเป็นลูกนะ เข้าใจไหม
โธ่เว้ย !!


ฉันจัดเตรียมพิธีการทางวัด และทุกอย่างในรูปแบบประเพณีไทย
และตามคำขอ ที่จะไม่ให้ไปวัดนี้ ไม่เอาแบบนี้ และไม่ให้มีใครต้องวุ่นวาย
แม้กระทั่งการขอพระราชทานเพลิงที่ควรได้รับตามนั้น ก็ขอสละสิทธิ์ไป

หากแต่มีคำขอ .. ที่ร้องขอจัดบางส่วนตามประเพณีจีนแบบบ้านเธอคนนั้น
ฉันก็ว่ามันไม่ได้เลวร้าย อะไรที่ทำแล้วดี ไม่ได้เดือดร้อน ฉันก็ยอมเสมอ


พิธีการไม่ได้ยุ่งยากวุ่นวายที่ต้องใส่เสื้อผ้าสามชั้นทำนองนั้น
หากแต่เป็นความเรียบง่ายที่เธอว่า ควรให้ลูกชายได้กระทำต่อบิดาเป็นครั้งสุดท้าย
เพื่อความเจริญของลูกหลานสืบไป

ลูกชาย .. ถูกให้เข้าไป ป้อนข้าว ป้อนน้ำหวีผม
ลูกสาว .. ถูกให้เข้าไป ทำคล้าย ๆ กัน
เพียงแต่ที่มัน .. ทำให้ฉันร้าวร้านใจมากที่สุด

มือทั้งสองของลูกจะประคอง แล้วห่มผ้าให้ พลิกซ้าย พลิกขวา
ประหนึ่งเหมือนอ้อมแขนเราที่ถูกโอบลงไป



โธ่เว้ย!!!
ไม่เอาแบบนี้ ได้ไหม


กอดสุดท้ายที่ไม่อยากให้ ฉันไม่อยากให้ กอด แบบนี้เลย


เข้าใจไหม





รายละเอียดของพิธีกรรมอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง
ต้องขออภัยสำหรับผู้รู้และเคยปฏิบัติ




Create Date : 31 สิงหาคม 2552
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 18:40:54 น.
Counter : 982 Pageviews.

15 comments
  
กอดสุดท้ายนี้ลึกล้ำนัก ทำดีที่สุดแล้ว
โดย: ตาพรานบุญ วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:19:46:40 น.
  
อ่าน กอด ของพี่แล้วเศร้าจังครับ

สำหรับผมถ้าเป็นกอดสุดท้ายของชีวิตก้อยากได้โอบกอดนั้นจากคนที่เรารักครับ
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:20:19:28 น.
  
ผ้าห่มที่ห่มลงไป..คือการแทนอ้อมกอด..ซึ้ง..
โดย: nikanda วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:6:08:26 น.
  
งือ งือ .. เศร้าแต่เช้าเลย
โดย: Paulo วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:8:12:31 น.
  
อย่างน้อย ก็ได้กอด ได้มองเห็นและจดลึกเข้าไปในความทรงจำ.......ทั้งสมองและหัวใจ

....
โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:12:38:20 น.
  
อืมม
โดย: .. IP: 202.57.129.65 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:13:10:49 น.
  
เข้ามากอด
โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:13:28:02 น.
  
อ่านแล้วรู้สึก โธ่เว้ย!! ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ
เข้าใจความรู้สึกคำ ๆ นี้จัง "โธ่เว้ยยย!" เนี่ย
เข้าใจจนพาลจะน้ำตาไหลตามไปด้วยเลย
ทำไมกอดสุดท้ายต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ

โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:16:15:48 น.
  


ม่ายอยากบอกเลยว่า
เมื่อวานเขียนไปเศร้าไป งือ ๆ ไปด้วย
น้ำตาซึม น้ำมูกย้อยยย

..
อ่านทีไร ก็ ยังอินอยู่เลย

โธ่ว้อยยยยยย!!!


โดย: inmemoir วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:18:28:26 น.
  
คุณขา เป็นเรื่องจริงใช่ไหมเนี่ย

ทำดีที่สุดแล้วนะสำหรับอ้อมกอดนี้
โดย: BeCoffee วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:1:25:47 น.
  
มา ๆ ผลัดกันโอ๋ ..
คนเขียนน้ำตาซึม คนอ่านน้ำตาซึม
.
.

ปล. รอคุณไปรษณีย์ด้วยล่ะ เอามะ-หมาใส่กล่องส่งไปให้เลี้ยง แต่ดันลืมเจาะรูกล่อง จะเป็นไรไหมน๊อ
โดย: Paulo วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:8:30:15 น.
  
ขอบคุณ

ไว้อาลัยค่ะคุณ
โดย: BeCoffee วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:1:12:24 น.
  
หายเศร้าหรือยัง มามะ มาช่วยกันทำงานหน่อย นั่งพิมพ์จนมือหงิก......หุหุ
โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:11:11:42 น.
  
ง่า... เข้าใจความรู้สึกเลยครับ


หายเศร้ายังครับ ถ้ายังมามะผมจะกอดพี่เอง อิอิ
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:18:40:49 น.
  
มาแล้ว

อย่ามาหลอก

หัวเค้าเน่าอยู่

แง..แง..
โดย: ขาประจำห้าทุ่มกว่า.. IP: 110.49.126.46 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:23:39:49 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

inmemoir
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



-in memoir-

งานเขียนย่อมจัดเป็นงานวรรณกรรม
ซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์
ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 6

ซึ่งให้ความคุ้มครองแก่ท่านเจ้าของลิขสิทธิ์
ในงานเขียนดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
ไม่จำต้องจดทะเบียน
  •  Bloggang.com