มาทานแล้วถ่ายรูปอวดเพื่อนๆได้แบบสวยจบหลังกล้องให้เพื่อนอิจฉาได้ง่ายๆ ติดกันจะเป็นครัวเปิดครับ
ก็เป็นสมัยนิยมที่ตอนนี้นิยม ออกแบบให้ครัวเปิดมาตั้งในห้องอหารเลย
ให้แขกที่มาทานรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ได้เห็นเชฟทำอาหารให้อย่างใกล้ชิด
ได้สามารถพูดคุยกับเชฟแบบเป็นกันเองได้
เดินไปถ่ายรูปได้นะครับ พนักงานทุกคนน่ารักเป็นกันเองมากๆเลยมื้อเที่ยงที่นี่มีอะไรน่าสนใจ ?
ขอเรียกว่าเป็น เซ็ทอาหารกลางวันละกันครับ (Set Lunch) ราคา 1450++
จะสามารถตักสลัดบาร์และของหวานจากมุม the Pantry ได้ไม่จำกัด
พร้อมกับสามารถเลือกเมนคอร์ส จากเมนูได้ 1 อย่าง พร้อมชาและกาแฟ
ใครชอบดื่มไวน์ก็สามารมีออฟชั่นไวน์ไม่อั้น 1250/คน ได้ ดื่มสักสามแก้วก็คุ้ม
มาดูส่วนของออเดิร์ฟและมุมของหวานจากห้อง the Pantry
ซึ่งเราสามารถตักได้ไม่อั้นครับ ... จะมีสลัดและชีสหลากหลายเมนูให้เลือก
รวมทั้งมีเมนูพิเศษประจำวัน ซึ่งวันที่ผมไปเป็น ลาบไก่ รสชาติไทยๆ ถูกปากมากๆผมบอกเลยว่า ไฮไลท์ของ the Pantry นั้น คือ ของหวานครับ
คือด้วยที่ห้องอาหารเป็นของโรงแรมสุดหรู วัตถุดิบต่างๆก็จะระดับท็อบครับ
เมื่อได้เชฟขนมฝีมือดีๆ เค้กและของหวานที่มาเสิร์ฟยิ่งไปกันใหญ่ครับ
อร่อยมากกกกกก เค้กอร่อยทุกตัว
จริงๆเซ็ทอาหารกลางวัน ผมว่ามาทานเค้กก็คุ้มแล้ว
สายหวานแบบผมกินทุกแบบ อ้วนช่างมันละ เพราะอร่อยเหลือเกิน
ทิรามิสุ กับเค้กมะม่วง นี่ทีเด็ดเลย
อ้อ ใครชิมแล้วถูกปาก สามารถสั่งได้นะครับ
เค้ายังไม่ได้เปิด หน้าร้านขายเป็นทางการ
แต่พนักงานบอกตอนนี้สามารถสั่งได้ล่วงหน้า 2 วันได้
เริ่มต้นที่พันกว่าบาทต่อปอนด์ครับระหว่างที่เราไปตักออเดิร์ฟ เชฟที่ครัวเปิดก็กำลังง่วนกับการทำเมนคอร์สให้เราครับ
ดูจากเมนูที่ผมแปะให้นั้นจะเห็นว่ามีเมนคอร์สหลากหลายมากๆ
รองรับแขกได้ทุกรูปแบบ
ทั้งซีฟู้ด ทั้งสายเนื้อ มากันครบๆ อ่านเมนูแล้วงงๆ
ก็สอบถามพนักงานได้ว่าเป็นยังไง โดยเมนูจานหลัก ที่ลองอ่านดูจะมี
ปลาหมึกสเปนย่าง, แซนด์วิชคร็อก-เมอซีเยอคลาสสิค, เฟตตุชินีซอสทรัฟเฟิล, หอยแมลงภู่ผัดซอสไวน์ขาว , แซลมอนแอตแลนติก,
สเต็กทูน่า , ปลากระพงขาวย่างเตาถ่า , ไก่ย่าง
ไก่ผัดซอสเปรี้ยวหวาน, ขาแกะนิวซีแลนด์ตุ๋น, พอร์คชอป,
ปลาโดเวอร์โซล/ซอสเนยไวน์ขาว, สเต็กเนื้อ
เป็นไงครับ เลือกไม่ถูกเลยละสิ จะทานอะไรดี 555+
แนะนำว่าสั่งไม่เหมือนกันแล้วมาแชร์กันแบบผม
Soup of the day วันนี้เป็น แครอท ซุป สุดเข้มข้น รสชาติกล่มกล่อมครับ
เป็นตัวเปิดอาหารคาวได้อย่างดีมากๆ
ระหว่างรอเมนคอร์สมาเสิร์ฟ ก็ถ่ายรูปกันเล่นไป ห้องอาหารโทนสว่าง ถ่ายรูปออกมาสวยงามจริงๆ คับ
.
จานแรกมาละ แอตแลนติก แซลม่อน ... เนื้อปลาดีมากกกกกกกก
ใครชอบปลา จานนี้ไม่ผิดหวัง
.
จานสองมาละ ปลาหมึกสเปน Charred Spanish Octopus
จานนี้จะว่าไปคล้ายๆกับสลัดปลาหมึก จะเบาๆ ไม่หนักมาก
เหมาะกับท่านที่ไม่อยากรับเมนคอร์สแบบหนักแน่นเกินไป
สำหรับคุณผู้ชายอาจจะไม่อิ่มเท่าไหร่ หันไปสั่งพวกเนื้อดีกว่า 555
.
อันนี้ของผมเอง ริซอทโต้ กับทรัฟเฟิล ครีม
เป็น Special of the Month แต่ละเดือนก็แตกต่างกันไป
ลองสอบถามพนักงานตอนไปทานได้ครับ เค้าก็จะแนะนำ
จานนี้ทำได้ดีมากครับ รีซอทโต้ มาแบบไม่แฉะมากกลมกล่อมกับความหอมของทรัฟเฟิล
ถูกปากผม กินไม่กลัวอ้วนหมดจานในพริบตา
ของเพื่อนข้างๆ เป็น Berkshite Pork chop พ็อคช็อบติดมันที่กริลมาอย่างดี อันนี้ก็อร่อยครับ ผมไปกัน 4 คน สั่งมาแล้ว แชร์กินกัน ได้ชิมหมดทุกจานอร่อยถูกปากมากๆ บทสรุป ...
สำหรับท่านที่มองหาห้องอาหารมื้อกลางวันใจกลางกรุงในบรรยากาศส่วนตัว หรูหรามีระดับ จะเพื่อคุยธุรกิจ เลี้ยงอาหารคนพิเศษ หรือมาเม้าท์มอยกับเพื่อน
โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของอาหารเป็นหลัก ที่นี่เป็นคำตอบที่ใช่เลยละครับ
สนนราคานั้นพอๆกับทานร้านดีๆในห้าง แต่คุณภาพวัตถุดิบไม่มีทางเท่าของ Embassy Room แน่ๆ
เมนคอร์สอร่อยทุกจาน หันไปเจอของหวานยิ่งพีคกว่า ไม่ผิดหวังฟันธง
จริงๆมีมื้อเย็นด้วยนะครับ แต่เมนูและราคาก็จะไม่เหมือนกลางวัน
สนใจก็ลองสอบถามไปที่โรงแรมได้เลยครับ
*********************************************************
ขอบคุณที่แวะมาชมรีวิวครับ
ติดตามผลงานช่องทางอื่นๆ ได้ดังนี้เลยครับ