ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้น่าจะมีการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ หรือเป็นไปในทิศทางเดียวกับเมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะปิดในแดนบวกได้
"เช้านี้เปิดขึ้นมาไซด์เวย์อยู่ในกรอบแคบๆต่อ ซึ่งปัจจัยภายนอกวันนี้ไม่มีอะไร ภายในก็ยังมีแรงกดดันจากการเข้ามาชุมนุม แต่อย่างไรก็ตามตัวดัชนีได้มีการปรับฐานไปเมื่อวานแล้ว ซึ่งวันนี้คิดว่าน่าจะแกว่งอยู่ในกรอบคล้ายเมื่อวานและน่าจะยืนปิดในแดนบวกได้"นายเกียรติก้อง กล่าว
ส่วนตลาดภูมิภาคเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบ
พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ แนวรับ 1,335-1,340 จุด และแนวต้าน 1,355-1,360 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(19 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,179.08 จุด เพิ่มขึ้น 11.11 จุด(+0.07%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,809.60 จุด ลดลง 1.05 จุด (-0.06%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,058.14 จุด ลดลง 11.93 จุด(-0.29%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 68.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 15.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 7.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.18 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.61 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 3.19 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.58 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.84 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(19 ธ.ค.)ที่ 1,346.63 จุด ลดลง 3.23 จุด(-0.24%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,113.06 ล้านบาท เมื่อ 19 ธ.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(19 ธ.ค.)ที่ 98.77 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.97 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(19 ธ.ค.)ที่ 4.67 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.47/49 เล็งทดสอบ 32.5 เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี
- ค่าเงินตลาดเอเชียร่วงรับข่าวเฟดหั่นคิวอีฉุดบาทอ่อนสุดรอบ 3 เดือน 32.44 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนทองคำทรุดเข้าใกล้จุดต่ำสุดปีนี้ ธปท.ระบุไม่เซอร์ไพรส์ตลาดแต่ต้องติดตาม 2-3 วันเพื่อดูการตอบรับนักลงทุน ขณะที่ "นักเศรษฐศาสตร์" ฟันธงกระทบไทยน้อย เหตุเฟดทำแค่เล็กน้อยทั้งเงินไหลออกไปก่อนหน้านี้แล้ว เชื่อสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฟื้น ส่อดันการส่งออกไทยปีหน้าโตกว่าคาด แนะจับตาตลาดเงินเพื่อนบ้าน เชื่อหากรับมือได้ไม่กระทบไทยแน่
- ศอ.รส.เรียก 3 หน่วยงานเศรษฐกิจหารือผลกระทบทางการเมือง สศช.หวั่นฉุดจีดีพีปี 57 โดยเฉพาะท่องเที่ยว ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนและการเบิกจ่ายภาครัฐมีแนวโน้มชะลอตัวเตือนรับมือเงินไหลออกหลังสหรัฐลดคิวอี ด้านปลัดคลังรับจัดเก็บรายได้ช่วงต้นปีงบประมาณ 2557 ลดลง 2.7% ขณะแวตลดลง 7.3% หวั่นทั้งปีพลาดเป้า ด้านผู้อำนวยการสำนักงบระบุเบิกจ่ายงบลดลง 6.2 หมื่นล้าน
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.56 อยู่ที่ 90.2 ลดลงจาก 92.8 ในเดือน ต.ค.56 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 24 เดือน หรือ 2 ปี นับแต่เดือน พ.ย.54 ที่ไทยเจอปัญหาน้ำท่วมใหญ่และการที่ความเชื่อมั่นยังต่ำกว่า 100 ถือว่าเป็นระดับที่น่าเป็นห่วง ส่วนความเชื่อมั่นใน 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงเช่นกัน มาอยู่ที่ 101.4 จาก 102.4 ในเดือนก่อนหน้า
- นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ราคาทองคำมีความผันผวนมากมีการปรับราคาในรอบวัน 6 ครั้ง และการปรับลดลง 400 บาท โดยราคาทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่ 18,450 บาท ขายออก 18,550 บาท ราคาทองรูปพรรณรับซื้อ 18,176.84 บาท ราคาขายออก 18,950.50 บาท ถือว่าขณะนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงมาถูกแล้ว นักลงทุนสามารถซื้อเก็งกำไรได้ในระยะสั้น

*หุ้นเด่นวันนี้

- HMPRO(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 12.50 บาท ประเมินกำไรสุทธิใน 4Q56 ดีสุดของปีและจะทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 900 ล้านบาท ปัจจัยหนุนยอดขายส่วนเพิ่มจากงาน HomePro Expo ตั้งเป้าหมายยอดขาย 600-700 ล้านบาท และการเปิดสาขาใหม่ 7 สาขา ขณะที่การชะลอเปิดสาขาใหม่"โฮมโปร"และ"เมกาโฮม"ในปี 57 จะไม่กระทบประมาณการ โดยคาดว่าผลประกอบการปี 2557 จะมีกำไรสุทธิ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% YoY
- NOK(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 36 บาท ประเมินใน 4Q56 จะเป็นช่วงที่กำไรสูงที่สุดของปี 56 เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยประเมินกำไรสุทธิปี 56 ไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 158% YoY ขณะที่ในปี 57 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 25-30% และจะมีการนำเครื่องบินใหม่เข้ามาอีก 4 ลำ รวมกับเครื่องบินเช่าอีก 2 ลำเพื่อรองรับแผนการเปิดเส้นทางบินใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประเมินกำไรสุทธิปี 57 โตต่อเนื่องอีก 16% YoY มาที่ 1.5 พันล้านบาท
- CCET(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 4 บาท เงินบาทอ่อนค่าเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ที่มียอดขายเป็นสกุลดอลลาร์ รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปจะส่งผลบวกให้ดีมานด์ขยายตัวในปี 57 โดยคาดกำไรปีหน้ามีแนวโน้มเติบโต +22.9% yoy เป็น 1,478 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ Printer ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และเชื่อหุ้น Laggard ในปีนี้ จะมี Upside น่าสนใจกว่าหุ้นที่ขึ้นมามากแล้ว ตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้น CCET ปรับตัวลง -5.6% สวนทางกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ที่ +27.6%
- TTA(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 21.55 บาท เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว TTA เด่นสุดกลุ่มเดินเรือ หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการขนส่งทางทะเลพุ่ง ส่งดัชนี BDI ไตรมาส 1Q57 เพิ่มขึ้นกว่า 60 ด้านผู้บริหารมั่นใจผลประกบอการ 1Q57 พลิกเป็นกำไร นอกจากนี้ ยังมีมีแผนดันบริษัทลูก PMTA ที่ทำธุรกิจให้บริการเช่าคลังสินค้า เข้าตลาดปูทางกำไรเติบโต โดยมองว่าการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียบนั้นจะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้เติบโตมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากที่ตั้งของคลังสินค้าอยู่ติดกับท่าเรือ จึงมีโอกาสขยายธรุกิจในอนาคตได้

World Economic Calendar รายสัปดาห์ ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2556

Create Date : 20 ธันวาคม 2556
Last Update : 20 ธันวาคม 2556 9:35:20 น.		0 comments
Counter : 2673 Pageviews.
Share Tweet