ตุลาคม 2557

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
Review : A Gentleman's Dignity
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเริ่มเขียนรีวิวซีรี่ส์เกาหลีเป็นครั้งแรก ไม่รู้จะเรียกว่าการรีวิวดีมั้ย เรียกว่าเป็นการเพ้อถึงซีรี่ส์ที่ดูจบไปแล้วแล้วกัน ติชม แสดงความคิดเห็นได้นะคะ จะได้ปรับปรุงในครั้งต่อๆไป 

โดยการรีวิวจะแบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกจะไม่พูดลงลึกนัก เผื่อคนที่ยังไม่เคยดูและมาตามอ่านรีวิวจะได้ดูแบบได้ลุ้นไปเรื่อยๆ ส่วนที่สองจะพูดถึงฉากที่ประทับใจ ตัวละคร และบทพูดต่างๆอย่างละเอียด ตามมาเลยจ้า




A Gentleman's Dignity 

ข้อมูลทั่วไป
- ชื่อไทยจากเว็บ KODHIT คือ โสด กะล่อน ปริ้นปร้อน คูณ4 
- ลิ้งค์สำหรับดู //www.kodhit.com/gentleman%E2%80%99s-dignity
- เป็นซีรี่ส์โรแมนติกคอมเมดี้ มี20ตอน 
- ฉายทางช่องSBS เมื่อปี 2012 

จุดเด่นของเรื่อง
- ผู้เขียนบทเดียวกันกับ Secret Garden ซึ่งเรื่องนี้ยังคงสร้างฉากจีบกันได้แบบว่า น้ำตาลเรียกพี่จริงๆ มีเอกลักษณ์ น่าจดจำ และเหมาะสมกับการจีบกันของคนวัย40
- แม้จะมีการดำเนินเรื่องถึง4คู่ แต่ก็ไหลลื่นมากๆ ทุกตัวละครมีความสัมพันธ์กันอย่างน่ารัก ลงตัว โดยเฉพาะมิตรภาพของนัมจา4คน


นักแสดงนำ
- จางดองกัน บุรุษผู้นี้ ขอสารภาพว่าเราไม่เคยดูผลงานมาก่อนเลย แต่โด่งดังแบบสุดๆก็คงเมื่อหลายสิบปีก่อน จากเรื่อง All about eve แฟนๆซี่รี่ส์เกาหลีรุ่นเก่าคงต้องเคยดูเป็นแน่แท้ จางดองกันในวัย40ในเรื่องนี้ อาจจะมีหมองไปบ้าง แต่ก็ถือว่ายังหล่อและที่สำคัญคือ แสดงได้เท่และสมบทบาทจริงๆ


- คิมฮานึล คนนี้เหมือนจะเป็นเจ้าแม่หนังคอมเมดี้แห่งเกาหลี ดูเธอเล่นคอมเมดี้แล้วเพลินดีนะ หน้าตาเธอสวยหวาน เวลารั่วนี่ก็รั่วได้ใจจริงๆ แม้ว่าบทในเรื่องนี้บางทีจะทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงติงต๊อง งี่เง่า ไปบ้าง แต่ด้วยความเป็นคิมฮานึล ก็ทำให้เรื่องนี้ไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่นิดเดียว


- นักแสดงอื่นๆก็แสดงได้ดี แต่ขอพูดถึงอีกสองคน ซึ่งแม้จะมาเป็นตัวประกอบ โผล่มาแวบเดียว แต่เรียกเสียงกรี๊ดไปได้ถล่มทะลายเลยทีเดียว สำหรับสองหนุ่ม คิมอูบิน (ชเวยองโด จาก The Heirs) และ อีจองฮยอน นักดนตรีหนุ่มหน้าใสจากวง CN Blue เรียกได้ว่าเรื่องนี้ หล่อ น่ารัก ทั้งหนุ่มใหญ่ และหนุ่มเล็กเลยทีเดียว 



เนื้อเรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของหนุ่มใหญ่4คน วัย40+ แต่ละคนล้วนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน 4คนนี้เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม จึงมีมิตรภาพแน่นแฟ้นมาก (ดูไปก็แอบอิจฉาและคิดไปว่า เมื่อเราอายุถึงเท่านั้น จะยังมีเพื่อนมัธยมที่สนิทกันจนคุยกันถึงตอนนั้นหรือไม่) ดังนั้น เนื้อเรื่องนี้จึงไม่ได้เน้นไปที่ความรักหญิง-ชาย เพียงอย่างเดียว แต่เรื่องมิตรภาพลูกผู้ชายเป็นอีกหนึ่งธีมหลักของเรื่องนี้เลยทีเดียว

เมื่อมีผู้ชาย4คน แน่นอนว่าฝ่ายหญิงก็ต้องมี4คน ความรักของแต่ละคู่ก็ต่างมีอุปสรรคที่แตกต่างกันออกไป ดูเรื่องเดียวได้อารมณ์ความรักถึง4รส และยังได้อารมณ์มิตรภาพลูกผู้ชายมาด้วย ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แต่ไอความที่มี4คู่นี่แหละ ที่ทำให้หลายๆคน (รวมถึงเราในตอนแรก) ไม่เปิดดูเรื่องนี้ เพราะเรื่องไหนที่มีหลายๆคู่มันมักจะไม่สุด เพราะต้องแบ่งเวลาเกลี่ยๆกันในทุกคู่ 

แต่สำหรับเรื่องนี้พอดูจนจบ พูดได้เลยว่า "สุด" เนื่องด้วยมิตรภาพลูกผู้ชายด้วยล่ะมั้ง ที่ทำให้เรื่องนี้ค่อนข้างไหลลื่น พลอตเรื่อง ความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวมีความเชื่อมโยงกันหมด กลายเป็นว่าทั้งเรื่องนี้ไม่ได้มี4คู่ แต่มี1แก๊งค์ใหญ่ ก็ว่าได้

คู่แรก (ซึ่งเป็นคู่หลัก) เป็นคู่ที่พลอตไม่ได้หวือหวาอะไรมาก ก็เหมือนคนจีบกันทั่วไปนี่แหละ แต่ฉากที่จีบกันแต่ละฉากนี่เราบิดตัว จิกหมอน ยิ่งกว่าหนังรักวัยรุ่นเสียอีก ต้องยกความดีความชอบให้คนเขียนบทเลย มีเอกลักษณ์การเขียนบทแบบนี้มาตั้งแต่เรื่อง Secret Garden โดยสำหรับเรื่องนี้ เราชอบตั้งแต่ตอนที่พระ-นาง เจอกันครั้งแรก ไปจนถึงฉากสุดท้ายเลยทีเดียวสำหรับบทจีบกัน

คู่ต่อมา เป็นคู่ของหนุ่มเจ้าชู้ กับเศรษฐีนีกังนัมสูงวัย คู่นี้แต่งงานกันแล้ว แต่ด้วยความเจ้าชู้ของฝ่ายชาย ทำให้ระหองระแหงกันหลายครั้ง ข้อคิดนึงที่ได้จากคู่นี้ก็คือ หากเราเคยโกหกคนๆนึงไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งต่อไปถึงแม้ว่าเราจะพูดความจริง แต่เค้าคนนั้นอาจจะไม่เชื่อเราแล้วก็เป็นได้ เพราะการโกหกที่เราสร้างไว้ในครั้งแรกนั่นเอง หากโชคไม่ดีความเชื่อใจ ความไว้ใจ อาจมีได้แค่หนเดียวจริงๆ

อีกคู่หนึ่ง เป็นคู่ของทนายพ่อหม้าย กับเด็กสาววัย24 ซึ่งเด็กสาวนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นน้องของเพื่อนตัวเอง ลองนึกภาพดูว่าถ้าตัวเองมีน้องสาวและน้องสาวต้องไปแต่งงานกับพ่อหม้ายอายุห่างกันถึง17ปี ก็คงไม่ยอมให้น้องสาวคบแน่ๆ แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะดีแสนดีก็ตาม

คู่สุดท้าย เป็นคู่ที่ตรงไปตรงมาทั้งคู่ ฝ่ายหญิงค่อนข้างรักอิสระ ชอบเที่ยว ชอบสังสรรค์ ส่วนฝ่ายชายพ่อแม่ก็อยากให้แต่งงานไวๆ พอพูดเรื่องแต่งงานกับฝ่ายหญิงทีไรก็เป็นอันไม่ลงลอยกันทุกที

ถ้าอ่านๆดู จะเห็นได้ว่าพลอตเรื่องไม่ได้มีอะไรสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าไม่น่าสนใจเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้สนุก และดูจนจบได้20ตอนภายใน3วัน ก็คือความสัมพันธ์ของทุกตัวละคร ทั้งความสัมพันธ์แบบคู่รัก, เพื่อนซี้, ครู ลูกศิษย์,พี่ชาย น้องสาว ดูแล้วประทับใจในทุกๆความสัมพันธ์จริงๆ 

คะแนนจากผู้รีวิว
10เต็ม10 ค่ะ เรื่องนี้ทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกว่ารู้จักตัวละครเหล่านั้นจริงๆ เหมือนไปอยู่ในแก๊งค์นี้เลยด้วยซ้ำ การดำเนินเรื่องแม้จะมี4คู่ แต่ก็ตัดไปตัดมาได้อย่างพอดิบพอดี ไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อ หรือเข้าใจยากเลย

------------------------------------------------------------------------------------------------------

ต่อจากนี้จะมีสปอยส์แล้วนะคะ

สิ่งที่ประทับใจในเรื่องนี้
- อย่างที่บอกไปว่า เราเริ่มประทับใจเรื่องนี้ ตั้งแต่การป๊ะหน้ากันครั้งแรกของพระ-นาง เรื่องนี้ใช้ด้ายแดง มาเป็นอีกหนึ่งกิมมิคของเรื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่ตอนที่เจอกัน แต่รวมไปถึงการขอแต่งงาน ฉากแต่งงานบนถนนถนนคนเดินที่เจอกันครั้งแรก โดยให้ทุกๆคนมามีส่วนร่วมนี่มันซึ้งจริงๆนะ ไม่ได้ซึ้งแค่การขอแต่งงาน แต่ซึ้งไปจนถึงความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆที่ปูมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่น่าเชื่อว่าทุกตัวละครจะลงตัวกันได้ถึงขนาดนี้



- ความสัมพันธ์ของ4หนุ่มใหญ่ ไม่ว่ามีอะไรก็จะช่วยกันเสมอ ฉากที่ประทับใจที่สุดคือ ฉากที่ทุกคนต่างมีธุระของตนเองอยู่ แต่เมื่อได้รับโทรศัพท์ว่า ภรรยาของยุนเสียชีวิต ก็ต่างทิ้งหน้าที่ของตนเอง เพื่อไปอยู่กับเพื่อน ในวันที่เพื่อนสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ก็คงจะเป็นฉากที่บรรดาเพื่อนๆต่างช่วยกันปกปิดความผิดให้จองรค ทีมเวิร์คเค้าดีเหลือเกิน หรือแม้กระทั่งเรื่องรักแรกของ4หนุ่ม เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับลูกชาย บรรดาลุงๆก็พาลูกชายเพื่อนไปร้านอาหาร ซื้อของขวัญให้ เอาใจต่างๆนาๆ


- ความสัมพันธ์ของศิษย์-อาจารย์ ครูซอกับคิมดงฮยับ(อูบิน) อันนี้ก็มีให้เห็นตั้งแต่ตอนแรกๆ มีเรื่องอะไรครูซอก็ไปช่วยตลอด ไม่แปลกใจที่ดงฮยับจะหลงรักครูซอ จริงๆถ้าเขียนเลิฟไลน์ไปอีกแบบ(สร้างเป็นอีกเรื่อง) เป็นครูสาวกับนักเรียนหนุ่ม ก็น่าจะสนุกดีนะ ฮ่าๆๆ ความสัมพันธ์ที่ลงตัวยังไม่หยุดแค่นี้ เพราะตอนจบ ดงฮยับยังเป็นเพื่อนที่ดีของโคลินอีกด้วย ชอบฉากในEPสุดท้าย ตอนแต่งงาน ที่ดงฮยับบอกโคลินว่า "นายโดนเพื่อนพ่อแย่งรักแรกไปใช่มั้ย... ส่วนฉันโดนพ่อเพื่อนแย่งรักแรกไปว่ะ" 

- จองรค กับพี่มินซุก คู่นี้เป็นคู่ที่เราชอบรองลงมาจากคู่ครูซอกับโทจินนะ ได้ข้อคิดเรื่องความเชื่อใจคนรักเลยจริงๆ คู่นี้มีฉากฮาๆเยอะด้วย อย่างฉากที่จะแบ่งทรัพย์สินกัน1ใน3หลังการหย่า อิตาจองรค ก็เอาเทปเหลืองๆไปแบ่งสิ่งของในบ้านให้เป็น3ส่วน ตลกมาก มีบทพูดบนเตียงอยู่ประโยคนึง เราชอบประโยคนี้ แต่จำไม่ได้เป๊ะๆนะ... จองรคถามพี่มินซุกว่า จะไม่ทำอะไรกันเลยเหรอ นอนอยู่บนเตียงกันแบบนี้ พี่มินซุกขอแขนจองรคเอาไปหนุน แล้วพูดประมาณว่า ความรัก ไม่จำเป็นต้องเร่าร้อนตลอดเวลา อบอุ่นบ้างก็ได้ แค่นอนข้างๆกัน ตื่นมาเจอหน้ากัน ไม่หนีกันไปไหน เท่านั้นก็อาจจะเพียงพอ ซึ่งก็จริงนะ คนรักบางคน พยายามทำนู่นทำนี่ เอาใจกันสุดๆ แต่ลืมคิดไปว่า การที่ได้อยู่ด้วยกันในทุกๆวันแค่นั้นก็พอ 


- มิตรภาพของ4สาว ประทับใจฉากที่พี่มินซุกเรียกบรรดาเมียๆมาประชุมกัน ตอนที่ยังไม่รู้ว่าโคลินเป็นลูกของใคร และบอกให้ทุกคนเตรียมใจ เพราะทุกคนมีความเสี่ยงคนละ 25% บทเจ๊มินซุกนี่ได้ใจเราไปเต็มๆ คอยช่วยเหลือสาวๆอยู่ตลอด ทั้งกรณีครูซอที่มีเรื่องกับแม่ลูกศิษย์ หรือตอนที่โปรฮงขัดสนเงินก็ให้ยืม ส่วนเมอารี แม้จะเด็กสุดแต่ก็กลมกลืนไปกับสาวสว.ได้พอสมควร

- มีแขกพิเศษ โผล่มาถึง2คน เป็นไอดอล นักร้อง ทั้งคู่ ซึ่งก็คือ ซูยอง SNSD และจองฮวา CN Blue ฉากที่ครูซอกับโทจินไปกินข้าวกันแล้วเจอยงฮวา นี่ฮามาก ครูซอบอกยงฮวาว่าชอบร้องเพลงของ CN Blue แต่อิตาโทจิน ดันร้องเพลง Blue ของ Big Bang ถ้าใครติดตาม K-Pop ด้วย รับรองว่าฉากนี้ฮาแตก จะว่าไปลูกศิษย์ครูซอนี่หน้าตาดีทั้งนั้นเลยนะ ยงฮวา,อูบิน,จองฮยอน,เมอารี นี่ถ้าไปเป็นครูที่เกาหลีจะเจอลูกศิษย์แบบนี้มั้ย 



- ฉากโทจินกับครูซอ จีบกัน มันหวานจริงๆ บิดตัวตามไปสามตลบเลยก็ว่าได้ ฉากที่ชอบที่สุดคือตอนที่โทจินไม่อยากให้ครูซอกลับบ้าน เป็นฉากที่นั่งอยู่ในรถด้วยกัน ครูซอแก้เขินโดยการเปิดเพลง แต่หารู้ไม่ว่าโทจินเซตเพลงไว้แล้ว ซึ่งล้วนแต่เป็นเพลงรัก เซ๊กซี่ วาบหวิว ไม่อยากให้เธอกลับบ้าน ประมาณ 3-4 เพลงต่อกัน ถ้าเป็นเพลงไทยก็คงเป็นเพลงประมาณ "อยู่ต่อเลยได้ไหม" อะไรอย่างนั้น ฮ่าๆๆ ที่เรารู้จักมีเพลงเดียวคือเพลง "Don't Go Home" ของ GD&TOP บอกเลยว่าถ้าหนุ่มที่คบกันทำแบบนี้ให้ ไม่กลับบ้านแน่นอน ก๊ากกกกกก ฉากกุ๊กกิ๊กกันส่วนใหญ่จะเป็นมุกแนว 18+ หน่อยนะเรื่องนี้ อีกฉากที่ฮาแตกลั่นบ้านเลยก็ฉากที่โทจินซ่อมคอมให้ครูซอ แล้วดันไปเห็นบลอคของครูซอ มีรูปครูซอใส่บิกินี่ด้วย โทจินนี่จ้องตาเป็นมัน กลืนน้ำลายอึกๆ ครูซอดันเข้าห้องมาเห็นพอดีอีก อิตาโทจินก็กลบเกลื่อนโดยการเอากาแฟไปราดคอมเลย... จนต้องซื้อโนตบุคใหม่ให้ และอิตาโทจินก็ยังไม่วายจะทำรูปวอลเปเปอร์หน้าจอเป็นรูปเตียงตัวเองแล้วใส่รูปครูซอใส่บิกีนี่นอนบนเตียงนั้น


- อีกกิมมิคที่ประทับใจคือ "รองเท้า" พระเอกให้รองเท้าเป็นของขวัญสำหรับนางเอก บอกให้นางเอกใส่มาหาตนในวันที่อากาศดีๆ แต่ครูซอก็ดันใส่ไปในวันที่หลอกบอกรักโทจินเพื่อให้หลุดพ้นกับแทซาน จี๊ดใจดีจริงๆ แต่ก็ยังไม่จี๊ดใจเพียงเท่านี้ ตอนใกล้จบที่ครูซอไปง้อพระเอก ครูซอมีการซื้อรองเท้าให้พระเอก พร้อมบอกให้ใส่มาหาตนในวันที่อากาศดีๆ แหม่ ลอกมุกกันชัดๆ ฮ่าๆ พอสุดท้ายเห็นสองคนนี้ใส่รองเท้าคู่ที่ต่างคนต่างให้แล้วยืนอยู่ด้วยกัน มันฟินมากเลยแหละ

- คู่แทซานกับโปรฮง คู่นี้ชัดเจนกันทั้งคู่ ชอบฉากที่แทซานถูกเรียกให้ไปดูตัวกับลูกเจ้าของโรงบาล แล้วโปรฮงตามไป ฮาได้อีก แล้วก็ฉากที่แทซานแต่งตัวเป็นเด็กวัยรุ่น ซึ่งก็ไม่ค่อยเข้ากับหน้า แต่ก็ทำเพื่อให้โปรฮงหัวเราะและยิ้มได้ อันนี้น่ารักจริง

- คู่เมอารีกับทนายยุน เมอารีเป็นผู้หญิงที่แน่วแน่ในความรักมาก ส่วนยุนเองก็คิดเสมอว่าตนไม่เหมาะกับเมอารี เพราะตนอายุห่างจากเมอารีอยู่เป็นรอบเลย ยุนเองก็เป็นพ่อหม้ายด้วย แถมเมอารีก็เป็นน้องของแทซานอีก ปัญหาเยอะไปหมด แต่ดันจบง่ายไปหน่อย เราชอบตอนที่ยุนให้เมอารีนึกถึงอนาคตนะ ถามถึงเรื่องเรียน เรื่องงาน ความฝัน จริงๆตอนจบน่าจะให้เมอารีไปเรียนต่อแล้วค่อยกลับมาแต่งงานอะไรงี้นะ จบแบบนี้เหมือนได้ยุนมาง่ายเกินไป

- อีกจุดหนึ่งของซีรี่ส์เกาหลีที่มีเกือบทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้ก็เห็นได้ชัดหน่อย เพราะมีตัวละครเยอะ หลากหลายอาชีพ ก็คือ เรื่องของการดำเนินชีวิต มีการทำงานให้เห็น เป็นสถาปนิก ก็มีการประชุมย่อย ออกไปดูไซต์งาน วาดแบบ เป็นครู ก็มีการเรียนการสอน เป็นเศรษฐีนีก็มีไปออกงานสังสรรค์ เดินเก็บตังค์สวยๆ เป็นทนายก็มีคดีให้ทำ เป็นนักกอล์ฟก็มีไปซ้อมกอล์ฟมีไปแข่ง หรือแม้กระทั่งเป็นนักเรียนถ้าเรียนไม่เก่งก็ต้องขยันหาเงินแบบดงฮยับ,โคลิน ที่ไปทำงานพิเศษในร้านไก่ทอด อย่างที่พี่มินซุกบอก ว่าถ้าโง่ก็ต้องหาทางอยู่รอดทางอื่น ถึงจะอยู่ในสังคมได้ จุดนี้เป็นจุดที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของซีรี่ส์เกาหลีกับละครไทย ละครไทยบางเรื่องก็อาจมีระบุอาชีพนะ ว่าทำนู่นทำนี่ แต่ไม่เคยเห็นรายละเอียดการทำงานของตัวละคนนั้นๆเลย เห็นแค่ไปนั่งโต๊ะที่ออฟฟิสไม่ถึง2นาทีก็เปลี่ยนฉากเสียแล้ว



- นอกจากการทำงาน ยังมีงานอดิเรกของตัวละครต่างๆให้เห็น อย่างเช่น การเล่นเบสบอลของหนุ่มๆทั้ง4, การชอบออกแบบสิ่งของต่างๆของเมอารี, การร้องเพลงเล่นกีต้าร์ของโคลิน สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ ไม่ต้องเสียเวลามาบอกเด็กซ้ำๆหรือบังคับเด็กว่าควรมีกิจกรรมยามว่างทำ แต่มีการโฆษณาแฝงเรื่องเหล่านี้ในสื่อต่างๆไปเลย (แต่สิ่งที่เห็นบ่อยที่สุดก็เห็นจะเป็น การกระดกโซจู ซึ่งเห็นบ่อยมากในหลายๆเรื่อง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมชอบกินให้เห็นกันนัก ฮ่าๆๆ)


จบแล้วค่ะ สำหรับการรีวิวซีรี่ส์เกาหลีเรื่องแรก กะว่าอาทิตย์นึง จะเขียนสัก1เรื่อง เรื่องถัดๆไปอาจจะไม่เขียนยาวเท่านี้ (เพราะเรื่องนี้เพิ่งดูจบเลยเขียนได้ยาว) ถ้าย้อนกลับไปเขียนเรื่องเก่าๆบางทีอาจจะจำรายละเอียดไม่ค่อยได้

มีข้อติชม แนะนำได้นะคะ พูดคุยได้ สำหรับใครที่ชอบซีรี่ส์เรื่องนี้ ^_^



Create Date : 15 ตุลาคม 2557
Last Update : 15 ตุลาคม 2557 19:40:05 น.
Counter : 1228 Pageviews.

2 comments
  
แวะมาเจิมค่ะ

ดูเรื่องนี้เพราะป๋าจางค่ะ ป๋าเป็นแฟนเก่า พอป๋าแต่งงานไป ก็เริ่มห่างๆกัน 555 ประกอบกับ ป๋าไม่ค่อยมีผลงานละคร เลยไม่ได้ตาม

จริงๆเรื่องนี้ คนที่แย่งซีน และ แสดงดีมากในความคิดเราคงเป็นคุณพี่ แทซานค่ะ
โดย: สามสิบเอ็ดธันวา วันที่: 18 ตุลาคม 2557 เวลา:17:07:16 น.
  
เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้หันมาตลุยซีรีย์เกาหลีอยู่หนึ่งปีเต็ม ๆ
ทำให้เบื่อละครไทยไปเลย
เห็นด้วยค่ะที่ว่าเขาทำเรื่อง ๆ ทำมะดาของชีวิตประจำวันให้สนุก
ไม่ต้องส่งเสียงกรีดกราด ตบตี ...ก็สนุกแถมได้สปอนเซอร์โฆษณาเนียน ๆ

หากละครไทยนำมาใช้บ้างคงจะดี
คือไม่ลอกเรื่องแต่ลอกวิธีการ
คงมีละครดี ๆ หนุก ๆ ออกมาบ้าง
โดย: น้อย (the violetblue home ) วันที่: 20 ตุลาคม 2557 เวลา:20:42:14 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ฮัสกี้สีชมพู
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]