Just want to rest in peace
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
15 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

ค่ำคืนประทับใจกับคอนเสิร์ต A Moment of Grace with JIM BRICKMAN


(รายงานนี้อาจจะลืมชื่อเพลงบ้าง จำเหตุการณ์สับสนบ้าง ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยนะคะ )





A Moment of Grace with JIM BRICKMAN


คอนเริ่ม 5 โมงเย็น นัดกับน้องไว้ 4 โมงเย็น
แต่ด้วยความว่าธุระที่ต้องไปทำยกเลิกกระทันหันตอนที่ออกจากบ้านมาแล้ว
เราเลยไปถึง M Theatre (สถานที่อันแสนคุ้นเคย) ตอนบ่ายโมง
พอโผล่ไปบอกพี่ยามที่ตึกมนูญผลตอนรับบัตรจอดรถ
พี่เค้ายังทำหน้าตกใจประมาณว่าทำไมมาตั้งแต่หัววันเชียว
ไปถึงก็ไปแอบเดินดูบรรยากาศทั่ว M Theatre
(จริงๆแล้วคือจะไปหาว่ามีรูปหรือป้ายพี่น้องจากงานเมื่อวานหลงเหลืออยู่รึเปล่า
เผื่อจะได้เก็บกลับบ้าน)


แล้วก็มานั่งรอน้องอยู่ที่ Starbucks
รำลึกความหลังไปด้วยการพิมพ์เรื่องราวของ
NAT-TOL the TWO MEN SHOW ในความทรงจำของตัวเอง (อันที่ลงบล็อคนี่แหล่ะค่ะ)


นั่งพิมพ์ไปได้ถึงบ่ายสามโมง น้องก็มา ^^
หลังจากพักเหนื่อยแล้ว น้องก็จะเดินออกไปหาสถานที่รับบัตรคอน
แต่เดินไปยังไม่ทันไรก็วิ่งกลับมาทำหน้าตาตื่นเต้นมาก

"พี่ โต๋นั่งอยู่!!!!"


น้องเดินไปเจอโต๋นั่งอยู่กับครอบครัวที่หน้าร้าน STARBUCKS นั่นเอง
หลังจากนั่งตั้งสติไปได้สักพักมอดก็บ่นอุบอิบว่า
"ทำไมเค้าไม่เอา CD โต๋มาาาาาา"
เอิ่ม อันนี้พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะน้อง 555555





ตัดเข้าไปที่คอนดีกว่า ก่อนที่จะเผาน้องไปมากกว่านี้

พอเข้าไปในโรงละคร ก็เห็นแกรนด์เปียโนตั้งอยู่สองหลังค่ะ
(เค้าใช้ลักษณะนามว่า "หลัง" ใช่หรือเปล่า???)


เริ่มการแสดง สทรขมอด ก็ออกมา
น้องโต๋นั่นเอง
โต๋มาเล่นเดี่ยวเปียโนเปิดด้วยเพลงอะไรไม่ทราบได้ค่ะเพราะจำไม่ได้จริงๆ
(ส่วนของโต๋นี่ต้องรอให้มอดมาเล่าเอง อิอิ)


หลังจากนั้น Jim Brickman ก็ออกมาค่ะ ทักทายทุกคนเล็กน้อยแล้วก็เริ่มบรรเลงเพลงของเค้า
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
พริ้วและไพเราะมากมาย



จำชื่อเพลงแรกไม่ได้แต่จำเพลงที่สองได้ว่าชื่อ Waterfall
เพราะเค้าเล่าว่าเพลงนี้ทำให้เค้าคิดถึงภูเก็ต เพราะบรรยากาศที่มีน้ำล้อมรอบ
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 แล้วค่ะที่ Jim Brickman มาเปิดการแสดงที่เมืองไทย
เค้าบอกว่าดีใจมากที่ได้กลับมาเมืองไทยอีกเพราะว่าคนที่นี่น่ารักมาก
เป็นมิตรมากๆ แถมอาหารก็อร่อย เราควรจะภูมิใจในเมืองไทยของเรา ^^

สักพักเค้าก็เชิญนักร้องรับเชิญคนแรกออกมาค่ะ
คุณ John Trones ซึ่งเป็นนักร้องรับเชิญที่เคยร่วมร้องเพลงกับ Jim Brickman ไปทั่วโลก
ร้องเพลงที่จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว >.<
แต่เสียงนุ่มๆของ John Trones เคล้ากับเสียงเปียโนอันพริ้วไหวของ Jim Brickman
ทำให้รู้สึกล่องลอยและซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก


และนักร้องรับเชิญอีกคนคือพี่กบ เสาวนิตย์ค่ะ
ใส่ชุดราตรีสีดำยาวออกมาสวยสง่ามากๆ
ออกมาร้องเพลงคู่กับ John Trones ในเพลง Destiny
เพราะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

(เริ่มไม่แน่ใจนะคะว่าเล่าสลับเพลงหรือเปล่า ใครมาช่วยเค้าแก้หน่อยมั้ย???)


ช่วงที่พี่กบ เสาวนิตย์ออกมาเนี่ยออกมาร้องเพลง Your Love ด้วย
Jim Brickman แอบแซวว่าดีใจที่พี่กบออกมาเสียที จะได้มีคนช่วยเค้าพูดภาษาไทยกับคนดู
แล้วก็บอกว่าเค้ายินดีมากจริงๆที่ได้ร่วมงานกับพี่กบอีกครั้ง
(เหมือนว่าพี่กบจะเคยเป็นแขกรับเชิญให้เค้าแล้วในคอนเสิร์ตที่เมืองไทยครั้งก่อนๆ)

จากนั้นก็เป็นการเดี่ยวเปียโนต่อ
Jim Brickman เริ่มเล่าเรื่องว่าเค้าเริ่มเล่นเปียโนตั้งแต่ตอนเด็กๆ ซึ่งตอนแรกๆเนี่ยที่บ้านเค้าจะไม่มีเปียโนจริงๆ
เพราะพ่อแม่ยังไม่แน่ใจว่าเค้าจะเอาดีกับทางนี้จริงๆหรือเปล่า ถ้าซื้อเปียโนให้วันต่อมาอาจจะอยากได้กลองก็ได้นะ
(ฟังแล้วแอบนึกถึงใครบางคนนะเนี่ย เอิ้กกกก)
เค้าเลยต้องหาทางซ้อมเปียโน โดยการเอาตู้ไม้มาตั้งแล้วขีดเส้นเป็นเหมือนคีย์เปียโน
แถมเล่าว่าตอนที่เริ่มเล่นเปียโนใหม่ๆ เค้าไม่ค่อยยอมอยากเล่นเพลงง่ายๆ
อยากเล่นเพลงยากๆเลย
แต่ก็เข้าใจว่าการเรียนทุกอย่างจะต้องมีวินัยเพื่อจะฝึกพื้นฐานให้คล่องก่อน ^^
ที่ฮามากคือเค้าบอกว่าเนี่ยตอนเล่นดนตรีใหม่ๆเค้าไม่ชอบเล่นโน้ตที่ใช้สีดำเลย
อยากกดแต่คีย์สีขาวๆ 555555

(ไม่แน่ใจว่าหลังจากที่เล่าเลย หรือช่วงท้ายคอน Jim Brickman เล่นเพลง Escape ซึ่งเป็นเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มแรกของเค้า
เล่นจบก็ยิ้มและบอกว่าเพลงนี้เค้าภาคภูมิใจมากเพราะว่าส่วนใหญ่โน้ตที่เล่นมีแต่โน้ตของแป้นคีย์สีขาว )




หลังจากนั้นก็เชิญแขกรับเชิญจาก Bangkok Symphony Orchestra (BSO) ออกมาค่ะ
คนแรกคือคุณอภิชัย เลี่ยมทอง ออกมาเล่น Cello
(ตอนเชิญออกมาแอบมีแซวด้วย เพราะคุณอภิชัยออกมาช้ากว่าเสียงปรบมือต้อนรับ
Jim Brickman เลยแซวว่าอาหารหลังเวทีอร่อยมาก เลยยากที่จะทำใจให้ออกมาด้านหน้าเวทีได้ 5555)

เล่นเพลงนี้เลยค่ะ Secret Love

Secret Love - Jim Brickman & Martin Tillmann


แขกรับเชิญจาก BSO คนที่สองคือคุณศิริพงศ์ ทิพย์ธัญ มาเล่นไวโอลิน

เสียงเครื่องสายประสานกับเสียงเปียโนได้อย่างกลมกลืน เพิ่มสีสันให้กันและกันอย่างลงตัว


สักพักก็เชิญพี่กบ มาร้องเพลง Valentine ที่พวกเราคุ้นเคยกันดี
Jim Brickman บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงแรกๆที่ทำให้คนไทยรู้จักเค้า
(บิ๊กก็รู้จักพี่เค้าจากเพลงนี้จริงๆ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว >.<)

เพลงต่อไปคือ The Gift พี่กบกับคุณ John Trones ร้องคู่กัน
เสียงไวโอลิน เชลโล่ และเปียโน บวกกับเสียงร้องที่หวานกังวานของทั้งคู่ทำให้เพลงนี้เพราะกว่าที่ฟังจาก CD จริงๆค่ะ
บรรยากาศความรักอบอวลเลยทีเดียว
(ถ้าใครมีแฟนและอยากสร้างบรรยากาศดีๆ คราวหน้าอย่าลืมชวนกันไปดูคอนเสิร์ต Jim Brickman นะคะ)
เมื่อวานไปกับมอดก็ได้บรรยากาศความรักของพี่กับน้องดีนะ
555555555555555555





หลังจากนั้นก็เป็นการเดี่ยวเปียโนอันพริ้วไหวและล่องลอยต่ออีก 2 เพลง
(น่าจะเป็นช่วงนี้นะคะที่เค้าเล่น Escape ที่เล่าไว้ด้านบน)
ก่อนที่จะเชิญโต๋ออกมาอีกครั้ง

Jim Brickman มีการแซวโต๋ด้วยว่า
เค้ารู้นะว่าโต๋พยายามสุภาพตอนพูดว่าเค้าเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้กับเล่นเปียโนตอน 5 ขวบ
แถมบอกด้วยว่าคุณย่าหรือยายของโต๋ก็ชอบเสียงดนตรีของเค้า
("I know that you tried to be polite when you said that I was one of your inspiration when you was five. You even said that your grandma likes my music.") << ประมาณนี้
เล่นเอาโต๋ไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว 55555




จากนั้นก็เริ่มการดวลเปียโนกันค่ะ
จะเรียกอย่างนี้ได้รึเปล่าเนี่ย คือเป็นการเล่นเพลงเดียวกันแต่ผลัดกันเล่นคนละท่อนต่อสลับกันไปมา
จับได้ว่าตอนต้นๆคล้ายกับ Presto ของ Symphony No.9 ของ Beethoven
(ถ้าใครยังจำได้คือเพลงที่ประกอบโฆษณาเบียร์มิดไวด้าสมัยก่อน)
เท่าที่ฟังแบบคนที่ไม่มีความรู้เรื่องดนตรีนัก แอบรู้สึกว่าสไตล์การเล่นเปียโนของทั้งคู่มีจุดต่างกันอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว
น่าจะเป็นตั้งแต่การตั้งเสียงของเปียโนหรือเปล่า
คือของ Jim Brickman จะเป็นเสียงทุ้มๆนุ่มๆ กังวาลหน่อย ให้ความรู้สึกพริ้วไหวแบบนุ่มนวล
ส่วนของโต๋จะเสียงออกแหลมมากกว่า ติ๊ง ติง แบบที่เราได้ยินกันจากเพลงในอัลบั้มของโต๋
จะพริ้วไปอีกแบบ (เรียกว่ารู้สึกว่าเสียงเปียโนมันน่ารักจะผิดไหมเนี่ย)

การดวลเนี่ย ต้องมองหน้ากันไปแล้วสลับกันเล่น โน้ตจะค่อยๆต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ
จนท้ายที่สุดเหมือนกับเป็นการเล่นไปพร้อมๆกันเลย

เยี่ยมยอดจริงๆ




เมื่อจบไปแล้วก็มาถึงช่วงท้ายสุด แขกรับเชิญทุกคนออกมารับเสียงปรบมือพร้อมกับ Jim Brickman
แล้วก็มีอังกอร์ด้วยเสียงปรบมืออีกครั้งหนึ่ง
Jim Brickman ออกมาเดี่ยวเปียโนเพลงสุดท้ายให้ฟังค่ะ ^^

แล้วก็จบคอนเสิร์ตไปในเวลาประมาณ 19.00 น. >>> ต้องบึ่งไป NTJW ต่ออย่างเร่งด่วนเลยทีเดียว



เอ๊ะ เหมือนจะเล่าข้ามไปจุดหนึ่ง

หนึ่งในเพลงที่ประทับใจที่สุดของคอนเสิร์ตนี้เลย
เพราะเป็นเพลงที่ Jim Brickman เล่นเปียโนและร้องเอง
(คิดถึงพี่นัทสุดๆเลยเพลงนี้)

ก่อนที่จะเข้าเพลงเค้าพูดว่าคนเรามักจะหลงไปกับสิ่งต่างๆรอบตัวจนทำให้ลืมสิ่งสวยงามเล็กๆน้อยๆรอบตัวเรา

วันนี้คุณมองเห็นและรับรู้ถึงความสวยงามรอบตัวเราหรือยัง????



Simple Thing

[i]Hey, time won't wait
Life goes by
Every day's a brand new sky
Every tear comes to dry
All that really matters in this crazy world
Is you and I together, baby just remember...

The first leaves of the tree,
The way you look at me,
A thousand chiming church bells ring
The simple things are free
The sun, the moon, the stars,
The beating of two hearts
How I love the simple things,
The simple things just are

So here we go
Let's just dance
Teach my soul to take this chance
Put my heart in your hands
Out of all the moments that we leave behind
Turn around and tell me baby we'll remember...

The thunder and the rain,
The way you say my name
After all the clouds go by the simple things remain
The sun, the moon, the stars,
The beating of two hearts
How I love the simple things,
The simple things just are

Oh, The ocean and the sky
The way we feel tonight
I know that it's the love that brings the simple things to light
The sun, the moon, the stars,
The beating of two hearts
I love the way the simple things,
The simple things just are.



และคำพูดอีกช่วงหนึ่งของ Jim Brickman ที่รู้สึกประทับใจมากคือช่วงที่เค้าพูดถึงเพลงที่เค้าแต่ง
เค้าบอกว่าเพลงที่เค้าแต่งส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวกับธรรมชาติ ความเชื่อ และความรัก
เชื่อหรือไม่ว่าเค้าเคยแต่งเพลงอกหักแค่เพลงเดียว (เค้าใช้คำว่า Broken Heart น่าจะแปลว่าอกหักได้เนอะ)
เพราะเค้ารู้สึกว่า
ดนตรีเป็นสิ่งสวยงาม จึงอยากให้ดนตรีเป็นสื่อในการบอกเล่าสิ่งที่สวยงามบนโลกใบนี้


ทุกเมโลดี้ที่ได้ฟังในคอนเสิร์ตครั้งนี้ทำให้มีความสุขเต็มเปี่ยมและมองโลกได้สวยงามเพิ่มขึ้นจริงๆค่ะ

^________________________^


ป.ล. จำได้แล้วว่าหนึ่งในสองเพลงที่โต๋เล่นเปียโนเปิดคอนคือ "เขมรไทรโยค" ค่ะ เอามาเรียบเรียงใหม่เป็นเสียงเปียโน เพราะไปอีกแบบ




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2551
1 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2551 16:18:23 น.
Counter : 624 Pageviews.

 

ชอบ Jim Brickman มากเช่นกันค่ะ
ฟังเพลงเค้าแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ไพเราะมาก
ประมาณ Boyd Kosriyabong เมืองไทยเลย

 

โดย: aomk IP: 115.67.134.179 30 มกราคม 2552 23:49:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


gibt
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add gibt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.