Bloggang.com : CiKaO IBM :

สาธารณรัฐโปรตุเกส

ดินแดนอารายธรรมโบราณที่เป็นต้นกำเนิดของอารายธรรมเก่าแก่บนโลกกว่า3500 ปี สาธารณรัฐโปรตุเกส โปรตุเกสตั้งอยุ่บนคาบสมุทรไอบีเรียทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีพื้นที่ทั้งหมด 92391ตารางกิโลเมตร โดย2ใน4ของพื้นที่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก มีเมืองหลวงชื่อว่า กรุงลิสบอน ประชากรของประเทศมีจำนวน 10.2ล้านคน ในด้านของศาสนาชาวโปรตุเกสส่วนใหญ่จะนับถือ ศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาธอลิก ภาษาที่ใช้คือภาษา โปรตุกีส ส่วนภาษาอังกิดจะเป็นภาษากลางในการติดต่อสื่อสาร สกุลเงินที่ใช้นั้นจะเป็นสกลุเงินยูโร จะมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่1ยูโรต่อ 1.39 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าเทียบกับประเทศไทยจะอยุ่ที่ 1 ยูโรต่อ 34 บาท การปกครองประเทศนั้น จะปกครองในรูปแบบรัฐสภา มีประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศซึ่งปัจจุบันบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนี้คือ นายAnibal CAVACo silva รับตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2549 มีนายกรัฐมนตรี คือนาย Jose Socrates ซึ่งมีหน้าที่บริหารประเทศ การศึกษา ประชากรโปรตุเกสมีจำนวนคนไม่รู้หนังสือในปริมานที่มากเมื่อเทียบกับกลุ่มสหภาพยุโรป ชนชั้นกลางถึงชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เรียนในระดับสูง ส่วนชนชั้นล่างยังขาดโอกาสในการศึกษาซึ่งจะอาศัยอยุ่แถวชนบท เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะขยายการศึกษาให้ครอบคลุมอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่จะเน้นไปในเรื่องเศรษฐกิจจนลืมคิดไปว่ารากฐานของเศรษฐกิจที่มั่นคงนั้นมาจากการศึกษาที่ดีของประชาชน ปัจจุบันเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อยุ่ในสภาวะชะลอตัว เนื่องด้วยราคาน้ำมันที่สุงขึ้น ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งโปรตุเกสก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือเรียกอีกอย่างว่า GDP มีจำนวน200.3พันล้านดอลล่าต่อปี รายได้เฉลี่ยของประชากร จะอยุ่ที่198000ดอลลาร์ ซึ่งจะวัดจากอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ปัจจุบันอยุ่ที่ร้อยละ 0.3 อัตราการว่างงานอยุ่ที่ร้อยละ 7.6 ถึงแม้ภาครัฐจะพยายามกระตุ้นการลงทุนระหว่างประเทศ แต่ในจำนวนการนำเข้ายังอยุ่ในอัตราที่สูงกว่าการส่งออก ทำให้โปรตุเกสต้องเสียดุลการค้าถึงร้อยละ6.2 ของผลผลิตมวลรวมประชาชาติ ในขณะที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้เพียง 3 เปอร์เชน สำหรับการคาดการณ์เศรษฐกิจในหลายสำนักรวมทั้งธนาคารชาติโปรตุเกส คาดกันว่าอัตราการเจริญเติบโตทางในเศรษฐกิจในปี2550จะเติบโตขึ้นเพียง 1 เปอเชน แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้คนโปรตุเกสมั่นใจเท่าไหร่นัก ซึ่งจะสังเกตได้จากอัตราการเป็นหนี้ของประชากรเพิ่มสูงขึ้น13.8 เปอเชน คิดเป็นมูลค่ารวมถึง 3600ล้านยูโร จำนวนเลขส่วนนี้จะเห็นได้ว่ามีปริมานที่สุงและยังพบว่าหนี้ส่วนใหญ่มาจากการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศและเป็นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้านอยุ่อาศัย ซึ่งในอนาคตข้างหน้าจะเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน ในเรื่องของการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของโปรตุเกส รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะจะเน้นในเรื่องการส่งออกเป้นส่วนใหญ่ แต่ทั้งนี้โปรตุเกสเป็นประเทศขนาดย่อมจึงทำให้ทรัพยากรมีไม่มากพอและยังมีปัญหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ยังไม่มี่ประสิทธิภาพพอที่จะไปแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจที่มีรากฐานมากจากเกษตรกรรมมาเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมและบริการแทน โปรตุเกสไม่มีอุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมหลักที่ผลิตสินค้าส่งออกที่สำคัญยกตัวอย่างเช่นสินค้าจำพวก อาหารและเครื่องดื่ม สิ่งทอ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องหนัง ไม้ก๊อก เคมีภัณฑ์ แต้โรงงานอุตสาหกรรมของโปรตุเกสมีขนาดย่อมจึงต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ การนำเข้า โปรตุเกสจำเป็นต้องนำเข้าสินค้า จำพวก เชื้อเพลิง อุปกรณ์สื่อสารและคมนาคม เครื่องจักรกล รถยนต์ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะกระตุ้นการส่งออกมากเพียงใด แต่ อัตราการนำเข้าก็ยังมีปริมานที่
มากอยุ่เช่นเดิม นโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาลก็คือ การปฏิรูประบบภาษี และยังส่งเสริมการลงทุนในประเทศอดีตอาณานิคม เช่น แอฟริกาซึ่งเน้นการลงทุนที่อังโกลา ส่วนการลงทุนในอเมริกาใต้ โปรตุเกสร่วมลงทุนกับบราซิล ซึ่งส่วนใหญ่จะลงทุนในด้านโทรคมนาคมและโรงไฟฟ้า โปรตุเกสนิยมไปลงทุนในต่างประเทศมากกว่าต่างประเทศเข้ามาในโปรตุเกส ในด้านการค้ากับสหภาพยุโรป ถือว่าเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับการส่งออกของโปรตุเกส คิดป็นร้อยละ 82.8 ของสินค้าส่งออกทั้งหมด และก็ยังเป็นตลาดที่สำคัญในการนำเข้าเช่นกัน มาตรการที่โปรตุเกสใช้อำนวยความสะดวกทางการค้า คือ การสร้างท่าเรือน้ำลึกที่เมืองซีเนส โดยรัฐบาลได้สนับสนุนให้มีการสร้างถนนจากท่าเรือตัดผ่านประเทศไปยังสเปนเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านโลจิสติก ถ้าจะวิเคราะห์ swot ของโปรตุเกสแล้ว จะสามารถสรุปได้ดังนี้ ความได้เปรียบในการลงทุนคือ มีทำเลที่ตั้งเหมาะสม มีภูมิประเทศที่เอื้ออำนวย มีความชำนาญในการเดินเรือ การคมนาคมขนส่งสะดวกทุกด้านไม่ว่าจะเป็นทางเครื่องบิน รถยนต์ เรือ มีการปฏิรูปวิสาหกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสุง ที่สำคัญคือ การที่รัฐสนับสนุนการลงจากต่างประเทศ แต่ก็ยังมีสิ่งที่โปรตุเกสต้องรีบแก้ไขโดยด่วนก็คือ การศึกษาของประชากรที่อยุ่ในระดับต่ำ ภาวะหนี้สินที่เพิ่มพูน สวัสดิการภายในประเทศ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ที่สนใจไปลงทุนก็คือ การที่มีสิทธิประโยชน์จากการเข้าร่วมกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) และความสัมพันธ์ของประเทศที่เอื้ออำนวย ซึ่งอุปสรรคที่จะทำให้เกิดการหยุดชะงักทางการลงทุนก็คือ ภาวะการแข่งขันสูงของเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และยังมีข้อบังคับทางศุลกากรของสหภาพยุโรป ซึ่งโปรตุเกสได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกับสหภาพยุโรป โปรตุเกสได้เข้าร่วมขอใช้สิทธิในระบบGSPของสหภาพยุโรป มีวัตถุประสงค์หลักคือ การยกเว้นอัตราภาษีศุลกากรและการลดหย่อนอัตราภาษีศุลกากรให้กับประเทศสมาชิก การเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออก ด้านการผลิตและการลงทุน ตลอดจนการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศกำลังพัฒนา และโปรตุเกสยังได้เข้าร่วมในกลไกการแลกเปลี่ยนเงินตรา โปรตุเกสสามารถที่จะรักษาค่าเงินเอสคูโตให้มีเสถียรภาพ รวมทั้งสามารถควบคุมการขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ ซึ้งทำให้โปรตุเกสสามารถใช้เงินสกุลยูโรตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พศ. 2544 เมื่อเราได้ศึกษาถึงองค์ประกอบโดยรวมแล้ว ถึงแม้ว่าโปรตุเกสจะยังไม่เป๋นที่นิยมของนักลงทุนเท่าใดนัก แต่สาธารณรัฐโปรตุเกสกับประเทศไทยก็ยังคงทำการค้าคู่กันมาและก็ยังจะทำการค้าร่วมกันตลอดไป

Create Date : 06 ตุลาคม 2550

0 comments

Last Update : 6 ตุลาคม 2550 0:46:41 น.

Counter : 1681 Pageviews.