Group Blog
All Blog
|
ตอนที่ 3 วันฝนพรำที่...รอสต๊อก (Rostock)...Germany (ต่อ) วัน เวลา .........เสาร์ 13 มีนาคม 2547 การเดินทาง ....โดยรถไฟ ( Die Bahn) จุดเริ่มต้น ..... Warnemuende เมืองริมทะเลทางเหนือของรอสต็อก ปลายทาง........ตัวเมืองเก่าเมืองรอสต๊อก หลังจากที่ขึ้นรถไฟเเล้วจากสถานีวาร์เนอร์มืนเดอร์เพื่อไปยังตัวเมืองเก่าของรอสต็อก ที่มักจะมีสถานที่ สำคัญๆเสมนั้น สายฝนก็โปรยปรายลงมา เเล้วก็นั่งไปลง ณ จุดเเรกที่ศาลากลางจังหวัด (Rathaus) ของเมืองรอสต๊อก เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สองนั้น...ทาง ศาลากลางจังหวัด (Rathaus) ก็ได้รับความเสียหาย ไม่น้อยเลยค่ะเพิ่งมาบูรณะเมื่อปี 1993 นี้เอง ตัวตึกของ Rathaus นี้ จะเป็นศิลปะสมัยบาร๊อค เเล้วก็มีการบูรณะหลายหนจนมีลักษณะให้เห็น จนกระทั่งเห็นในรูปปัจจุบันค่ะ ...เล่าให้ฟังพอหอมปากหอมคอนะคะ เพราะฉันเอง ก้อไม่ได้มีความรู้ในเรื่องประวัติศาสตร์หรือศิลปะมากเลย เพียงเเต่เวลาเห็น...ความรู้สึกบอกว่าชอบก็ชอบเท่านั้นเองค่ะเขียนมากไปเดี๋ยวปล่อยไก่ .... ทางห้องใต้ดินของตัวตึกจะเป็นร้านบาร์เบียร์+ ร้านอาหาร ระดับดีเชียวค่ะ ทางด้านหน้าของ Rathaus จะเป็น Neuer Markt ค่ะ ซึ่งเป็นตลาดที่ชาวเมืองจะเอา ของมาขายกันเช่น ผลไม้ ขนมปัง หรือเวลามีเทศกาลเช่น งานประจำเมือง งานคริสต์มาสก็จะมาจัดกันที่นี่ค่ะ ตัวตึกสีสรรค์สดใสสวยเหมือนลูกกวาดเลยค่ะ เดินถัดมาอีกหน่อย....ก็เป็นโบสถ์มาเรียนค่ะ ( Marien kirche) ตอนเเรก...ฉันก็เดินไปด้านกะว่า จะเข้าไปดู ปรากฏว่า...ด้านหน้าประตูปิดค่ะ ไอ้ฉันก้อไม่ยอมจะเข้าไปดูให้ได้ เดินรอบโบสถ์เลยค่ะ ในที่สุดก็ไปเจอทางเข้า ซึ่งกำลังบูรณะมีนั่งร้านตรึมเลยค่ะ ....เดินๆเข้าไปก็หวั่นๆ .....มันจะหล่นใส่หัวตูหรือเปล่าเนี่ย.... ฉันว่าลักษณะที่เหมือนกันระหว่างวัดไทยกับโบสถ์คริสต์เนี่ยมีอยู่อย่างหนึ่งค่ะ คือประตูไม่เคยปิดไม่ว่าจะเป็นวันเสาร์อาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุด วัดเเละโบสถ์จะเปิดรับศาสนิกชนเสมอเพื่อนคิดเหมือนฉันไหมคะ ตอนเข้าไปในโบสถ์มีคนไม่เยอะมีเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวเยอรมันอยู่4-5 คน ท่าทางเหมือน กับกำลังมาจดข้อมูลไปทำรายงานส่งครูยังไงยังงั้นเลยอ่ะ ระหว่างนั้นฉันก็เก็บภาพไปพลางๆพร้อมกับนั่งพัก ปลดเป้ที่หนักอึ้งวางลงก่อน สักพักหนึ่งก็เดินดูข้าวของในโบสถ์.(เขียนเหมือนพวกโจรที่กำลังมาสำรวจเส้นทางปล้นเลยเเฮะ...เรา) ภายในโบสถ์ บรรยากาศค่อนข้างมืด เเละมีกลิ่น ...ฉันไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร เเต่ขอเรียกว่า....กลิ่นโบสถ์...ก็เเล้วกันนะคะกลิ่นโบสถ์อบอวล ไปทั้งโบสถ์ ฉันเดินดูไปรอบๆโบสถ์ก็ไปเจอสิ่งนี้เข้าค่ะ สิ่งนี้เรียกว่า ฟืนเทอร์ (Fuente) สีดังเดิมจะเป็นสีบอนซ์เเต่ปัจจุบัน ออกเหลืองทองเเดง คล้ายสนิมเเล้วค่ะ ตรงฐานถ้าสังเกตจะเป็นรูปนักบวช อุ้มอะไรสักอย่างซึ่งฉันดูจากสันฐาน เเล้วก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่ามันคืออะไร ไปอ่านหนังสือสองสามเล่มก็ไม่มีอธิบายไว้ว่ามันคืออะไรค่ะ มองสูงขึ้นมาหน่อย จากฐาน...จะเห็นเป็นคนนักบวชในกิริยาต่างๆ เเละตรงส่วนฝา ที่มีห่วงจะเป็น.. พระเยซู ล้อมรอบด้วยสาวกค่ะ ฉันถามเด็กหนุ่มท่าทางเเก่เรียนคนหนึ่งที่ยืนดูอยู่.. เขาก็อธิบาย ฉันฟังอยู่นาน ก็ไม่ค่อยเข้าใจ สักเท่าศัพท์เยอรมันหมวดศาสนานี่...ไม่ค่อยเเน่นเเฮะ ส่วนรูปนกที่อยู่ยอดสุดเลยมีป้ายบรรยายไว้ว่า ไม่ใช่ทั้งนกเหยี่ยวเเละนกอินทรีย์ เเต่เป็นส่วนที่ผสมกันฉันก็เลยไม่รู้ว่า เเล้ว จริงๆเเล้วคือนกอะไร งง.งงง ดูรูปบรรยากาศในโบสถ์กันค่ะ เสร็จเเล้ว ฉันก็รีบเเจ้น...ออกจากโบสถ์อย่างรวดเร็ว ....ไปดูอะไรอย่างอื่นต่อไป " โอย...ขี้เกียจเดินจังเลย " ขาเริ่มโอดครวญ " โอเคๆๆ เดี๋ยวนั่งรถรางไปก็ได้ " ใจบอก ฮือ....ฮือ.....ฮือ ฉันนั่งรถเลยค่ะ ก็ตอนเเรก...ก็ตอนเเรก ฉันเเค่อยาก ดูเมืองเฉยๆ ก็เลยกะว่า นั่งรถไปสุดสายเเล้วค่อยนั่งกลับมา เเต่ตอนที่สุดท้ายเเล้วต้องนั่งรถกลับมา ฉันนั่งผิด ก็รถรางอะไรฟ่ะ... มีตั้งสามราง ใครจะไปรู้ฟ่ะ ...โดยปกติ มันต้องมีเเค่สองรางไม่ใช่เหรอ ไปกับ กลับ เเต่นี้มีสามราง ไป...ไป เเล้วมีสายย้อนกลับสายเดียว ฮือ..ฮือ ฉันไปยืนหนาว คนเดียวทั้งครึ่งชั่วโมงเเน่ะ ฝนก็ตกพรำ ไอ้ที่พักผู้โดยสารก็บังละอองสายฝน ที่สาดเข้ามาไม่หมด เเค่นั้นยังไม่พอ....อารมณ์ที่เหนื่อย + หิว ขากลับ นั่งรถรางสับปะหงก โงกเงก หัวโขกเเล้ว โขกอีกกับเก้าอี้ ผลหรือ ก็นั่งรถเลยป้ายที่จะลงไปป้ายหนึ่งอีก โธ่โว้ย ...มันจะอะไรนักหนา ...ชีวิต..... เหนื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หิววววววววววววววววววววว ไปนั่งพักกินกาเเฟก่อนดีกว่า... ไม่ไหวเเล้ว ที่เยอรมันนีเนี่ย เวลาไปเที่ยว ฉันจะต้องเเวะร้านขนมทุกครั้ง ทุกเมือง เพื่อนั่งพัก กินขนมเเละจดบันทึกค่ะ ตอนหน้าเราไปต่อกันอีกนิด ก่อนจะย้ายเมืองกันค่ะ |
เรียมเจ้าขา
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 144 คน [?] " เรียมเจ้าขา หรือ เก๋ค่ะ " เขียน blog จริงจัง ปลายปี 2555 Blog นี้ก็จะรวมสิ่งที่ชอบในชีวิต และเรื่องที่อยากแบ่งปันทั้งเรื่อง ลูกสาวน้องกล้วยหอม,เรื่องเรียน ต่อเยอรมนี,Beauty, Skin care,แฟชั่นสิ่งทอ,ท่องเที่ยว และก็ตะลอนชิม ค่ะ ก็ขีดๆเขียนๆข้อมูลต่างๆเอาไว้ และแชร์เผื่อจะเป็นประโยชน์ กับท่านอื่นๆด้วยนะคะ contact me : http://www.facebook.com/kimmyandmais http://instagram.com/sasimamai ss.suksawang@จีเมล์ดอทคอม อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายรูป * Canon EOS 600D, * Canon EF-S 15-85mm f3.5-5.6 IS USM - Sigma 70mm F/2.8 DG Macro - Canon EF-S 18-55mm 1:3.5-5.6 IS - Canon EF-S 55-250 mm./4-5.6 IS * Ipad 3 * Olympus compact camera.
|