ฉันเปิดบัญชีฝากประจำและออมทรัพย์กับธนาคารHSBCมาเป็นเวลากว่า 9 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยแต่งงานใหม่ๆและใช้ชีวิตอยู่ที่ฮ่องกง เป็นเงินฝากที่ได้จากการทำงานที่นั่นตลอดระยะเวลาสองปีครึ่งที่ฉันอยู่ พอตาอ้วนได้รับคำสั่งย้ายกลับมาญี่ปุ่น ฉันและตาอ้วนก็ยังไม่ปิดบัญชี ฝากเอาไว้อยู่อย่างนั้น มีแต่ตาอ้วนที่ยามขัดสนแอบถอนจากบัญชีตัวเองบ้าง โดยปิดไม่ให้เมียรู้ (แต่ก็รู้ว่ะ) ส่วนบัญชีpower vantageของฉันๆไม่เคยไปแตะต้องมันเลย

จริงๆเงินฝากมันก็ไม่ได้มากมาย ตอนแรกตั้งใจจะฝากไปเรื่อยๆ ไม่ไปทำอะไรกับมันจะ20-30ปีก็ฝากไป เพราะไม่จำเป็นต้องใช้เงินทำอะไร บวกกับจำนวนเงินน้อยนิด เบิกมาก็คงทำอะไรไม่ได้มาก แต่...ตอนนี้เริ่มปวดหัวกับบัญชีนี้แล้ว

เริ่มจาก HSBC สาขาญี่ปุ่นไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย การทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆต้องติดต่อโดยตรงกับHSBCที่ฮ่องกงเท่านั้น ตาอ้วนเสียเงินค่าโทรศัพท์ข้ามประเทศมาหลายครั้ง เพียงแค่ขอเปลี่ยนที่อยู่บนจดหมายที่ทางHSBCแจ้งอัพเดทยอดเงินฝากทุกเดือนส่งจากฮ่องกงมาญี่ปุ่น เริ่มตุ่ยๆกับความไม่คล่องตัวในการทำธุรกรรมแล้ว

มาเจอค่าเงินดอลล่าร์ฮ่องกงลดอีก จากที่ฉันเคยฝาก 1 ฮ่องกงดอลล่าร์ประมาณ 5.50 บาท คราวนี้มันลดเหลือเพียง 4 บาทกว่า ถือว่าเจ็บตัวมากๆ เพราะจากยอด 7 หลักต้นๆบาทไทย มันถอยกรูดลงมาเหลือเกือบๆไม่ถึง 7 หลักดี เงินหยวนจีนก็แข็งได้แข็งดี แต่ทำไมดอลล่าร์ฮ่องกงอ่อนปวกเปียกแบบนี้ โอ้ว...พระเจ้า ต่อให้ได้ดอกเบี้ยมาตลอด 6 ปีที่ย้ายมาญี่ปุ่น ก็ยังขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนแดดิ้น

ปวดหมองเรื่องต่อมา คือ ดอกเบี้ยถอยกรูด จากที่เคยได้ร้อยละ 2.5 ล่าสุดจดหมายร่อนมาถึงบ้าน อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.010000% เอามีดมาปาดคอฆ่ากันเลยดีกว่า แต่ก่อนแต่ละเดือนดอกเบี้ยเคยได้ 200 กว่าเหรียญ ตอนนี้....0.95 เหรียญ / เดือน ฮือๆๆๆๆ

เริื่องรันทดเรื่องสุดท้าย ฉันฝากเป็นHK dollar และUS dollar อย่างละครึ่ง ซึ่งแต่ละเดือนทางHSBCจะconvert US dollarเป็น HK dollar แล้วแจ้งยอดมา กลายเป็นว่าอัตราแลกเปลี่ยนมีขึ้นมีลง บางเดือนเงินฝากเยอะขึ้น แต่เดือนต่อมาขนาดรวมดอกเบี้ยที่ได้แล้ว ยอดเงินฝากกับลดลง ปวดหัวเวียนเฮดมาก....

ฉันจะทำยังไงกับบัญชีนี้ดี

1. ปล่อยมันไว้แบบนี้ ไหนๆก็ฝากมาได้ 9 ปี ก็ฝากต่อไปอีกสัก 5-10 ปี เผื่อตอนนั้นเศรษฐกิจฮ่องกงดี HK dollarขึ้นพรวดๆ ดอกเบี้ยสูงเย้ยฟ้าท้าดิน

2. บินไปฮ่องกง ปิดบัญชีมันซะ แลกเงินเป็นเยน แล้วฝากธนาคารญี่ปุ่น ยอมกินดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า แต่อัตราแลกเงินไม่ผันผวนมาก

3. บินไปฮ่องกง ปิดบัญชี แล้วเอาเงินฝากธนาคารไทย ได้ดอกเบี้ยดีกว่า แต่วันดีคืนดีเกิดการประท้วง ค่าเงินบาทก็ถอยกรูดๆ

4. ถอนเงินเอาไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการซื้อผ่อนคอนโดให้คนเช่า แบบที่เป็นธุรกิจกำลังบูมที่เมืองไทยตอนนี้

ใครมีคำแนะนำอะไรดีๆบ้างมั้ยน้า...ปวดหัวกับบัญชีนี้มานาน จนเลิกปวดแล้ว... นี่แหล่ะน้า สุภาษิตไทยเค้าว่าไว้ "มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหว"

Create Date : 10 มิถุนายน 2552
Last Update : 13 มิถุนายน 2552 7:44:34 น.		0 comments
Counter : 1558 Pageviews.
Share Tweet