การเทรดเปรียบเสมือนการจับปลา
1.การเลือกคู่เงิน = เลือกปลา
2.วิธีการ,ระบบ = อปุกรณ์ที่ใช้
3. การบริหารหน้าตัก(mm) = เรือ,แผนที่
____

1.เลือกปลา คำถามโลกแตก เทรดคู่ไหนดี เลือกปลาที่เรารู้จักดี คุ้นเคย หรือถ้าไม่เคยเลยเบื้องต้นควรเลือกด้วยความสนใจ ยกตัวอย่าง GBPUSD เรียกสั้นๆว่า gu ผมเทรดคู่เงินนี้มาร่วม 3 ปี อุปนิสัยเด่นปลาตัวนี้ก็คือ เร็ว,แรง โดนใจ 07.00-13.00น จะไม่ค่อยมีปลาให้จับครับนิ่งเลย ช่วง 13.00-18.00 น. ตลาดจะเริ่มเคลื่อนไหวมีปลาให้จับพอสมควร ช่วง 19.00-22.00 น. จะเป็นช่วงพีค ปลาชุกชุมมาก 22.00-23.00น. ช่วงนี้เตรียมพร้อมเลิกเทรดได้แล้วฮะ 23.00-06.59น. เป็นช่วงนี้ปลาหลับกันหมดแล้ว (ประสบการณ์ส่วนตัวนะ) ดังนั้นช่วงที่ผมจะจับปลาผมก็จะเริ่ม 07.00-23.00น. เลย คือ ครอบคลุมโซนเวลา ภาษิตไทยบอกว่า อย่าพยายามจับปลาสองมือ เพราะมันจะไมไ่ด้สักมือ ผมเห็นด้วยครับ ผมเลยเลือกที่จะฝึกจับปลาชนิดเดียวให้เก่งไปเลยดีกว่า

2.อุปกรณ์ที่ใช้ - คำถามโลกแตกอีกเช่นกัน เทรดแบบไหน อินดี้อะไร จะสั้นจะ ยาว ดี ข้อนี้ไม่มีคำตอบตายตัวหรอกครับ คุณจะต้องค้นหาตัวคุณเอง เทคนิค,วิธีการ,ระบบ มีแจก มีสอนกันเกลื่อนกลาด ลองทำความเข้าใจถึงจุดประสงค์ของระบบนั้นๆ สร้างสรรค์ต่อยอด คุณจะคิดขึ้นมาเองก็ได้ อาจจะเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ของตัวเอง หรือ ให้เข้ากับปลาที่จะจับครับ แต่อย่ามัวหานานเกินไปละมันจะทำให้คุณหมกหมุ่น ไม่ก้าวไปไหน เลือกสักเทคนิคนึง อุปกรณ์สักชิ้นก็พอ

3. เรือ,แผนที่ - เลือกปลาแล้ว,อุปกรณ์มี มาถึงสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือ เรือ กับ แผนที่ เพราะคุณจะต้องรู้เรือของตัวเองว่าแล่นได้นานแค่ไหน รู้จักทิศทาง การบริหารหน้าตัก money management เปรียบเสมือนสิ่งนั้นครับ
สิ่งแรกที่จะแนะนำเลย "อย่ามองเป็นตัวเงิน" ฉันจะเอากำไร 200$ ฉันจะเอากำไร 500$ การกระทำอย่างนั้นจะเป็นการปลูกฝังนิสัยที่ไม่ดีครับ เพราะ ถ้ามัวยึดติดกับตัวเงิน คุณจะก้าวต่อไปไม่ได้ ตัวอย่าง บาล้าน 100$ แต่บอกว่าคุณอยากได้กำไร 200$ ต่อวัน ....200% เหนื่อยนะ กลับกัน ถ้ามีบาล้าน100,000us คุณบอกขอแค่ 200$ ต่อวันพอ แท้จริงแล้วคุณอาจจะทำได้มากกว่านั้นก็ได้ กลายเป็นตัวคุณเองที่ปิดกั้นโอกาสการสร้างกำไรที่มากขึ้น อีกประการที่ไม่ควรมองผลกำไรเป็นเงินคือ บางคนสามารถเทรดเงินน้อยๆได้อย่างสวยงาม พอร์ตฉัน 100 บัญชีเซนต์ โอ้ย ฉันเทรดสบายๆ กำไรต่อเนื่องเป็นปี พอขยับมาเป็นพอร์ตสัก 2000$ ผลลัพธ์คือ ..... ทำกำไรไม่ได้เลย ไม่กล้าเทรด เลวร้ายสุดก็น่าจะล้างพอร์ตก็เพราะที่ผ่านมาเขาคิดว่าเงินมันน้อยไงครับ กลับอีกเช่นกัน ถ้าคุณมองการเทรดเป็น point/pip ไม่ว่าพอร์ตจะหลักไหนคุณก็สามารถเทรดได้ทั้งนั้น โดยที่คุณไม่ต้องเปลี่ยนทัศนคติ

*ฉะนั้นแก้นิสัยตั้งแต่วันนี้มองพอร์ตให้เป็น point/pip (จะอธิบายเป็นจุดเพราะคนส่วนใหญ่เทรดทศนิยม 5 หลัก) มาลงลึกเรื่องถัดไปกัน

รู้จักเรือของคุณ เนื่องจากการ mm มีหลายรูปแบบ วันนี้ผมจะนำตัวอย่างวิธีการที่ผมใช้จริงมาบอกเล่า ยกตัวอย่าง ผมมีทุน 2แสนบาท / เลทus33 = 200,000/33= บาล้าน 6060$ ผมคำนวณให้พอร์ตนี่สามารถเทรดได้ 20,000 จุด
นำ 6,060/20,000 = 0.3 นี่คือ lot size ที่ผมจะใช้เทรดตามปกติ หมายความว่า หากผมจะล้างพอร์ต ผมจะต้องผิดทาง 2หมื่นจุด (ไอโง่ที่ไหนจะผิดทาง2หมื่นจุด) หลักการมันก็ง่ายๆแบบนี้ละฮะ ง่ายแต่มีประสิทธิภาพ หากอยากให้เซฟขึ้นอีก ก็ คำนวณเลยจะหาร 30,000 , 40,000 หรือ 1 แสนจุด แต่ผลกำไรที่ได้รับก็จะน้อยตามไปด้วย (low risk low return) ฉะนั้นเอาให้เหมาะสมแก่ความพึงพอใจละกัน

*เบรค ก่อนออกเรือเช็คพยากรณ์อากาศรายวัน อย่าประมาทกับข่าวหา เว็ปประจำไว้เช็คด้วย จะได้เตรียมพร้อมล่วงหน้าได้ ว่าช่วงไหนจะมีคลื่นลมแรง (โต้คลื่นหนุกหนาน)

***tip นี่เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยนำเสนอที่ไหน แล้วก็ไม่เห็นคนส่วนใหญ่ทำกัน
เทคนิคผมอีกหนึ่งอย่างคือการแบ่งเก็บเงิน ผมรู้ดีว่าการเทรดของผมมี max drawdown (อัตราการขาดทุนสูงสุด) กับ win rate เท่าไหร่ ยกตัวอย่าง max dd ผม 5% หมายความว่า ก่อนที่ผมจะเทรดแล้วทำให้พอร์ตมาเป็นบวก ผมอาจจะต้องเจอ การขาดทุนติดกันหลายๆครั้ง รวมกันแล้วพอร์ตลบไป 5% ยกตัวอย่างอีก ผมมีเงิน 100 บาท ผมจะขาดทุนเยอะที่สุดในวันนั้น 5 บาท เหลือ 95 บาททำทุนก่อนจะมีกำไร บาล้าน 6,060 บาท ผมใช้ lot 0.3 ผมจะเก็บ 65% ของเงินทุนเอาไว้ (ถอนออก) 6,060-65% = 3,960$ (13,000จุด) โดยนำมาใช้เทรดจริง 35% (7,000จุด)แต่ใช้ lot size สูงสุดที่คำนวณไว้ 0.3 มาเทรด สาเหตุเพราะผมไม่มีความจำเป็นต้องนำเงินทั้งหมดมาแช่เอาไว้ที่จุดเดียวเอาไปต่อยอดทำอย่างอื่น หมุนธุรกิจ เก็บไว้ยามฉุกเฉิน (แต่จะพยายามไม่ใช้ออกไป) กรณีหากขาดทุนติดต่อกันไปถึง 35% เราก็ค่อยแบ่ง 65%ที่เก็บเอาไว้มาทยอยใส่ได้

เทคนิคการแบ่งเงินด้านล่างนี้ไม่เหมาะกับคนที่พึ่งฝึกเทรด หรือยังไม่รู้สถิติของตัวเองนะครับ

*** ถ้าคุณมีองค์ประกอบ 3 อย่างนี้ทำตามอย่างเคร่งครัดแล้วละก็ คุณสามารถอยู่รอดในตลาดแห่งนี้ และมีกำไรอย่างยั่งยืนได้่แน่นอนครับ

ไม่ต้องรู้ดีทุกเรื่อง รู้เฉพาะเรื่องของเราก็พอ อ่านเพิ่มเติม...
Cr:FB