เปิดประเดิมการเขียน Blog ครั้งแรกด้วยคำว่า "ขึ้นคาน"
คำว่า ขึ้นคาน เป็นสำนวนหมายความถึง ผู้หญิงที่มีอายุมากจนเลยวัยสาวรุ่นแล้วยังไม่ยอมออกเรือนหรือแต่งงานไป เป็นคำที่มีนัยในเชิงตำหนิ เพราะในความเชื่อของไทยตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว ผู้หญิงจะต้องมีผู้ชายไว้คอยปกป้องดูแล เป็นผู้นำในครอบครัว (ช่างดูเป็นการเหยียดเพศพอสมควรเลยทีเดียว)
ครั้งอดีต วิถีไทยใกล้ชิดแม่น้ำลำคลอง บ้านเรือนส่วนใหญ่หันหน้าหาสายน้ำมีเรือเป็นพาหนะสำคัญพาสัญจรไปมา ครั้นเมื่อใช้นานเข้าเรือมีอันเกิดชำรุดเสียหายต้องซ่อม ยามจะซ่อมต้องยกขึ้นมาบนบกซึ่งทำที่รับเรือรอไว้แล้ว ที่รับเรือนั้นเรียกว่า "คาน"
อาศัยอรรถาธิบายจากขุนวิจิตรมาตรา ปราชญ์ภาษาไทย ท่านว่า สำนวน "ขึ้นคาน" มาจากเรียกเรือที่ยกขึ้นพาดไว้บนคานเพื่อซ่อมรอยรั่ว ยาชัน ทาน้ำมันใหม่ ในตอนนั้นเรือใช้ประโยชน์ไม่ได้ ค้างเติ่งอยู่บนคาน เรียกว่าขึ้นคาน
ต่อมาจึงนำคำว่า ขึ้นคาน เป็นสำนวนเรียกสตรีผู้ถึงวัยมีลูกมีผัวแล้วแต่ยังเล่นเนื้อเล่นตัว ไม่ยอมตกร่องปล่องชิ้นมีคู่เสียที จึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับเรือ ถ้าเรือรั่วหรือชำรุดเสียหาย เจ้าของนำขึ้นมาซ่อมบนบก ก็ต้องทำคานสำหรับรองเรือไว้ เรือที่ขึ้นคานจึงอยู่ห่างน้ำ เมื่อเรือห่างน้ำก็เหมือนเสือห่างป่าจะมีคุณค่าอันใดคนไทยแต่โบราณ จึงนำเอาคำว่าขึ้นคานมานิยามหญิงที่ยังไม่แต่งงานจนล่วงเลยวัยสาวไปแล้วนั่นเอง
(อ้างอิงจาก //guru.sanook.com/8926/)
ภาษาอังกฤษ หลายคนกลับเรียกว่า spinster /ˈspɪnstə $ -ər/ อ่านว่า สปินสเต้อร์ หมายถึง หญิงแก่ที่ไม่แต่งงาน ยังโสด ดูเป็นความหมายไปในทางลบมากๆเลย เพราะคำๆนี้หมายถึงผู้หญิงแก่ที่ไม่สวยหรือนิสัยไม่ดี เลยไม่มีใครอยากจะแต่งงานด้วย
แต่มาดูคำที่ใช้เรียกผู้ชายโสดกันบ้าง ในภาษาอังกฤษ เขาจะเรียกว่า bachelor ˈ/bætʃələ $ -ər/ อ่านว่า แบชเชอเล่อร์ หมายถึง ผู้ชายที่ไม่เคยแต่งงานมาก่อน และยังเป็นโสดอยู่ อีกความหมายนึงของคำนี้ หมายถึง บัณฑิต หรือหมายถึงปริญญาตรีนั่นเอง เช่น Bachelor Degree
ช่างดูแตกต่างกับฝ่ายหญิงเสียเหลือเกิน ยิ่งเป็นการยืนยันว่า สิทธิของผู้หญิงไม่เทียบเท่ากับผู้ชายมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลมาแล้ว
ดังนั้นจึงขอสนับสนุนไม่ให้ใช้คำทั้ง 2 คำนี้ เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิงจนเกินไป แต่ควรจะหันกลับมาใช้คำะรรมดาๆ คือคำว่า single /ˈsɪŋɡəl/ อ่านว่า ซิ้งเกิล แปลว่า โสด หรือ unmarried /ˌʌnˈmærid/ อ่านว่า อันแมริด ที่แปลว่า ไม่แต่งงานแทนจะดีกว่า
เพราะชีวิตครอบครัวก็เหมือนว่าคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า การแต่งงานหรือมีคู่ ก็เหมือนการซื้อลอตเตอรี่ ไม่รู้ว่าใบที่ได้มานั้นจะได้รางวัลหรือเป็นใบที่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
ปัจจุบันทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างคิดว่าอยู่คนเดียวก็สบายใจดี เป็นอิสระ ไม่ต้องทะเลาะ ไม่ต้องวุ่นวาย ซึ่งก็นานาจิตตัง ถ้าแก้ไขเรื่องความเหงาได้ โดยมีกลุ่มเพื่อนหรือกิจกรรมต่างๆทำ มีเงินเก็บไว้ยามชราเพื่อรักษาตัวเองในอนคตให้อยู่รอดปลอดภัย ก็จะเรียกว่า โสดแบบมีความสุข เพราะคนที่มีลูก หลาน มีครอบครัวก็ใช่ว่าพวกเขาจะมาดูแลเราได้เสมอไป ดังนั้น อัตตาหิ อัตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ
--- Either Single or Married can be live on earth with the happiness ---
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2559 15:43:44 น. |
Counter : 939 Pageviews. |
|
|
|