<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
15 ธันวาคม 2556

Review : Nokia Lumia 1520 ถึงเวลาแฟบเล็ต 6 นิ้ววินโดวส์โฟน 8



       หลังจากตลาดสมาร์ทโฟนตระกูล Lumia วินโดวส์โฟน 8 เริ่มทำตลาดมาได้สักระยะ วันนี้โนเกียและไมโครซอฟท์ขอเติมเต็มช่องว่างตลาดสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ต ด้วยการคลอดแฟบเล็ต (Phablet) Nokia Lumia 1520 ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ 6 นิ้วมาลงตลาดแข่งขันกับแอนดรอยด์บ้าง

       แน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกของโนเกียและไมโครซอฟท์ที่นำระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 8 มาใส่ในแฟบเล็ตพร้อมความละเอียดหน้าจอ 1080p และหน่วยประมวลผล Snapdragon 800 ที่สร้างชื่อจากตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มาร่วมปี

       วันนี้ถึงคิวของโนเกียกับครั้งแรกของ Lumia ที่มีสเปกไฮเอนด์แท้ๆ จะน่าสนใจเพียงไรติดตามอ่านได้ในบทความรีวิวนี้

การออกแบบ



       ถึงแม้ Lumia 1520 จะจัดอยู่ในหมวดหมู่แฟบเล็ต เพราะมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว (ความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล 368ppi) แต่รูปทรงการออกแบบโนเกียยังเลือกใช้วัสดุแบบเดียวกับ Lumia 1020 เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ IPS Corning Gorilla Glass 2 หรือแม้แต่วัสดุแบบพลาสติกโพลีคาร์บอเนต (รุ่นที่ได้รับมาทดสอบเป็นสีเหลืองด้าน)

       โดยสเปกของหน้าจออื่นๆ มาพร้อมเทคโนโลยีการแสดงผล ClearBlack อัตรารีเฟรซ 60Hz หน้าจอเป็น Super sensitive touch แบบเดียวกับ 1020 และสามารถเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อให้หน้าจอติดได้โดยไม่ต้องกดปุ่ม




       ด้านกล้องหน้าจะมีความละเอียด 1,280x960 พิกเซล และปุ่มคำสั่งบริเวณด้านล่างทั้ง ปุ่มคำสั่งย้อนกลับ โฮม และปุ่มค้นหาจะเป็นแบบ Touch Sensitive โดยจะมีไฟส่องสว่างด้านล่างเมื่อกดปุ่มคำสั่งทุกครั้ง

       ในส่วนขนาดของตัวเครื่อง ด้านยาวจะมีขนาด 162.8 มิลลิเมตร กว้าง 85.4 มิลลิเมตร หนา 8.7 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวเครื่องรวมแบตเตอรีอยู่ที่ 209 กรัม



       ด้านหลังจะเป็นที่อยู่ของกล้องดิจิตอลความละเอียด 20 ล้านพิกเซลบนเทคโนโลยี PureView เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.5 นิ้ว และเลนส์กล้องที่มาพร้อมค่ารูรับแสง f2.4 จาก Carl Zeiss พร้อมไฟแฟลชสองดวง (Dual LED Flash) สามารถถ่ายภาพคุณภาพ RAW File (DNG Format) ได้ผ่านซอฟต์แวร์ Nokia Camera



       มาถึงปุ่มคำสั่งรอบตัวเครื่อง เริ่มจากด้านซ้ายของเครื่องประกอบด้วย (จากซ้ายของภาพ) ปุ่มชัตเตอร์และเรียกใช้งานกล้อง โดยระหว่างเครื่องอยู่ในสถานะ Sleep สามารถกดค้างเพื่อเรียกกล้องถ่ายภาพได้ทันที ถัดไปเป็นปุ่มเปิด-ปิด Sleep/Awake เครื่อง และสุดท้ายปุ่มสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวสุดคือ ปุ่มเพ่ิมลดระดับเสียง




มาดูที่ด้านซ้ายของเครื่องจะไม่มีปุ่มคำสั่งใดๆ นอกจากช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบ Nano Sim เท่านั้นและช่องใส่การ์ดความจำ MicroSD (รองรับความจุสูงสุด 64GB)




       ส่วนด้านบนและล่างของ Lumia 1520 จะมีเพียงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและไมโครยูเอสบีเท่านั้น และถ้าสังเกตใต้ช่องไมโครยูเอสบีลงไป จะเห็นช่องลำโพงกระจายเสียงที่โนเกียตั้งใจออกแบบให้เวลาวางเครื่องลงกับโต๊ะ เสียงจากลำโพงสามารถสะท้อนได้



       ในส่วนหูฟังพร้อมไมโครโฟนที่แถมมาให้กับเครื่องจะเป็นแบบ in-ear พร้อมยาง Ear buds หลากหลายขนาด



       และสำหรับผู้อ่านที่คาใจเรื่องขนาดเครื่องที่ใหญ่โตว่าจะสามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้หรือไม่ ผมได้ทดสอบกับกางเกงยีนส์ที่ผมใส่ประจำพบว่า เมื่อ Lumia 1520 ใส่ลงในกระเป๋ากางเกงแล้วจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่จนเกือบเลยขอบกระเป๋ากางเกงออกมา ส่วนการใส่ในแนวขวางถือว่าทำได้ลำบากต้องใช้แรงยัดลงไปหน่อย

       แต่ก็ยังดีครับที่ตัวเครื่องมีความหนาไม่มาก ทำให้เมื่อนำเครื่องใส่ลงในกระเป๋ากางเกงแล้วยังสามารถใส่สิ่งของอื่นๆ ในกระเป๋ากางเกงได้อีก แต่อาจรู้สึกรำคาญในความยาวของตัวเครื่องที่มักไปค้ำกระเป๋าเวลานั่งกับเก้าอี้

       คนที่ไม่ถนัดคงต้องอาศัยการปรับตัวสักระยะครับ...

สเปก



       มาดูในส่วนสเปก เริ่มจากหน่วยประมวลผล (ซีพียู) ที่ถือเป็นครั้งแรกของวินโดวส์โฟนที่เลือกใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 800 แบบ 4 คอร์ที่ความเร็ว 2.2GHz พร้อมแรมขนาด 2GB และหน่วยเก็บข้อมูลภายในมีมาให้ถึง 32GB (ใช้จริงได้ประมาณ 24-29GB) พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน SkyDrive ฟรี 7GB



       ด้านแบตเตอรี จากที่ทีมงานเคยบ่นเรื่องแบตฯ ก้อนเล็กและระบบปฏิบัติการจัดการพลังงานไม่ดีไปในรีวิว Lumia 1020 และ 920 มาใน Lumia 1520 โนเกียเลยจัดเต็มแบตเตอรีก้อนใหญ่ 3,400 mAh พร้อมปรับปรุงเรื่องการบริโภคพลังงานใหม่ในระบบปฏิบัติการ Lumia Black ทำให้ตัวเครื่องสามารถสแตนบายได้นานสุด 1 เดือน สามารถสนทนาผ่านระบบ 2G ได้ 1 วันเต็ม ส่วนการใช้งานอินเตอร์เน็ต 3G/4G แบบหนักหน่วง เช่น เปิดใช้งานแผนที่ Here Drive+ สำหรับใช้นำทางไปต่างจังหวัดถึง 2-3 ชั่วโมงเต็ม พร้อมนำไปเล่นเกมต่อเนื่องถึง 1 ชั่วโมงก่อนจะจบวันด้วยการท่องเว็บบราวเซอร์ เล่นโซเชียลอีกพักใหญ่ พบว่าตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ยาวนาน 13-14 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อแบตเตอรีต่ำกว่า 20% แนะนำให้ผู้ใช้เปิดฟังก์ชัน Battery Saver ทิ้งไว้จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกหลายชั่วโมงทีเดียว

       ในส่วนการเชื่อมต่อเครือข่ายเน็ตเวิร์ก เริ่มจาก 3G รองรับคลื่นความถี่ 850/900/1,900/2,100MHz (AIS, DTAC, True-H รองรับทั้งหมด) ส่วน 4G LTE สำหรับประเทศไทยรองรับทั้งของ TrueMove H 2,100MHz และ 1,800MHz ที่จะเริ่มประมูลกันในอนาคตแน่นอน

       มาถึงเรื่อง Wireless LAN รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11 a/b/g/n/ac ส่วนบลูทูธรองรับรุ่น 4.0 พร้อม NFC และ GPS รองรับ A-GPS GLONASS

ฟีเจอร์เด่น




       Nokia Lumia 1520 ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 8 อัปเดตใหม่ในชื่อ Lumia Black (GDR3) โดยสิ่งที่ปรับเปลี่ยนสิ่งแรกที่สัมผัสได้ทันทีหลังปลดล็อกหน้าจอก็คือ Live Tile ที่สามารถแสดงไอคอนได้สูงสุด 6 แถวพร้อมพื้นที่แสดงผลในหนึ่งหน้าจอที่ยาวขึ้นตามความละเอียดหน้าจอ 1080p

       นอกจากนั้นจากเดิมนส่วน Multi-tasking จะไม่สามารถปิดแอปฯ ที่เปิดค้างไว้ได้ ใน Lumia Black จะสามารถปิดแอปพลิเคชันที่ค้างอยู่ใน Multi-tasking ได้แล้ว



       ในส่วนของ Glance Screen ที่จะปรากฏขึ้นหลังจากล็อกหน้าจอไปแล้วหรือช่วงเวลาชาร์จแบตเตอรีเพื่อเป็นอีกหนึ่งหน้าจอแจ้งเตือน สำหรับใน Lumia Black OS จะสามารถโชว์แจ้งเตือนได้หลากหลายขึ้น รวมถีงสามารถเปลี่ยนสีข้อความในโหมดกลางคืนได้หลายสีขึ้น





       มาในส่วนของหน้าจอที่มีความละเอียดสูงถึง 1080p กับอัปเดต Lumia Black ที่รองรับความละเอียดนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากส่วนของ Tile จะเพิ่มเป็น 6 แถวแล้ว ในส่วนของ Galley (Photos) เองก็ปรับเปลี่ยน Layout ใหม่ให้เห็นอัลบั้มภาพได้มากขึ้น

       แต่ในส่วนของแอปฯ จากสโตร์เมื่อนำมาแสดงผลผ่านหน้าจอ 1080p ของ Lumia 1520 กับพบปัญหาในบางแอปพลิเคชัน เช่น Facebook และเกมบางเกมที่เวลาแสดงผลผ่านหน้าจอ Lumia 1520 แล้วภาพไม่คมชัด ซึ่งตรงนี้คาดว่าจะเป็นปัญหามาจากแอปฯ และเกมเหล่านั้นอาจยังไม่รองรับหน้าจอความละเอียดสูงของ Lumia 1520



       สำหรับการปรับปรุงอื่นๆ จะเน้นเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้วินโดวส์โฟน 8 สมบูรณ์แบบเหมือนคู่แข่งมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการเพิ่มฟีเจอร์ล็อกหน้าจอไม่ให้หมุนตามเครื่องหรือการเพิ่ม Driving Mode ที่สามารถตั้งเงื่อนไขการรับโทรศัพท์หรือ ข้อความเวลาที่ผู้ใช้ขับรถอยู่ โดยระบบจะปรับเข้าสู่ Driving Mode ให้อัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อบลูทูธกับรถยนต์



       จบเรื่องสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปบนอัปเดตใหม่ Lumia Black ไปแล้ว ทีนี้มาถึงฟีเจอร์เด่นใหม่ที่มีเฉพาะโนเกีย Lumia กันบ้าง เริ่มจาก Nokia Camera ที่พัฒนาต่อยอดจาก Nokia Pro Camera และนำโหมด Smart Camera เข้ามารวมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

       โดยใน Nokia Camera นอกจากซอฟต์แวร์จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว โนเกียยังได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของส่วนควบคุมหน่วยประมวลผลภาพใหม่ เช่น White Balance เฉดสีให้มีความเที่ยงตรงขึ้น จากเดิมในเฟริมแวร์เก่าที่ผมเคยทดสอบใน Lumia 1020 ภาพที่ได้มักติดโทนเหลือง แต่ซอฟต์แวร์กล้องใหม่นี้จะแก้ปัญหาเหล่านั้นไปหมดสิ้นรวมถึงความรวดเร็วในการประมวลผลภาพก็จัดว่าดีขึ้นอย่างน่าพอใจ




       ส่วนที่สองที่โนเกียเพิ่มเข้าไปในซอฟต์แวร์กล้องก็คือ รองรับการถ่ายภาพด้วยคุณภาพไฟล์ RAW นามสกุล DNG ที่สามารถนำไปต่อยอดตกแต่งผ่านซอฟต์แวร์เฉพาะทางของช่างภาพอาชีพ เช่น Aperture, Lightroom, Capture One ได้ยืดหยุ่นกว่าไฟล์ JPEG ทั่วไป โดยขนาดไฟล์ DNG (RAW) ที่ความละเอียดสูงสุด 19 ล้านพิกเซลจะอยู่ที่ 23-24MB ส่วน JPEG File จะอยู่ที่ 1.4-1.5MB (ขนาดภาพ 5 ล้านพิกเซล) ซึ่งด้วยขนาดไฟล์ RAW ที่ใหญ่ระดับนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่โนเกียจะเพิ่มช่องอัปเกรดความจุด้วย MicroSD มาให้



       มาถึงจุดเด่นต่อไปกับ Nokia Beamer ที่ใช้หลักการทำงานเดียวกับพวก DLNA หรือ AirPlay บน Apple Device กล่าวคือระบบ Beamer จะช่วยดึงภาพจากหน้าจอ Lumia 1520 ไปสู่หน้าจอของสมาร์ทดีไวซ์และทีวี แต่หลักการทำงานจะแตกต่างจากระบบทั่วไปที่ส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้สาย HDMI หรือใช้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดึงสัญญาณภาพไร้สายผ่าน Network ซึ่งมีความยุ่งยากซับซ้อนและจำกัดอยู่แค่ในห้องๆ หนึ่ง




       แต่สำหรับ Nokia Beamer จะใช้วิธีนำสัญญาณภาพจากหน้าจอ Lumia ทั้งหมดแปลงเป็นโค้ดยิงผ่านสัญญาณ WiFi/3G/4G ออกไปสู่ Server ของโนเกีย และเพียงผู้ใช้สมาร์ทดีไวซ์ใดๆ (ทุกระบบปฏิบัติการ) ที่มีเว็บบราวเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น IE, FireFox, Google Chrome, Safari หรือบราวเซอร์บนสมาร์ททีวีที่รองรับ HTML5 จากนั้นพิมพ์ beam.nokia.com ที่ยูอาร์แอล กด Enter เว็บจะแสดง QR Code จากนั้นที่สมาร์ทโฟน Lumia ที่เข้าใช้งาน Nokia Beamer อยู่ให้เลือก Share nearby แล้วนำกล้องหลังไปส่องที่ QR Code ซึ่งเมื่อเขย่าเครื่องที่หน้าใดก็ตามใน Lumia ภาพหน้านั้นจะถูกจับภาพและส่งไปยังหน้าจอสมาร์ทดีไวซ์ทันที (ถ้าอ่านไม่เข้าใจลองชมวิดีโอด้านบนได้ครับ)




       นอกจากนั้นสำหรับผู้ใช้ Lumia ที่ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วอยากจะนำภาพเคลื่อนไหว (ไม่รองรับเสียง) มาแสดงให้เพื่อนๆ ชมผ่านโซเชียลก็สามารถทำได้โดยเลือก Share remotely > Show what you see เท่านั้น ระบบจะเปลี่ยนเป็นใช้กล้องหลังบันทึกภาพเคลื่อนไหวให้เพื่อนๆ ได้รับชมในรูปแบบวิดีโอถ่ายทอดสด



       มาดูอีกหนึ่งแอปพลิเคชันใหม่ที่เพิ่มเข้ามากับ MixRadio หรือจะเรียกว่าเป็นวิทยุออนไลน์ก็ไม่ผิด โดยหลักการทำงานของ MixRadio จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงแบบเต็มเพลงฟรีๆ โดยระบบจะเลือกเพลงจากการใส่แนวเพลงหรือศิลปินที่ชื่นชอบของผู้ใช้ จากนั้นระบบจะสุ่มเพลงที่มีแนวเดียวกับแนวเพลงหรือศิลปินที่ผู้ใช้ใส่ลงไปและเล่นให้ฟังแบบเต็มเพลงฟรีๆ คล้ายหลักการทำงานเดียวกับ iTunes Radio และ Pandora



       เพียงแต่ MixRadio จะมีเพลงไทยให้เลือกฟังด้วย โดยมีการทำกลุ่มแนวเพลงไว้ให้เลือกในส่วน Local Mixes และถ้าผู้ใช้คนใดถูกใจเพลงไหนยังสามารถซื้อเก็บในเครื่องเป็นเพลงๆ ได้ หรือถ้าเริ่มขื่นชอบ MixRadio แล้วอยากได้เวอร์ชันที่มีคุณภาพเสียงดีกว่านี้พร้อมความสามารถข้ามเพลงที่ไม่ชอบได้ไม่จำกัด (ของฟรีให้ข้ามเพลงได้ 6 เพลง) ก็สามารถเลือกจ่ายค่าสมาชิก 30 บาทต่อเดือนได้เช่นกัน



       มาถึงแอปพลิเคชัน Nokia Refocus กับแอปฯ ที่เป็นลูกเล่นสำหรับการถ่ายภาพให้มีสีสัน น่าสนใจมากขึ้น โดยหลักการทำงานก็เหมือนแอปฯ ถ่ายก่อนค่อยโฟกัสทั่วไป กล่าวคือ ภาพที่ถ่ายออกมาจะมี 3 ระยะคือ ชัดหน้า ชัดกลาง ชัดหลัง จากนั้นระบบจะรวมภาพเป็นภาพเดียวและให้ผู้ใช้สามารถกดเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการได้นั่นเอง ใครอยากรู้ว่า Refocus เป็นอย่างไรลองกดเล่นได้จากภาพด้านบนเลยครับ



       สุดท้ายกับ Story teller ที่เป็นเหมืนแอปพลิเคชันจัดการภาพถ่ายโดยจะแยกภาพตามวัน เดือน ปีที่ถ่ายพร้อมจุดเด่นคือสามารถชมรายละเอียดภาพในส่วนสถานที่ๆ ไปถ่ายหรือจะเขียนบรรยายภาพ แชร์ภาพไปให้เพื่อนพร้อมติดดาวเป็นภาพที่ชื่นชอบได้

       ก็เหมือนเป็นแอปฯ ที่ช่วยย้อนความทรงจำของเรา ยิ่งภาพใน Gallery มีมากขึ้นเท่าใด แอปฯ Story teller จะแสดงผลลัพท์ที่ยอดเยี่ยมในการย้อนความทรงจำเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ทดสอบประสิทธิภาพ



       มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพ ก็เช่นเดิมครับสำหรับ Nokia Lumia 1520 รุ่นนี้ที่มาพร้อมสเปกระดับเทพติดลมบนวินโดวส์ 8 ไปแล้ว เรื่องคะแนนผลทดสอบจาก AnTuTu ถือว่าทำคะแนนได้สูงกว่า Lumia 1020 เป็นเท่าตัว โดยผลคะแนนอยู่ที่ 25,209 คะแนน สเปกระดับนี้ไม่มีช้าไม่มีหน่วงให้รำคาญแน่นอน นี่แหละไฮเอนด์วินโดวส์ โฟน 8 ตัวจริงและตัวเดียวในตอนนี้




       ต่อมาเป็นเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องทดสอบก็คือเรื่องกล้องถ่ายภาพที่ในครั้งนี้มาพร้อม RAW File ผมก็เลยขอทดสอบ RAW ด้วยการถ่ายภาพย้อนแสงให้เสียรายละเอียดไปเยอะๆ แล้วจะมาดึงค่าแสง สี ใหม่ผ่านซอฟต์แวร์อย่าง Lightroom 5 ซึ่งผลทดสอบก็ถือว่าน่าพอใจครับ ไฟล์ RAW (DNG) ของโนเกียมีความยืดหยุ่นพอตัว แต่เมื่อซูมดูคุณภาพไฟล์จริงๆ แล้ว ผมมองว่ายังอาจไม่เท่า Lumia 1020 แต่โดยรวมก็ดีกว่าสมาร์ทโฟนกล้องเทพหลายรุ่นในตลาดตอนนี้ไปแล้ว (ครั้งก่อนผมแอบคอมเมนต์ไปในเรื่องแสงสีเพี้ยน มางวดนี้โนเกียแก้เสียดีเลย)

NokiaDNG1-1


       ให้ชมภาพใหญ่กันครับ อย่าว่าผมนะ ผมแต่งรูปนี้อาจหยาบไปนิดเพราะจุดประสงค์หลักอยากให้เห็นถึงการปรับแต่งที่ซับซ้อนว่าเจ้าไฟล์ DNG ของโนเกียนี่ก็สามารถปรับแต่งได้ละเอียดพอสมควรไม่แพ้ไฟล์ RAW ของ DSLR เลย

NokiaDNG1-2

NokiaDNG1-4

NokiaDNG1-3

WP_20131211_20_17_23_Raw


       และนี่คือคุณภาพของไฟล์ JPEG แบบดิบๆ จะเห็นว่าโนเกียจัดอัปเกรดเรื่องซอฟต์แวร์กล้องให้ตามคำขอแล้ว น่าดีใจครับสำหรับสาวก

WP_20131212_13_44_33_Raw


       ส่วนเรื่องไฟแฟลชแบบ Dual LED ก็ถือว่าทำงานได้แม่นยำให้คุณภาพที่ดีครับ อย่างภาพนี้ใช้ Fill in Flash เข้าไปจะเห็นว่าไฟแฟลชถูกเติมส่วนที่มืดได้อย่างลงตัวไร้ความแข็งกระด้างอย่างที่เคยเกิดขึ้น



       ที่นี้มาทดสอบโหมดถ่ายวิดีโอซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีบันทึกเสียง Rich Recording กันบ้าง (ในคลิปใช้ Bass Filter 100Hz) ลองดูจากวิดีโอคงไม่ต้องอธิบายผลลัพท์แล้วครับว่าเป็นอย่างไร โนเกียยังเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนด้านมัลติมีเดียอย่างแท้จริง เทพตั้งแต่รุ่นก่อนหน้าแล้วสำหรับโหมดวิดีโอ



       ส่วนคลิปนี้เป็นการเปรียบเทียบระบบกรองเสียงเบส (Bass Filter) ที่เป็นไม้ตายเด็ดใน Rich Recording ทำให้การบันทึกเสียงโทนต่ำหนักๆ แล้วไม่เกิดอาการเสียงแตกพร่ารวมถึงปรับให้เสียงมีมิติและน้ำหนัก โดยการทดสอบจะเริ่มตั้งแต่ 200Hz 100Hz (Default) และปิด Bass Filter

WP_20131211_10_41_57_Pro


       สุดท้ายมาดูเรื่องกล้องหน้ากันบ้าง จากภาพถือว่าเป็นจุดอ่อนเลยสำหรับ Lumia 1520 เพราะนอกจากภาพจะสีผิดเพี้ยนจากธรรมชาติแล้ว ขนาดแสงเยอะและไม่ได้ถ่ายย้อนแสงมาก คุณภาพภาพไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจเลย

จุดขาย

       - งานประกอบดีเช่นเดิม
       - หน้าจอคมชัด วัสดุดีมากพร้อมระบบ Boost ความสว่างเมื่อเจอแสงอาทิตย์แบบอัตโนมัติ
       - สเปกดีที่สุดในตลาดวินโดวส์ โฟน 8 ในปัจจุบัน
       - Lumia Black คือการปรับปรุงที่ดีและทำให้เห็นว่าโนเกียและไมโครซอฟท์ยังฟังเสียงผู้บริโภค จัดให้ตามต้องการเยอะมาก
       - แบตเตอรีจากจุดอ่อนในรุ่นก่อนหน้ากลายเป็นจุดขายของรุ่นนี้เลยเพราะแบตเตอรีอึดมาก
       - ไฟแฟลชน่าประทับใจ ทำงานฉลาด
       - Nokia Rich Recording สำหรับงานวิดีโอยังเทพเหมือนเดิม
       - ขยายจุดเด่นของตนเรื่องกล้องให้ยอดเยี่ยมขึ้นด้วยการรองรับ RAW File ทิ้งคู่แข่งอย่างแอนดรอยด์กล้องเทพทั้งหลายไปไกลกว่าเดิมอีก

ข้อสังเกต

       - แอปฯ ในสโตร์หลายตัวยังไม่รองรับหน้าจอ 1080p ทำให้ภาพไม่คมชัด
       - หูฟังงานประกอบพลาสติกคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร
       - ตัวเครื่องมีความร้อนสูงเมื่อใช้งานหนักๆ เช่น เล่นเกม 3 มิติ

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?

       สำหรับแฟบเล็ต Nokia Lumia 1520 กับราคา 22,900 บาท แลกกับสเปกที่แรงเหลือเฟือ เทคโนโลยีและระบบปฏิบัติการที่ปรับปรุงใหม่ ก็ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่านะครับ จากเดิมที่โนเกียเคยตั้งราคา Lumia 1020 แบบไม่อายฟ้าดิน มาในครั้งนี้โนเกียปรับราคา Lumia 1520 มาได้เหมาะสมมากเมื่อเทียบกับสเปกและฟีเจอร์ที่ได้ โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรีที่อัปเกรดมาได้ใหญ่สะใจจริงๆ

       ในส่วนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 8 หลังจากผมเคยวิจารณ์ไปเมื่อรุ่นก่อน มาในอัปเดตใหม่รวมกับอัปเดตของโนเกียแล้วใช้ชื่อ Lumia Black ก็ถือว่าไมโครซอฟท์และโนเกียปรับปรุงระบบปฏิบัติการมาได้ยอดเยี่ยมแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว Lumia Black สมบูรณ์แบบมาก ทั้งแอปฯ อำนวยความสะดวก มัลติมีเดีย กล้อง แต่ก็ไม่วายพบเจอข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเช่น ระบบอัปเดตแอปฯ ที่แจ้งเตือนช้ามากหรือบางครั้งการเคาะหน้าจอเพื่อให้เครื่องตื่นกลับกลายเป็นทำให้เครื่องรีสตาร์ทตัวเอง และที่ผมพบเจอหนักสุดก็คือเมื่อฟังเพลงจาก MixRadio ไปได้สักพักแล้วลำโพงจะดับต้องปิดและเปิดแอปฯ ใหม่ถึงหาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็คงต้องรอโนเกียและไมโครซอฟท์แก้กันต่อไป

       ใครรักใครชอบวินโดวส์ โฟน 8 วันนี้ Lumia 1520 เป็นรุ่นที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่จะเสียเงินสุดแล้วครับ เพราะทุกอย่างสดใหม่ของแท้ แต่ก็ต้องรับกับขนาดหน้าจอใหญ่ 6 นิ้วให้ได้ก่อนนะครับ เพราะไม่เช่นนั้นด้วยความใหญ่ของหน้าจอจะทำให้เกิดทุกข์ในการพกพาติดตัวมาก

ใครสนใจก็ลองดูความต้องการของตัวเองเป็นหลักก่อนครับว่าซื้อมาเพื่ออะไร ถ้าชอบถ่ายภาพ ซื้อมาถ่ายแต่รูป ถึงอย่างไร Lumia 1020 ดีที่สุดครับ ส่วนถ้าเน้นมัลติมีเดีย เล่นเกมเป็นหลัก อาจมีถ่ายรูปบ้างเป็นครั้งคราว Lumia 1520 ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ณ ปัจจุบันนี้

Company Related Link :
Nokia

CyberBiz Social




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2556
0 comments
Last Update : 15 ธันวาคม 2556 23:34:36 น.
Counter : 2898 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


hutza
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




[Add hutza's blog to your web]