ตามดูชุดอุปกรณ์ Hi-Res จากโซนี่พร้อมบุกตลาดไทย

ด้วยการที่โซนี่วางเป้าหมายเป็นผู้นำในตลาดหูฟังระดับไฮเอนด์ จึงได้มีการวางแผนพร้อมกับเตรียมผลักดันตลาดเครื่องเสียงให้ขึ้นไปอยู่ในระดับ High Resolution Audio (Hi-Res) ซึ่งจากช่วงที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นหูฟัง ในรุ่น MDR 1R จนชิงส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ทั้งในญี่ปุ่น และเกาหลี ทำให้โซนี่มองเห็นถึงแนวโน้มกลุ่มผู้บริโภคที่ยังคงหลงไหลในเสียงเพลงคุณภาพสูง และหันมากระจายการทำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

       ด้วยกลยุทธ์ในช่วงหลังของโซนี่ที่เน้นการให้ความสำคัญกับคุณภาพของเสียงให้ดียิ่งขึ้น และนำแนวคิดดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่าน 2 จุดหลักคือ มุ่งเน้นไปในกลุ่มลูกค้าที่รับฟัง และกลุ่มศิลปินที่ต้องการสื่อคุณภาพของผลงานไปยังกลุ่มผู้บริโภค จึงทำให้โซนี่ทุ่มเทกับชุดหูฟังและเครื่องเล่นเพลงแบบ Hi-Res เป็นอย่างมาก

       ทำให้ที่ผ่านมาโซนี่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดหูฟังได้ถึง 14.5% ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 รวมถึงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วย โดยจุดสำคัญของไฟล์เสียงแบบ Hi-Res ผ่านคำจำกัดความง่ายๆคือ ไฟล์เสียงที่มีคุณภาพหรือรายละเอียดมากกว่าซีดี

จากเดิมผู้บริโภคหลายๆรายอาจจะทราบว่าคุณภาพของเสียงเพลงที่อยู่ในแผ่นซีดี เมื่อถูกแปลงออกมาจะถูกบีบอัดอยู่ที่ความละเอียด 44.1kHz บนมาตรฐาน 16bit ในขณะที่เสียงเพลงที่บันทึกจากห้องอัดเสียงจะมีคุณภาพสูงถึง 192kHz บนมาตรฐาน 24 bit ทำให้ถ้ามีชุดอุปกรณ์ที่เป็น Hi-Res ก็จะสามารถฟังเสียงได้เช่นเดียวกับนั่งอยู่ในห้องอัดของศิลปินได้ทันที

สำหรับผลิตภัณฑ์ของโซนี่ ที่จะทยอยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยตลอดช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 จะประกอบไปด้วย หูฟังใรซีรีส์ MDR-1 RMK2 ที่จะแบ่งเป็นทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือแบบมีสาย (MDR-1RMK2) เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ (MDR-RMK2BT)โดยใช้ระบบ NFC และรุ่นที่มีระบบลดเสียงรบกวน (MDR-1RMK2NC) แต่จะไม่รองรับ Hi-Res

       ถัดมาก็จะเป็นหูฟังในรุ่น MFR-10R ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกมาจับตลาดระดับกลาง ที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดี แต่งบประมาณไม่ถึง ด้วยการลดวัสดุที่ใช้ซึ่งแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยเช่นเดียวกับ MDR1 RMK2 ในระดับราคา 5,990 - 7,990 บาท

       แล้วก็ยังมีหูฟังแบบอินเอียร์ในซีรีส์ XBA-H ซึ่งในรุ่น H3 จะมีความโดดเด่นที่สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ เพื่อให้สามารถนำสายที่สั่งทำพิเศษมาใช้งานร่วมกัน ในราคา 9,990 บาท ส่วนรุ่น H2 ก็จะออกแบบมาถอดเปลี่ยนสายได้เช่นเดียวกัน แต่คุณภาพเสียงยังไม่เป็น Hi-Res ในราคา 7,490 บาท เช่นเดียวกับรุ่น H1 ที่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ 4,490 บาท

       นอกจากหูฟังแล้วโซนี่ก็เตรียมที่จะวางจำหน่าย NWZ-ZX1 ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเพลงที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ซึ่งรองรับการเล่นไฟล์เพลง Hi-Res ได้ รวมถึงนามสกุลไฟล์ FLAC AIFF WA พื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB จะวางขายในกุมภาพันธ์ปี 2557 ส่วน NWZ-F880 จะเริ่มวางจำหน่ายในสัปดาห์หน้าในราคา 10,590 บาท เป็นเครื่องเล่นเพลง Hi-Res ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 หน่วยความจำภายใน 32 GB

       และยังมี PHA-2 เป็นเฮดโฟนแอมปลิไฟเออร์ ที่ช่วยขับพลังเสียงให้แก่หูฟังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์พกพาทั้ง iOS และแอนดรอยด์ มีแบตเตอรี่ภายในใช้งานได้ต่อเนื่อง 17 ชั่วโมง ในราคา 21,990 บาท สุดท้ายเป็นเครื่องบันทึกเสียงระบบ Hi-Res PCM-D100 32 GB เพิ่มไมโครเอสดีการ์ดได้

Company Relate Link :
Sony

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2556		0 comments
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2556 22:17:55 น.
Counter : 1503 Pageviews.
Share Tweet