มีนาคม 2560
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 มีนาคม 2560
 

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【หมู่เกาะสุรินทร์ & หัวใจมรกต】 ร่างกายต้องการทะเล ใจมันเซ ไปที่หมู่เกาะสุรินทร์






อาทิตย์ที่แล้วเราไปภาคเหนือแล้ว

อาทิตย์นี้เราขอลงใต้บ้าง

#ท้าเที่ยวข้ามภาคสุดๆ


10 กพ. ขับออกเดินทางจากกรุงเทพ ตั้งแต่ 4 โมงครึ่ง

ไปถึงคุระบุรี จ.พังงา ตอนตี 5 😦

เพราะถนนมีการก่อสร้างตลอดทาง 😓


แวะนอนพักที่บ้านญาติของพี่ในทริป

ตอนเช้าก็อาบน้ำ แต่งตัว เตรียมไปสัมผัส ทะเล ทะเล๊ ทะเล 🌊



:: DAY 1 ::


เดินทางไปยังท่าเรือคุระบุรี ตรงท่าเรือของอุทยาน

ตรงข้ามประตูทางเข้าท่าเรือ จะมีสำนักงานของ ซาบีน่าทัวร์อยู่





ครั้งนี้ มีเวลาเตรียมตัวน้อย เลยเลือกไปกับทัวร์น่าจะดีว่า

ทริป 3 วัน 2 คืน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5700 บาท ต่อคน

ราคานี้ รวมอาหาร 7 มื้อ เต้นท์ซาบีน่าบนเกาะ ทริปดำน้ำ อุปกรณ์ดำน้ำ (สน็อคเกิ้ล + ชูชีพ) ไกด์

เราโชคดีได้สน็อคเกิ้ลใหม่ด้วย สภาพดี ตรงที่กัดนิ่มดีด้วย แต่เสื้อชูชีพเก่าไปหน่อย

มัดจำ 1000 บาท ที่เหลือจ่ายที่สำนักงาน


หากใครไม่อยากไปทัวร์

สามารถแยกซื้อได้

เช่น

เรือไปกลับเกาะสุรินทร์ 1700 บาท

มีพวก สน็อคเกิ้ล ชูชีพ ให้เช่า จำราคาไม่ได้

แล้วยังสามารถซื้อทัวร์ดำน้ำแบบเป็นรอบๆ ได้ แต่ต้องไปดำร่วมกับคนอื่น ไม่ใช่ private tour

แถมยังมีอุปกรณ์ดำน้ำ ของกินของใช้ขายด้วย




ภายในห้องซาบีน่าทัวร์ คนเยอะมาก

เราว่าระบบจัดการยังไม่ดีเท่าไหร่

ลูกค้าเยอะ แล้วแต่ละคนไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง

ก็จะมีคนมายืนออกันอยู่หน้าเคาน์เตอร์ตลอด


วันนี้เป็นวันหยุดยาว

คนเลยค่อนข้างเยอะ

รอคิวนานมาก 😓


มาตั้งแต่ 8 โมงกว่าๆ แต่ได้ของกับตั๋ว และใบเสร็จตอนเกือบ 9 โมงครึ่ง

เรือออกจริงๆ เกือบ 10 โมง

คนที่มารถทัวร์ ก็มาถึงช้าด้วย เพราะเส้นทางมีการก่อสร้าง




เรือทีนั่งมาเป็นสปีดโบ๊ท แบบ 4 เครื่อง

ห้องโดยสารกว้าง จุคนได้เยอะ

ก่อนขึ้นเรือ ต้องถอดรองเท้าก่อน




และเนื่องจากอ่าวที่สามารถพักได้มี 2 ที่คือ

อ่าวไม้งาม และช่องขาด


เค้าจึงมีการใช้ผ้าสีส้มและสีเขียว แบ่งคนที่จะไปพักตามอ่าวต่างๆ

- สีส้ม จะเป็นอ่าวไม้งาม

- สีเขียว จะเป็นอ่าวช่องขาด


เวลาฝากรองเท้า กับข้าวของเครื่องใช้ ก็จะมีผ้าสองสีนี้ระบุว่า ต้องไปลงที่อ่าวไหน


เรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มาถึงที่เกาะ

แต่ไม่สามารถนำเรือเข้าไปจอดหน้าหาดได้โดยตรง

ต้องไปขึ้นเรือหางยาวอีกที




ตรงจุดนี้ไกด์ทำหน้าที่ได้ดี

มีการเรียกชื่อ แบ่งกรุ๊ป ทำให้ไม่มั่ว ไม่วุ่นวาย


อ่าวไม้งาม

เป็นอ่าวที่เราได้มาพัก โดยซาบีน่าทัวร์เลือกให้ 😀555

จากจุดจอดเรือ เราต้องรอรองเท้า กับสัมภาระอีกแป๊บนึง






จากนั้นก็แบกสัมภาระทั้งหมด (บางทีไกด์ก็จะมาช่วยยก หรือเอารถมาช่วยขนสัมภาระให้)

เดินเข้าไปอีก 200 เมตร

จะถึงโซนที่พักของอ่าวไม้งาม






ที่นี่จะมีเฉพาะเต้นท์ ซึ่งเยอะมากกกกกก แบ่งเป็นโซนอุทยาน และโซนเอกชน

ของซาบีน่าทัวร์จะอยู่ประมาณโซน ที่ 8 แต่เราไม่แน่ใจว่ามีทั้งหมดกี่โซนนะ




ในเขตที่พักจะมี ที่ทำการอุทยาน โรงอาหาร บ้านพักจนท.

ซึ่งเต้นท์ของอุทยานจะอยู่ใกล้กับอาคารเหล่านี้

แต่หาดหน้าเต้นท์จะค่อนข้างหยาบ







ส่วนเต้นท์โซนในๆ เป็นเต้นท์เอกชน จะมีหาดนิ่ม และสวยกว่า

มีเต้นท์หลายสี หลายแบบ หลายขนาด


ถ้าพักกับเต้นท์ซาบีน่าทัวร์ เค้าจะทำการจองเต้นท์ไว้ให้ ไม่สามารถไปเลือกเองได้

ตอนจองทัวร์ให้แจ้งว่า ต้องการเต้นท์ใหญ่หน้าหาด วิวจะฟินเว่อร์ 😍

มีเบาะรองนอน ผ้าห่ม และหมอนให้





นอกจากนี้ก็ยังมีพื้นที่สำหรับกางเต้นท์ สำหรับคนที่นำเต้นท์มาเองด้วย



อ้อ ลืมบอกว่า นอนเต้นท์อากาศจะร้อนหน่อย คือ ถึงมีลม แต่ก็เข้ามาในเต้นท์ได้นิดเดียวอ่ะ

พี่เต้นท์ข้างๆ จะแอบมานอนข้างนอกเต้นท์ตอนเช้า (นอนทั้งคืนไม่ได้เพราะมียุง)

ถ้ามีพัดลม พกมาด้วยก็ดี 😊


อย่าลืมเตรียม

- ยากันยุง

- กุญแจล็อคเต้นท์ (เอาที่ไม่หนามาก เพราะซิปเต้นท์มันขนาดเท่ากับซิปกระเป๋าเอง)

- มีไม้หนีบผ้ามาก็ดี เค้ามีเชือกขึงต้นไม้ไว้ สำหรับตากผ้า

แต่ลมแรง อาจจะทำให้ผ้าปลิวได้ หรือใครจะเตรียมเชือกมาเองก็ได้ เพราะบางครั้ง มันก็ไม่พอ 555

- เสื่อ สำหรับนอนเล่นหน้าหาด

- ไฟฉาย เพราะตอนกลางคืนค่อนข้างมืด จะมีไฟอยู่แถวๆ ห้องน้ำ กับโซนอุทยานเท่านั้น

- ส่วนของใช้ส่วนตัวก็คงพอกันแล้วอยู่ เช่น ครีมกันแดด หมวก แว่นกันแดด


ส่วนห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ฝักบัวล้างตัว จะมีกระจายตามจุดต่างๆ มีเยอะพอสมควร

สภาพดีจนไม่น่าเชื่อ บางห้องเป็นแบบปูนเปลือยสมัยใหม่ 😆







ไฟฟ้าเปิดให้ใช้เป็นเวลา รู้สึกจะเป็นช่วง 6 โมงเย็นถึง 9 โมงเช้า

มีปลั๊กไฟให้ชาร์ต ที่โรงอาหาร แต่คนใช้เยอะมาก แนะนำให้เอาปลั๊กพ่วงมาเอง

แล้วเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าของเราให้เรียบร้อยก่อน จะเอาปลั๊กพ่วงไปเสียบไฟ

ไม่งั้นจะมีใครก็ไม่รู้มาใช้ปลั๊กพ่วงของเราเต็มไปหมด 😅5555




มีล็อกเกอร์ฝากของ (ล็อคเกอร์ 30 บาท มีค่าประกันกุญแจ 100 บาท)




อัตราค่าบริการต่างๆ












โรงอาหารเปิดเป็นเวลา มีอาหารตามสั่ง ขนม ของใช้ จำหน่าย

ราคาก็แพงกว่าปกติตามสไตล์ของขายบนเกาะ

กินเสร็จต้องทิ้งเศษอาหาร ขยะ และนำจานชาม ช้อนส้อมไปวางไว้ในจุดที่จัดไว้






เรามาถึงที่นี่เที่ยงพอดี

หลังเอาของไปเก็บที่เต้นท์ ก็มากินข้าวกลางวันที่ทางทัวร์เตรียมไว้ให้


เป็นแบบบุฟเฟต์ กับข้าว 4-5 อย่าง ผลไม้ เจอแต่สัปปะรดทุกวันเลย

ไก่ทอดอร่อยดี ส่วนเมนูอื่นๆ ธรรมดา

และจะเป็นเมนูแบบนี้ซ้ำๆ มีเปลี่ยนแค่บางอย่าง




กินข้าวเสร็จก็เตรียมตัวไปดำน้ำ

พร้อมกันที่จุดจอดเรือบ่าย 2 โมง


ดำน้ำช่วงบ่ายของวันแรก

มี 2 จุด คือ

🌊 อ่าวแม่ยาย

🌊 อ่าวช่องขาด


คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น สามารถมาเกาะไกด์ได้

เค้าจะลากไปตามที่ต่างๆ


รูปถ่าย ก็จำไม่ได้ว่านี่คืออ่าวอะไร 55





ตอนเย็นๆ น้ำลดลงเยอะมาก

ทำให้เรือไม่สามารถเข้าไปจอดที่อ่าวไม้งามได้

ต้องจอดเรือตรงบริเวณอ่าวช่องขาด

แล้วเดินต่อไปอีก 2 กิโล 😲!







ช่วงน้ำลด มันลดเยอะมาก จนสามารถมองเห็นปะการังน้ำตื้น แล้วก็ปลาตัวเล็กๆ ได้

ก็เดินศึกษาธรรมชาติบนบกกันไป




มาถึงที่พักก็อาบน้ำ คนค่อนข้างเยอะ ต้องต่อคิวอาบน้ำ

ช่วงเย็นก็มากินข้าวที่โรงอาหาร





เนื่องจากวันนี้เหนื่อยมาก ทุกคนก็หลับไปโดยไร้กิจกรรมใดๆ



:: DAY 2 ::


ตื่นเช้าประมาณ 6 โมง

ไปชาร์ตแบตก่อน ช่วงเช้าคนจะใช้งานปลั๊กน้อยมากเมื่อเทียบกับตอนเย็น




เดินชมหาดยามเช้า

น้ำทะเลลงเยอะมาก จนเห็นปะการัง แต่ส่วนมากเป็นพวกที่ตายแล้ว

ปะการังที่นี่ ถูกคลื่นสึนามิทำลายล้างไปเยอะเหมือนกัน


เราสามารถมองหาดอกไม้ทะเล และปลานีโม่ตอนน้ำลดได้ด้วย






กินข้าวเช้าตอน 7 โมง

อาหารเช้าเป็นเซตขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาว ไม่ใช่บุฟเฟต์

แต่สามารถเตรียมขนมปัง มาปิ้งได้





น้ำร้อนมีให้บริการตลอดเวลา ใครอยากประหยัดก็ซื้อมาม่ามา กินได้เช่นกัน




9 โมง เริ่มการดำน้ำ


การดำน้ำรอบเช้าของวันที่ 2

มี 2 จุด คือ

🌊 อ่าวสัปปะรด

🌊 อ่าวบอน





วันนี้ลมแรง เล่นเอาไกด์เหนื่อยเลย


ตอนกลางวัน

กลับมากินข้าวที่อ่าวไม้งาม อาหารคล้ายกับเมื่อวาน มีจุดเด่นคือไก่ทอด


มีเวลาเดินเที่ยวหน้าอ่าว ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ

ตอนกลางวัน น้ำขึ้นเต็มพื้นที่

หาดสวยมาก น้ำทะเลสีใส

จากเต้นท์ที่เราพัก เดินไม่กี่ก้าว ลงน้ำทะเลได้เลย









เวลาบ่าย 2 กลับไปดำน้ำต่อ


การดำน้ำรอบบ่ายของวันที่ 2 

มี 2 จุด คือ

🌊 อ่าวสุเทพ

🌊 อ่าวไม้งาม





ตอนเย็น

เดินเล่นที่ชายหาด






หลังจากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัว

มากินข้าวที่โรงอาหาร จำเมนูไม่ได้


กลางคืนวันนี้ มีกิจกรรมดูดาว

ถึงจะเป็นช่วงพระจันทร์เต็มดวง

แต่ดวงจันทร์อยู่อีกฝั่งนึงของเกาะ

ทำให้ตอนหัวค่ำ ยังสามารถมองเห็นดาวได้เต็มฟ้า

นี่ถ้ามีเสื่อมาดวย คงนอนกันตรงนี้

(แล้วตอนเช้าก็พบว่า ลอยไปกลางทะเลแล้ว 😂)




มีบางเต้นท์เตาแก๊สมินิ มาทำอาหารด้วย

ที่นี่ห้ามก่อไฟนะ ห้ามจุดพลุไฟด้วย




บริเวณเต้นท์มีลิง กะแมวอยู่ด้วย แต่ไม่เจอหมา

วางอะไรไว้นอกเต้นท์ ระวังโดนขโมยล่ะ อย่าลืมล็อคเต้นท์ทุกครั้งที่ออกมาข้างนอก




:: DAY 3 ::


ตอนเช้าวันที่ 3 ตื่นเช้าเหมือนเดิม

มาดูปลานีโม่

แล้วเดินไปจนสุดที่น้ำทะเลลง

เหมือนกำลังอยู่บนสามพันโบกสีขาวเลย









สำหรับคนที่สงสัยว่า ถ้าน้ำลงเยอะๆ แล้วดอกไม้ทะเลจะตายมั้ย

โปรดดูสภาพมันตอนน้ำลง น่ากลัวสุดๆ อ่ะ






7 โมงเช้าก็ไปกินข้าว

เมนูวันนี้เป็นข้าวต้ม อร่อยดีนะ




จากนั้น 9 โมง ก็ออกไปดำน้ำเหมือนเดิม เพิ่มเติมที่มี Cultural tour ด้วย

🌊 อ่าวบอน (ไกด์เรียกว่า อ่าว VIP เป็นอ่าวเดิมแหละ เนื่องจากลม แรง เราไม่สามารถไปอ่าวอื่นได้เลย)

👪 ทัวร์หมู่บ้านมอแกน


ตอนแรกจะไปดำน้ำก่อนแล้วค่อยไปทัวร์หมู่บ้านมอแกน

แต่เนื่องจากคลื่นลมแรง ไกด์เลยให้ไปทัวร์หมู่บ้านมอแกนก่อน




หมู่บ้านมอแกน เป็นหมู่บ้านของคนท้องถิ่นที่นี่

ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ผู้ชายจะออกไปทำงานกะทัวร์

ส่วนผู้หญิงและเด็กจะทำงานบ้าน แล้วก็ขายของให้นักท่องเที่ยว

เราเลยเจอชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่

คนในหมู่บ้านจะใช้นามสกุลเดียวกัน เป็นนามสกุลพระราชทาน คือ กล้าทะเล






หลังจากเดินทัวร์จบแล้ว

ก็ไปดำน้ำกันต่อ




ดำน้ำเสร็จก็

กลับไปอาบน้ำ เก็บของ กินข้าวกลางวัน เป็นบุฟเฟต์ แมนูเดิม 555




จากนั้นก็แบกสัมภาระ มาที่จุดจอดเรืออ่าวไม้งาม

นั่งเรือหางยาวต่อไปยัง อ่าวช่องขาด


ก่อนจะไปขึ้นเรือสปีดโบ๊ทกลับ

คนเยอะมาก ที่นั่งไม่พอเลย

เราเลยต้องนั่งตรงช่องทางเดินใกล้ๆ กับคนขับ


วันนี้ลมแรงมาก

ยังกะเล่นเรือไวกิ้ง แทบอ้วกแน่ะ 😱

พอเจอคลื่นยักษ์ที ก็จะมีฝรั่งที่นั่งหน้าเรือ กรี๊ดกร๊าดขึ้นมาที 😝

ดูเค้าสนุกเนอะ จากที่กลัวๆ กลายเป็นขำๆ


พอถึงฝั่ง

ก็ต้องรอสัมภาระก่อน มีน้ำหวานให้บริการจากซาบีน่าทัวร์ด้วย


เก็บของขึ้นรถ

ขับต่อไปที่ระนอง


ผ่านภูเขาหญ้า

ก็ต้องแวะพักสักหน่อย

เป็นภูเขาที่มีสนามหญ้ากว้างๆ

มีคนมาพักผ่อน เดินเล่น ถ่ายรูป เล่นว่าว วิ่งออกกำลังกายกันเยอะมาก





เราเดินขึ้นไปบนยอดเขาลูกกลาง (เพราะมันสูงที่สุด)

ทางขึ้นค่อนข้างชัน มีทำเป็นขั้นแค่บางจุด

ตอนเดินขึ้นไม่เท่าไหร่

ตอนเดินลงนี่ต้องระวัง ไม่งั้นอาจจะกลิ้งตกเขาได้





จากนั้นก็เดินทางเข้าตัวเมืองระนอง

ที่พักคืนนี้


โรงแรมเรืองราษฎร์




อยู่ใจกลางเมือง ใกล้ตลาด

ถ้ามาตอนกลางวัน คงจะเจอรถติด

แต่เรามาถึงตอนทุ่มกว่าๆ ร้านปิดกันเกือบหมด เลยค่อนข้างเงียบสงบ


โรงแรมจะมี 2 ตึก

ตึกด้านหน้าคล้ายตึกแถว ส่วนตึกด้านหลังเหมือนอพาร์ทเม้นท์






เราจองห้อง 4 คน 1 ห้อง ราคาแค่ 800 เอง

ที่จอดรถมีค่อนข้างน้อย คือไม่ใช่ลานจอดรถ แต่ต้องจอดข้างๆ ตึก มีกล้องวงจรปิด




เช็คอินเรียบร้อย มีค่าประกันกุญแจ 200 คืนให้ตอนเช็คเอาต์

ห้องพักเราอยู่ตึกหน้า ชั้น 2

มีระเบียงสามารถมองเห็นถนนหน้าโรงแรมได้




ห้องค่อนข้างกว้าง และสะอาด

มีเตียง ตู้เย็น แอร์ ทีวี โต๊ะใหญ่ พร้อมเก้าอี้ (ที่หนักมากกกกกก) 2 ชุด แก้วน้ำ น้ำเปล่า ราวตากผ้าพร้อมไม้แขวน ผ้าเช็ดตัว

น้ำอัดลมราคาไม่แพง แค่ 16 บาท จากปกติน่าจะ 14 บาท ถือว่าชาร์ตแค่นิดๆ หน่อยๆ





ห้องน้ำกว้าง และสะอาดเช่นกัน

มีเครื่องทำน้ำอุ่น อ่างล้างหน้า สบู่ แชมพูให้




ข้อเสีย คือ พวกที่แขวนเสื้อในห้องน้ำ กับเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่สูงมากกกกกกกกกกกกกกกกก

ติดได้ไม่เกรงใจความสูงชั้นเลยยยยยย 😡😡😡😡😡😡

เอาฝักบัวลงมาได้ แต่เอาขึ้นไปเก็บไว้ที่เดิมไม่ได้ค่าาาาาาาาา 😖




ค่ำแล้ว ร้านแถวนี้ปิดหมดแล้ว มีเปิดไม่กี่ร้าน

เราเลือกจะไปซื้อมาม่า 7-11 มากินที่ล็อบบี้โรงแรมแทน


ปิดท้ายด้วยรูปและวีดีโอใต้น้ำ














Create Date : 03 มีนาคม 2560
Last Update : 3 มีนาคม 2560 12:12:09 น. 0 comments
Counter : 956 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

earist
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




โปรแกรมเมอร์ตัวจิ๋ว ฝีมือกากๆ แต่สร้างบัคที่ใหญ่กว่าตัวได้เสมอ
มนุษย์เงินเดือน ผู้อยากท่องเที่ยวไปทั่ว แต่วันลาไม่เคยจะพอ
[Add earist's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com