<<
สิงหาคม 2556
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 สิงหาคม 2556
 
 

มหากาพย์ ลูกชายเราไปซั่มลูกเค้า เอาไงดี 18+จากกระทู้คุณรัล

หลังจากที่ใช้เกือบครึ่งชีวิตอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่งอ่านกระทู้ ปัญหา สารทุกข์ สุข ดิบ ของเช้าบ้านมาเนิ่นนาน

ก็ได้ฤกษ์งามยามดี แชร์ประสบการณ์ชีวิตอันน่าหดหู่ของตัวเองเสียที

     จขทก. ขอเรียกแทนตัวเองว่า "รัล" ก็แล้วกันนะค่ะ เป็นคุณแม่ยังสาว ส่วนจะสวยรึป่าวนี่ก็ต้องพิจารณาเอง << ยังมีอารมณ์จะเล่น
ปัจจุบันมีลูกชายน่าตาน่ารักน่าชัง อายุ 18 ขวบอยู่หนึ่งคน สามีทำงานที่บริษัทของต่างชาติ เป็นวิศวกรประจำแท่นขุดเจาะน้ำมัน นานๆจะกลับมาพักที รัลจึงเปรียบเสมือน คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไปโดยปริยาย 
     ด้วยเงินที่สามีส่งให้ใช้ก็พอสมควรอยู่ รัลจึงไม่ต้องทำงาน เป็นแม่บ้าน อยู่เฝ้าบ้านอย่างเดียว พอมีลูกรัลจึงมีเวลามากมายที่จะอยู่กับลูก ดูแล พูดคุยกัน เล่นสนุกได้ตลอดเวลา ด้วยตัวรัลเอง ตอนที่ตั้งท้องนั้นอายุก็ยังน้อย แต่รัลโชคดีตรงที่ พ่อแม่รัลให้อภัยและคอยให้ความช่วยเหลือแนะนำ มอบกำลังใจดีๆให้รัลเสมอ พร้อมกับสามีผู้น่ารัก 
    รัลสอนลูกเหมือนเพื่อนแนะนำเพื่อน เราคุยกันได้ทุกเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ นะค่ะ  เพราะพ่อเค้าไม่ค่อยอยู่รัลจึงต้องคุยเรื่องผู้ชายๆ กับลูกด้วย รัลไม่อายที่พูดว่า ใช้ทิชชู่เช็ดเหอะนะขอร้อง เอาเสื้อในตระกร้าไปเช็ดอ่ะแม่บอกตรงๆ มันซักยาก ทิชชู่แม่ซื้อมาเป็นโหลเลย วางไว้หน้าคอม หยิบง่ายๆ เช็ดเสร็จก็ทิ้งไป นะลูกนะ เค้าก็ขำบอกทิชชู่มันซับไม่หมด ยุ่ยง่าย เหนียว เลอะเทอะอีก  555 รัลก็ต้องมารื้อดูคราบบนเสื้อผ้ามันทีละตัว ถ้ามีคราบก็ต้องแยกเอามาซักมือ รัลไม่เคยรู้สึกว่ามันน่าเกลียดที่จะบอกลูกหรือคุยกับลูกเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้นะ รัลว่าการช่วยตัวเองเป็นเรื่องปกติของเด็กผู้ชายวัยนี้ แต่ก็ไม่ใช่สนับสนุนอะไรขนาดนั้นนะ  แต่อย่างที่บอก รัลก็เป็นคุณแม่หัวสมัยใหม่ อายุก็ยังไม่มากรัลไม่อยากให้ลูกอายที่จะมาคุยเรื่องแบบนี้กับแม่  
      เอาเป็นว่าเค้าปรึกษารัลได้ทุกเรื่อง เรื่องเพื่อน เรื่องหญิง เรื่องเซ็กส์ เรื่องเรียน เรื่องสัพเพเหระ ทั่วๆไป แม้แต่ตอนที่เค้าทดลองใช้ยา เค้าก็มาคุยกะรัล รัลก็ไม่เคยโวยวายว่าเค้า เพราะรัลกลัวว่าลูกจะไม่กล้ามาคุยกับรัลอีก เพราะวัยรุ่นเราก็เคยผ่านมาก่อน ตอนเป็นวัยรุ่นตัวรัลเองมีปัญหาอะไรก็ไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่ เพราะกลัวว่าจะโดนดุด่า ถ้าทำผิดก็ต้องโดนด่า รัลไม่อยากให้ลูกคิดกับรัลแบบนี้  จึงพยายามอดทนอดกลั้น บางทีก็ต้องแอบไปร้องไห้คนเดียวเวลาที่ ลูกมาเล่าให้ฟังว่าเค้าไปทำในสิ่งที่ผิด ทำเรื่องไม่ดีมา  ซึ่งตัวรัลเองก็สอนแบบพี่บอกน้อง หรือเพื่อนเตือนกันมากกว่า   อย่างน้อยๆสิ่งที่ลูกทำไปเรายังได้รู้ มีโอกาสได้แนะนำเค้า ดีกว่าไหมค่ะ ที่เค้าจะแอบไปทำในสิ่งที่ผิด พอเกิดปัญหาขึ้นจากการกระทำนั้น คนเป็นพ่อเป็นแม่กลับไม่ได้ช่วยลูกแก้ปัญหาเลย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเค้ากำลังเผชิญปัญหา เค้าต้องตัดสินใจเองก็เค้าไม่กล้าบอกเราตั้งแต่แรกแล้วไง  
      เรื่องเที่ยวนี่รัลก็ไม่ห้ามนะ ส่วนใหญ่รัลจะไปกับลูกด้วย  ครั้งแรกที่เค้าจะไปเค้าชวนรัลเองนะ รัลก็พาไป รัลยังน่าเด็กอยู่อ่ะนะ ไปนั่งกับกลุ่มเด็กๆ เหมือนเป็นเจ๊ใหญ่มากกว่าแม่ไปคุมลูกชาย เพราะรัลไม่คุมไง เค้าจะทำไรก็ปล่อยเค้า เราแค่มานั่งดูว่า อ๋อ ลูกของเราเค้ามีพฤติกรรมแบบนี้นะ แล้วค่อยไปหาเวลาจังหว่ะคุยกับเค้าในเรื่องที่เราห่วงทีหลัง 
ลูกชายก็เรียนดี กลุ่มเพื่อนก็ไม่เกเรอะไรนัก เรื่องอื่นก็ ทั่วๆไป ไม่มีอะไรน่าห่วง
แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่นึกหวั่น  ก็เรื่องผู้หญิงนี่แหระ ลูกก็โตเป็นหนุ่มแล้ว คบใครก็ไม่ค่อยจะจิงจัง เน้นหนักไปทางเรื่องเพศ ลูกชายรัลเป็นคนน่าตาดี หล่อเข้าขั้นเลยล่ะ สาวๆเข้ามาติดพันเพียบ เราก็ได้แต่เตือนเรื่องการป้องกัน แนะนำว่าให้รู้จักระวังตัว บอกได้แค่นั้น
และแล้วเวลาแห่งความ ทุกข์ใจก็มาถึง.......
26/07/13ลูกชายบอกไปวันเกิดเพื่อน เป็นเพื่อนผู้ชายเค้าที่รัลก็รู้จักดีอ่ะแหระ  รัลก็ไปแวะซื้อของขวัญกับลูก แล้วก็ไปส่งเค้าที่บ้านเพื่อน  รัลก็เข้าไปอยู่แปปนึง แล้วก็กลับมาก่อนเพราะเค้าจะนอนบ้านเพื่อนกัน  วันนั้นรัลมองลูกแล้วรู้สึกเป็นห่วงแปลกๆ ก่อนกลับรัลก็บอกลูกว่า อย่าดื่มหนักนักนะ เดี๋ยวมันเลยสนุกไป จะกลายเป็นสลบแทน เค้าก็พยักหน้ายิ้ม พรุ่งนี้เที่ยงหมอนัดใช่ไหม(รัลทำศัลยกรรมด้วยนะ พอดีหมอนัดไปเติมโบท็อกซ์ลดกราม ห้า ห้า) แวะมารับด้วยนะ เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน
เวลาประมาณ  08.30 น. ของวันที่  27/07/13 รัลเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โทรศัพท์ดึงขึ้นมา เป็นเบอร์ลูกชายตัวเองโทรเข้ามา  รัลก็แปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมตื่นเร็วจัง พอรับสาย  เสียงปลายสายเป็นผู้หญิงวัยทอง "แกเป็นแม่ของไอ้เด็กห่านี้ใช่ไหม มันหลอกลูกชั้น  แกมาเคลียร์ที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ ก่อนที่ฉันจะเหยียบลูกแกจมตีน  เอ้าบอกแม่แกมาเดี๋ยวนี้เลย" เหมือนเค้าจะยื่นโทรศัพท์คืนให้ลูกชายรัลพูด รัลได้ยินเสียงเค้าเรียกแค่ว่า “แม่….” รัลรีบบอกลูกว่า อยู่บ้านท็อปไช่ไหม แม่จะรีบไปนะ  เค้าก็พูดกลับมาแค่ “ครับ” แล้วก็วางสายไป รัลทำอะไรไม่ถูก ลืมไปเลยว่าวางกุญแจรถไว้ไหน วิ่งหาไปทั้งบ้าน    มันเหมือนไม่มีแรงจะก้าวขาเลย ในหัวมันสับสนไปหมดเลย นึกเสียใจว่าตัวเองอาจสอนลูกไม่เป็น ตามใจลูกไป อย่างที่แม่รัลว่าก็ได้ บ้านเพื่อนลูกอยู่ในถนนสายเดียวกัน แต่คนละหมู่บ้าน ห่างกันประมาณ  7 -8 กิโล ได้มั้ง  พอรัลไปถึงเห็นรถมอไซต์จอดที่บ้านนั้นห้าหก คัน รถยนต์อีกสามคัน สองคันนั้นรัลรู้ว่าเป็นของใคร อ่อ รัลลืมบอกไปว่าพ่อแม่ของท็อปเค้าไปทำงานที่นครปฐม จะกับมาแค่วันอาทิตย์วันเดียว  มีรถยนต์ยี่ห้อ Honda civic  รุ่นเก่าที่รัลคิดว่าอาจเป็นรถของคู่กรณี รัลจอดรถแล้วรีบเดินเข้าไปในบ้าน  ได้ยินเสียงผู้หญิงในโทรศัพท์กำลังด่ากราดไปทั่ว ทุกคนนั่งอยู่ที่ห้องโถงกลาง เพื่อนลูกชาย แปดคนผู้หญิงสองคน ผู้ชายหกคน รวมลูกรัลด้วยก็เป็น เจ็ด มีเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 14-15  อีกสามคน มีผู้หญิงตัวอ้วนผิวคล้ำอายุ ประมาณ สี่สิบกว่าๆ กับผู้ชายตัวเตี้ยวัยเดียวกัน  สองคนนี้เป็นแม่ของน้องแพม ที่อายุ 14-15 นี่แหระ รัลทราบชื่อหลังจากนั้นว่า คุณอร กับคุณบูรณ์  
   คุณอร มองหน้ารัล ทันทีที่รัลโผล่เข้าไปห้องก็เงียบ เมื่อคุณอรทราบว่ารัลเป็นใคร เธอก็เปิดฉากต่อว่า "เธอจะเอายังไงว่ามา ลูกชายเธอกับเพื่อนมันรวมหัวกันล่อลวงลูกฉัน มาที่นี่ มอมเหล้าลูกสาวฉัน แล้วลูกเธอมันมาหลอกปี้ลูกฉัน เนี่ย จะให้ฉันทำยังไง ลูกสาวฉันมันยังเด็กเธอก็เห็นมันจะไปฉลาดรู้เหลี่ยมพวกเด็กเวรนี่ได้ยังไง เธอจะรับผิดชอบยังไงห่ะ"
   คุณอรพูดพร้อมกับชี้มือไปทางนั้นทางนี้ เธอชี้ไปที่ลูกสาวของเธอ ที่ชื่อแพม หน้าตาน่ารัก ผิวขาว นั่งตาแดงๆเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ  แต่งตัวโป๊ แบบ กางเกงสั้นเหมือนกางเกงในเลยนะ เสื้อเปิดหลังเปิดอก ดูไม่น่าโดนหลอกมาเท่าไหร่ 
รัลบอกให้คุณอรใจเย็นๆ  บรรยากาศในห้องตอนนั้นแย่สุดๆ พวกเด็กเงียบกันหมดทุกคน แต่สังเกตจากสีหน้าก็ดูออกว่าพวกเค้ากำลังปฏิเสธความผิดที่คุณอรยัดเยียดให้ 
   รัลมองไปทางลูกชายแล้วถามเค้าว่าเค้าทำอย่างนั้นจริงๆหรอ  ?     คุณอรก็โวยวายแทรกขึ้นมา เธอไม่ได้ไปถามมันเลย คนมันทำผิดใครมันจะไปยอมรับ ฉันเห็นเต็มๆสองลูกกะตาฉันเลยว่าลูกแกมันนอนคว..แข็งอยู่กับลูกชั้นในห้องสองคน ลูกฉันใส่เสื้อในตัวเดียว ยังต้องถามอะไรอีก ผัวฉันก็เห็น
เพื่อนของลูกรัล แย้งขึ้นว่าให้คุณอรถามน้องแพมดีกว่าว่ามายังได้ไง ถึงคิดว่าพวกเค้าล่อลวง   คุณอรก็ยังยืนยันว่า "ทำไมจะต้องถาม ในเมื่อพวกแกเป็นเจ้าของบ้านถ้าพวกแกไม่ได้บอกไม่ได้ชวนแล้วมันจะมาได้ไง แบบนี้แหระเค้าเรียกว่าล่อลวง"
พวกเด็กๆกลับว่าไม่ได้ชวน ไม่มีใครชวน จริงๆแล้วไม่มีใครรู้จักด้วยซ้ำเพิ่งรู้จักกันเมื่อคืนนี่เองจะไปชวนได้ไง คุณอรหน้าตึง โมโหก็หยิก บิดลูกตัวเองว่ามายังไงกันแน่
ลูกสาวคุณอร บอกว่าเพื่อนอีกสองคนที่มาด้วยกันชวนมา เด็กอีกสองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน ก็โบ้ยกันเหมือนกลัวความผิดจะมาตกที่ตัว สุดท้ายก็สรุปออกมาว่าเด็กที่ชื่อน้ำแป้งขอมางานวันเกิดน้องท็อปเอง เค้าเข้ามาคุยทางไลน์บอกว่าปลื้มขอไปวันเกิดและมีของขวัญจะให้ เมื่อท็อปบอกว่าจะมาก็ได้ จึงชวนยัยแพมกับเด็กอีกคนชื่ออ๋อแอ้มาเป็นเพื่อนกันเอง 
   พอถึงตอนนี้คุณบูรณ์พ่อน้องแพมโวยวายขึ้นว่าไม่สนใจว่าจะใครจะมาใครจะไป แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วตัวเองมีลูกสาวยังไงก็เสียหาย เขาบอกว่ารัลและลูกต้องรับผิดชอบเขาจะพาลูกเขาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เก็บหลักฐานไว้แล้วจะตามไปที่บ้านของรัล  โดยขอเบอร์โทรศัพท์รัลไว้  ถ้าติดต่อรัลไม่ได้หรือรัลคิดจะปัดความรับผิดชอบเค้าจะแจ้งตำรวจ คุณอรย้ำกับรัลอีกครั้งว่า อย่าคิดอยากลองดีกับฉันนะ
สามคนนั้นออกจากบ้านไป เพื่อนอีกสองคนของแพมทำท่าจะลุกตามกันไป  รัลเลยเรียกไว้บอกว่าขอน้าถามอะไรหน่อย  คุณบูรณ์ที่เดินนำไปก่อนนั้นแล้วกลับเข้ามาเรียกเด็กทั้งสองให้กลับบ้าน และกล่าวหารัลว่าคิดจะหลอกถามเด็กหาช่องทางเอาตัวรอดรึไง  เด็กก็ต้องตามคุณบรูณ์ออกไปแต่ไม่ได้จะไปด้วยกันนะเด็กอีกสองคนจะขับมอไซด์ที่ขับมาเมื่อคืนกลับบ้าน  
ตอนนั้นรัลรู้สึกกดดันมาก สับสนว่าควรจะทำยังไง จะบอกกับสามียังไงดี  ไหนจะพ่อแม่รัลอีก  รัลรู้สึกเหมือนตอนเด็กๆที่เวลาทำอะไรผิดแล้วกลัวจะโดนดุด่า ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร
รัลตัดสินใจคุยกับลูกก่อน   รัลถามลูกชายกับเพื่อนเค้าที่นั่งอยู่ว่า มีใครจะบอกอะไรแม่ไหม และสิ่งที่ลูกชายรัลพูดคือ เมื่อคืนน้องแพมอะไรเนี่ย มาบอกว่าปลื้มเค้า แล้วก็พูดจาหยอกล้อเหมือนอยากจะโดนนักโดนหนา เค้าเลย ตั้งใจว่าจะสนองให้สักหน่อยอยู่แล้ว แต่พอดีแฟนเค้าโทรหาเค้าเลยต้องเข้าไปหลบเสียงเพลงคุยในห้อง นอนแขกเพราะอยู่ไกลจากตรงนั้นหน่อย ไม่ถึง 10 นาที น้องแพมก็ตามเข้ามาถึงห้องเองเลย  ลูกชายรัลยังไม่ทันจะวางสายจากแฟนเค้าด้วยซ้ำไป  พอเค้าเห็นยัยแพมนี่เข้ามาเค้าเลยรีบวางสายเพราะกลัวแฟนจะได้ยิน บอกกับลูกชายรัลว่าเพื่อนเค้าให้มาตาม แต่ทำท่าว่าตัวเองจะขอนอนอยู่ในห้องนี้ก่อนเพราะเวียนหัว ลูกรัลจัดการเลย  แต่ตอนนั้นลูกรัลดื่มเข้าไปมากแล้ว นกเขาเลยไม่สู้งาน   ใส่ถุงยางยาก ยัยแพมก็จัดการชิมรสชาตินกเขาอย่างเชียวชาญ ใส่เอง สอดเอง ทำเอง เส็ดเอง เพราะลูกชายรัลดื่มเบียร์ด้วยจะหลับมิหลับแหล่เลยไม่เสด  ใครจะว่ายังไงไม่รู้นะ แต่รัลเชื่อลูกรัล รัลรู้จักเค้าดีที่สุด  
แต่ลูกคนอื่นรัลไม่รู้ และคุณอรเองก็คงคิดเหมือนรัล คนเป็นแม่ย่อมรู้จักลูกตัวเองดีว่าเป็นอย่างไง  
แน่นอนว่าเป็นงานขนาดนี้คงไม่ไช่ครั้งแรกแน่ๆ  แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ จะครั้งที่เท่าไหร่ จะใครเอาใคร จะทำท่าไหน แต่ลองพ่อแม่เค้ามาเห็นแบบนี้ก็ต้องรับแหระ ทำก็คือทำ
รัลกับลูกกลับมาที่บ้าน  รัลโทรบอกสามี เค้าก็ตกใจและจะรีบกลับให้เร็วที่สุด เค้ายังแนะนำให้รัลเรียกทนายมานั่งฟังอยู่ด้วย แต่รัลยังไม่เห็นด้วย บอกว่าขอคุยกันดูก่อน เพื่อจะตกลงกันได้  ส่วนพ่อแม่รัล รัลตัดสินใจไม่บอกท่านเพราะท่านคงไม่อยากฟังเรื่องแบบนี้แน่ๆ
ประมาณเที่ยงกว่าๆ คุณบูรณ์โทมาถามทางมาบ้านรัล  เกือบบ่ายโมงพวกเค้าก็มาถึง  รัลเชิญพวกเค้าเข้ามาในบ้าน  คุณบูรณ์ถามรัล ว่ารัลกับลูกจะรับผิดชอบลูกเค้าอย่างไร
รัลตอบว่า รัลมีโอกาสได้ถามลูกชายแล้ว ซึ้งเค้าก็ยอมรับว่ามีอะไรกับลูกสาวคุณจริง แต่เรื่องจะรับผิดชอบยังไงนั้น ให้คุณสองคนบอกดีกว่าว่าต้องการให้เราทำยังไง เพราะคุณบอกว่าคุณเป็นฝ่ายเสียหาย 
เค้าบอกว่าให้รัลจัดงานแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณี  บอกตามตรงว่าตอนนั้นปรี๊ดดดดดดดดดดเลย  
รัลกำลังพยายามสงบสติอารมณ์  แต่ลูกชายคงตกใจ เค้าเลยโวยเอง ว่าไม่แต่งเด็ดขาด  เจอมากี่คนแล้ว อยู่ดีๆจะมาให้เค้ารับผิดชอบได้ยังไง  รัลเลยต้องห้ามลูกก่อน คุณอรทำท่าจะต่อว่าพอดี แต่รัลพูดขึ้นว่า ขอปรึกษาครอบครัวก่อนแล้วกันรัลรับผิดชอบแน่ไม่ต้องห่วง
แต่เหมือนจะไม่เป็นผล ฝั่งนั้นเค้าไม่ยอม ถ้าไม่ตกลงเค้าจะแจ้งตำรวจ คุณอรยื่นใบตรวจร่างกายของลูกเค้าให้รัล ระบุว่าเยื้อพรมจรรย์ขาด ไม่พบคราบอสุจิ ไม่พบบาดแผลฉีกขาดของช่องคลอด
รัลจึงขอเวลาโทรปรึกษาสามี สามีรัลขอคุยกับฝั่งนั้นเองรัลจะยื่นโทรศัพท์ แต่ทั้งคุณบูรณ์และคุณอรไม่ยอมคุย บอกว่าไม่คุยกับใครทั้งนั้น ถ้าจะคุยก็มาคุยที่นี่ เดี๋ยวนี้ ลูกเค้าไม่ใช่หมูใช่หมาจะได้มาต่อราคากันทางโทรศัพท์ <<<พูดออกมาได้ไม่อายปาก
สามีรัลแนะนำให้รัลตกลงกับเค้าตามที่สามีบอก รัลก็กลับไปคุยกับเค้าอีกครั้งเอายังงี้แล้วกันนะค่ะ รัลคิดว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด รัลจะทำหนังสือสัญญาโดยจะปรึกษาทนายทำให้มีผลทางกฏหมายที่แน่นอน ว่า รัลจะจัดให้มีการหมั้นและงานมงคลสมรสทันทีที่แพมเรียนจบมหาวิทยาลัย และจะให้ของหมั้นสินสอดทุกอย่างตามที่คุณบูรณ์กับคุณอรเรียกขอ  ส่วนระหว่างนี้ให้เด็กทั้งสองคนเค้าได้คบหาดูแลกันไปก่อน เพราะลูกชายก็ยังเรียนอยู่แต่งงานไปจะให้เอาเงินที่ไหนเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ถ้าหากว่า ฝ่ายรัลไม่สามารถทำตามสัญญาได้ รัลก็ยินดีจะยกสิดสอดของหมั้นทั้งหมดให้เช่นเดิม  แต่ถ้าฝ่ายลูกสาวคุณผิดสัญญาไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นด้วยความสมัครใจในระยะเวลาหลังจากนี้ไปจนถึงวันเรียนจบให้ถือเป็นโมฆะ 
สัญญานี้ดีต่อเราทั้งสองฝ่าย เด็กทั้งสองไม่ได้รักกัน ไม่รู้จักนิสัยใจคอกันด้วยซ้ำ ถ้าแต่งกันไปตอนนี้ ไม่เกิดผลดีแน่ๆ อีกอย่างลูกสาวคุณก็ไม่ได้เพิ่งเสียตัวให้ลูกรัลเป็นคนแรก คุณก็รู้อยู่แก่ใจ แต่คนอื่นคุณอาจไม่รู้ คุณมารู้เห็นตอนลูกรัลทำ ในเมื่อวันเป็นแบบนี้เราก็ยินดียอมรับสภาพ รัลก็ขอดูลูกคุณด้วยระหว่างนี้เค้าก็เรียนหนังสือไปถ้าลูกคุณเป็นเด็กดีก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย คุณก็จะได้มีเวลาดูลูกรัลด้วยว่าเค้าเป็นคนอย่างไงคุณจะเอาลูกตัวเองมาฝากไว้ชีวิตไว้กับลูกรัลทั้งๆที่ คุณเพิ่งบอกว่าลูกรัลเป็นเด็กไม่ดี 
รัลพูดอะไรมันก็อาจฟังดูเหมือนน่าเกลียดนะ เพราะรัลไม่ใช่ฝ่ายที่เสียหายอาจไม่เข้าใจคุณก็ได้ ว่าทำไมต้องรีบแต่งตอนนี้ ในเมื่อคราบอสุจิก็ตรวจไม่พบ ลูกรัลเค้าบอกว่าเค้าใส่ถุงยางแล้วก็ไม่ได้หลั่งน้ำด้วยซ้ำ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าลูกสาวจะท้อง ถ้าแต่งแล้วลูกคุณจะกลับไปเรียนได้หรอ ถ้าไม่เห็นแก่พวกเราก็เห็นแก่ลูกตัวเองเถอะ
รัลได้อื่นหลายกระทู้แล้วก็ขอขอบคุณกำลังใจนะค่ะ แล้วก็หลายความคิดเห็นที่แนะนำมา เรื่องอายุของฝ่ายหญิงที่น่าหนักใจต่อข้อกฎหมายจิงๆค่ะ แล้วก็เหมือนที่หลายกระทู้บอก การเจรจาย่อมไม่เป็นผลเมื่อมีคนอยากได้ตังค์
ฝ่ายนั้นเค้าบอกไม่ยอมท่าเดียว คุณบูรณ์เริ่มโทสะ ว่ารัลขึ้นขึ้นกู จะมาเล่นแง่อะไรอีกไม่ต้องมาอ้างเลย เดี๋ยวพวกก็ใช้เงินยัดปากคนนั้นคนนี้ ไปก็หมดเรื่อง สุดท้ายลูกกูก็เสียตัวฟรี อย่าคิดว่าพวกกูโง่จะมาหลอก-ฟรี ลูกเที่ยวไล่ชาวบ้านเค้าก็ต้องรับผิดชอบก็ถูกต้องแล้ว ไม่ต้องมาลวดลาย มันไม่มีปัญญาเลี้ยงก็ต้องเลี้ยง เป็นแม่มัน ถ้าไม่อยากรับผิดชอบก็สอนให้ได้สิ ไม่ใช่หัดให้มันมีมาทำเป็นอย่างเดียว หัดให้มันรับผิดชอบด้วย <<< เจ็บเลยดอกนี้ หรือรัลสอนลูกไม่ดีจริงๆ  หรือไม่ก็ตัดคว...มันทิ้งไปเลยจะได้ไม่สร้างปัญหา <<< แล้วตัวเองไม่เย็บหอยลูกตัวเองไว้อ่ะ ไม่ก็โบกปูนทับปิดรูมันไปเลย จะได้ไม่สร้างปัญหา
รัลคิดว่าคงรับสถานการณ์ไม่ไหวแล้ว กดดันเหลือเกิน  ไม่ว่าอะไรเค้าก็ไม่เอา รัลหันไปมองหน้าลูกเค้าก็นิ่งสายตากังวล แล้วดูเขาเครียดมาก รัลสงสารลูกจับใจ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมานั่งฟังคนอื่นด่าลูกด่าตัวเองแบบเถียงเค้าไม่ได้ รัลตัดสินใจเรียกทนาย  
...เดี๋ยวมาเล่าต่อนะค่ะ ขอไปอาบน้ำแปปนึง ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจแม้เราจะไม่รู้จักกัน ยินดีที่ได้เล่าประสบการณ์เป็นกรณีศึกษาให้คุณแม่ทุกท่าน คุณแม่ที่มีลูกชายวัยนี้ มีประสบการณ์เรื่องอื่นๆมาแลกเปลี่ยนทัศนคติในการเลี้ยงหรืออบรมลูกกันก็ยินดีนะค่ะ
มาแล้วค่ะ อ่านหลายๆกระทู้แล้วก็ขอบคุณทุกความคิดเห็น อีกครั้งนะค่ะ
หลายท่านแนะนำเรื่องการเลี้ยงลูกว่ารัลตามใจลูกไป>>>ไม่ได้ตามน้าา ไม่เคยสนับสนุนให้ลูกทำสิ่งผิดด้วย แต่รัลเลือกวิธีบอกดีๆมากกว่าจะทำให้เค้ากลัว เพราะรัลอาศัยประสบการณ์ของตัวเองในอดีต รัลเองก็กลัวพ่อกับแม่มาก ดีชั่วก็รู้หมด แต่อดใจไม่ไหว สุดท้ายก็พลาดผิด
ทนายมาแล้ว  ระหว่างที่ทนายมาไกล่เกลี่ย ขอชดใช้เป็นค่าเสียหายอะไรต่างๆนาๆ แรกๆก็ดูเหมือนจะไปได้ดี แต่สุดท้ายก็ยังยืนยันคำเดิมคือการแต่งงาน จนห้าโมงเย็นก็ยังไม่ลงตัว จนทางนั้นเค้าจะกลับไปเอง รัลเพิ่งนึกได้ว่ารัลกับลูกยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า แต่ใครจะไปกินลงล่ะ ?? รัลคุยกับคุณทนายต่อ ปล่อยไปลูกไปพักก่อน 
รัลเล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณทนายฟัง หน้าคุณทนายแบบคิดหนักเลย รัลบอกคุณทนายว่าทำยังไงก็ได้ แค่ลูกไม่ต้องแต่งงานตอนนี้ถ้าสมมติว่าเค้าได้คบหาดูนิสัยกันสักนิดก็คงจะไม่มีปัญหา แต่ไม่รู้สินะถ้ารัลมีลูกสาวอาจจะไม่คิดแบบนี้ก็ได้ 
ทนายก็บอกจิงๆ ถามว่าโอกาสที่เค้าฟ้องแล้วเราจะชนะคดีมีไหม ก็มีนะ เราต้องยืนยันความบริสุทธของตัวเอง ซึ่งก็พูดกับแบบตรงๆว่าถ้าเงินหนาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธ์ก็หาไม่ยาก 
คดีพรากผู้เยาว์นั้น ไม่ว่าผู้เยาว์จะยินยอม จะมาหาเราเอง จะไม่ซิง ยังไงมันก็ยังมีความผิด เว้นแต่เราจะหาหลักฐานเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาซึ่งพยานหลักฐานของฝ่ายโน่นยังมีช่องว่างให้พอรอดได้บ้าง
แต่....พอสามีมาถึง เค้าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะให้เกิดการฟ้องร้องกันขึ้น เพราะถึงเราจะชนะคดีมันก็มีผลกระทบกับประวัติลูก ไม่เป็นผลดีแน่นอนที่จะโดนบันทึกประวัติการขึ้นโรงขึ้นศาล  สามีบอกว่าอยากให้เจรจากันจนหาข้อยุติที่ดีที่สุด
ได้ จะไม่มีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นเด็ดขาด หรือถ้ามันไม่มีหนทางใดแล้ว เค้าจะให้แต่งก็ต้องแต่ง
รัลค่อนข้างไม่พอใจสามี แต่ก็เหนื่อยเกินจะเถียงเพราะรัลก็งงไปหมด เหมือนรัลนี้แหระที่เป็นคนผิด รัลสอนลูกไม่เป็น ที่เคยคิดว่าถูกว่าควรกลับเป็นสิ่งผิดพลาดในมุมมองของคนอื่น รัลเครียดมากร้องไห้ในห้องกับสามีสองคน  เค้าบอกว่า รัลไม่ผิดหรอก รัลทำหน้าที่แม่ตั้งแต่อายุยังไม่มาก และก็ทำดีที่สุดแล้ว รัลขอสามีว่าคิดดูอีกที แต่สามีรัลเค้าก็ให้เหตุผลข้อหนึ่งว่า แต่งได้ก็อย่าได้ ผู้ชายที่มีประวัติการหย่า กับผู้ชายที่มีประวัติคดีพรากผู้เยาว์ อะไรที่มันจะเกิดผลกระทบมากกว่ากัน พี่อยากให้รัลคิดให้กว้างๆ มองถึงอนาคตด้วย คดีอาญามีผลกระทบไปจนถึงหน้าที่การงานในอนาคตของลูก รัลเข้าใจใช่ไหม <<< ถ้านี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อ่ะ ก็ได้
เช้าวันอาทิตย์ที่ 28 ถึงเวลาคุยกับลูก 
รัลมาตามลูกให้ไปคุยกับรัลกับพ่อเค้าที่โต๊ะทานข้าว ลูกดูค่อนข้างเครียด พ่อเค้าพูดถึงเรื่องที่คุยกับรัลเมื่อคืน ว่าจะไม่มีการฟ้องร้องเด็ดขาดเราจะพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดและหวังว่าลูกคงยอมรับมัน รัลบอกลูกว่าเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ ถ้าเกิดจะต้องแต่งงานจริงๆ ลูกต้องเข้าใจ และรับได้ใช่ไหม ?  รัลจะพูดกับลูกตลอดว่า ไม่ว่าเค้าจะติดสินใจทำอะไร ย่อมมีผลของการกระทำตามมาเสมอ ถ้าทำสิ่งที่ถูกก็ได้ผลดี ถ้าสิ่งที่ผิดก็ย่อมได้ผลเสีย แน่นอนว่าดีชั่วรู้หมด แต่ถ้ามันอดไม่ได้ก็ต้องกล้าที่จะยอมรับผลที่จะตามมา และรัลก็มั่นใจในตัวเค้าลูกของรัลก็เป็นลูกผู้ชายพอ
ลูกชายรัลเค้าบอกรัลว่าเค้าเสียใจที่ ผลเสียที่ตามมา มันไปกระทบกับรัลกับพ่อ  มันไม่ได้กระทบแค่เค้าคนเดียว แน่นอนว่าบทเรียนครั้งนี้ต้องราคาแพงลิบ แต่จะเท่าไหร่นั้นค่อยไปตกลงกันอีกที เหมือนกับว่ารัล สามี และลูกเริ่มจะทำใจกันได้บ้างแล้วกับ ว่าที่ลูกสะใภ้ คิดว่ายังไงๆก็คงไม่รอด 
สามีรัลโทรนัดทางโน่นเพื่อมาเจรจาหาข้อยุติที่พอใจกันทั้งสองฝ่ายให้เร็วที่สุด ก็นัดวันกันไว้ว่าจะเป็นวันอังคารที่สี่ สิงหาคม
วันจันทร์ที่ 29 ลูกรัลก็ไปเรียน ส่วนรัลก็ยังคงคิดหนักอยู่ว่าจะบอกพ่อบอกแม่ยังไง ทั้งที่ตอนแรกกะจะไม่บอก พอเรื่องมันเป็นอย่างงี้ไม่บอกคงไม่ได้ ปวดหัวอีกแล้ว 
สามีก็จัดการคุยเรื่องไกล่เกลี่ยกับทนายอยู่ ประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ มีสายเข้าโทรศัพท์บ้าน รัลก็เดินไปรับ ปลายสายเป็น ครูที่สอนอยู่โรงเรียนลูกชาย ซึ้งตัวรัลเองก็รู้จักกับคุณครูท่านนี้เป็นอย่างดี เพราะเคยเป็นครูประจำชั้นของลูกชายตอนม.ต้น บอกว่าทราบปัญหาจากเรื่องซุบซิบนินทาของเด็กในชั้น ก็จากเพื่อนสองคนของยัยแพมนั้นแหระ อาจารย์ท่านนี้บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับรัลและจะขอมาส่งลูกชายที่บ้าน
อะไรเนี่ยย อย่าบอกนะว่าจะไล่ลูกชั้นออก
สี่โมงเกือบห้าโมงใจเริ่มไม่ดี ติดต่อลูกไม่ได้ สามีก็ปลอบไม่ให้รัลคิดไปในแง่ร้าย บอกว่ากับครูคนนี้ก็รู้จักกันดี น่าจะมาให้ความช่วยเหลือมากกว่าหรือแนะนำวิธีแก้ปัญหามากกว่า ซักพัก
รถฟอร์จูนเนอร์ของคุณครูก็มาจอด คุณครูสีหน้าดูเป็นมิตรอย่างเคย รัลก็เชิญนั่งหาน้ำมาให้ก่อนจะได้พูดคุยกันตามมารยาท "ครูมีข้อมูลบางอย่างอยากจะบอกคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ" คุณครูถามลูกชายรัลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างนั้งมาในรถ ลูกรัลก็เล่าให้ครูฟังไปหมดแล้วด้วย
น.ส.แพม(ที่จริงคุณครูพูดชื่อจริงพร้อมนามสกุลนะค่ะแต่รัลจะพิมพ์บอกตรงนี้ก็ใจร้ายไป) เพิ่งมาสมัครเข้าเรียนม.3 ที่โรงเรียนของเรา เป็นปีแรก โดยโรงเรียนเดิมที่จบม.2 มานั้นอยู่จังหวัดนครสวรรค์ เกิด พ.ศ. 2539 ตอนนี้อายุ 17 ปีแล้ว สาเหตุที่หยุดเรียนไปนั้นผู้ปกครองให้เหตุผลว่าประสบอุบัติเหตุนอนไม่ได้สติที่โรงพยาบาลนานเป็นปี ต่อมาก็ต้องมาทำกายภาพบำบัดอีก จึงต้องเรียนช้าไปสองปี พ่อแม่ต้องย้ายมาทำงานที่นี้ก็เลยต้องพามาอยู่ด้วย แต่พอถามหาใบรับรองแพทย์ก็บอกว่าลืมเอามา ถ้าทดสอบผ่านได้เข้าเรียนแล้วจะเอามาให้ภายหลัง พอสอบวัดความสามารถผ่าน ผอ.สงสารที่ต้องหยุดเรียนไป ก็พิจารณาให้เข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่จนถึงตอนนี้ ผู้ปกครองก็ยังไม่ได้เอาใบรับรองแพทย์มาส่งฝ่ายทะเบียนสักทีอ้างว่ายังไม่ไปเอาจากบ้านเดิมบ้าง เอามาแล้วหายบาง ลืมบ้าง จนเมื่อเดือนมิถุนาที่ผ่านมาฝ่ายทะเบียนกลัวจะมีปัญหาตามมา จึงให้ครู ไปเยี่ยมบ้าน เพราะครูเป็นครูประจำชั้น วันนั้นเด็กขาดเรียนไปแบบไม่มีสาเหตุพอดี ครูจึงตามไปที่บ้าน........ 
จุดไคลแมกซ์มันอยู่ตรงนี้ค่ะ

คุณครูไปที่บ้านตามที่อยู่และแผนที่ในใบสมัครโดยไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้า บ้านเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้น ประตูรั้วปิดแต่ประตูบ้านเปิด จึงแน่ใจว่ามีคนอยู่ พอกดออด หน้าบ้านน.ส.แพม เดินมาออกมาเห็นคุณครูแสดงท่าทีตกใจ ก่อนจะทักทายและเชิญเข้าบ้าน ตอนนั้นเค้าอยู่คนเดียว ในบ้านมีโซฟายาวพึงกำแพงอยู่ที่เดียว ครูก็เลยต้องนั้นตรงนั้นรวมกับกองกระดาษ เกลื่อนไปหมด แล้วน.ส.แพมก็บอกครูว่าจะไปตามผู้ปกครองที่ร้านทำผมให้ ครูก็มองไปรอบๆบริเวณบ้าน สดุดตากับเอกสารที่วางสุมกันอยู่ เป็นใบสำคัญการสมรส และสำเนาอีกหลายฉบับ ระบุว่าถูกจดขึ้นเมื่อปี 55 ไล่ดูทีล่ะแผ่น ก็เจอ ใบสำคัญการหย่าที่ถูกจดเมื่อปีต้นเดือนมกราปี 56 นี่เอง เป็นชื่อและนามสกุลของน.ส.แพม ไม่ผิดแน่นอน พอครูทราบก็วางเก็บไว้ที่เดิม ไม่ได้ถามเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า เราควรที่จะให้โอกาสคน

ความรู้สึกของรัลตอนนั้น มันพูดไม่ออกจริงๆค่ะ แทบอยากจะก้มกราบเท้าคุณครูด้วยซ้ำที่มายกภูเขาออกจากอกรัล ทั้งที่จริงๆแล้วครูจะไม่มาพูดก็ได้ เพราะเค้าก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร ยิ่งตอนที่คุณทนายยืนยันว่า จบแล้วแน่นอนปัญหา ตัวรัลแทบลอยไปในอากาศ
หลายคนอาจยังงง ว่า เห้ย อะไรยังไงนะ ไหนว่ามาอีกทีซิ ? 
คืออย่างนี้นะค่ะ ตอนแรกที่มีปัญหา เรารู้ว่าเด็กแพมเนี่ย อยู่ม.3 ก็เข้าใจว่ายังไงก็ต้องไม่เกิน 15 แน่นอนตามปกติทั่วไป
พอเด็กอายุน้อยสิ่งที่เราเสียเปรียบเค้าก็คือ เราผิด ในทางปฏิบัติ ซึ่งในทางกฏหมายก็ระบุด้วยว่า เราผิด เราได้ต้องการให้มีเรื่องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล และที่สัมมะคัญ ผู้หญิงเค้าบรรลุนิติภาวะไปแล้วด้วย เพราะเค้าจดทะเบียนสมรสตอนอายุ 16 ปี ตามกฏหมายจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อ ศาลอนุญาติเท่านั้น และเหตุผลที่ศาลอนุญาติคือ นางท้องค่ะ <<อันนี้สืบมาตอนหลัง ให้คุณทนายเช็คประวัติคดีความให้ค่ะ  ส่วนสาเหตุแห่งการหย่านั้นไม่ทราบนะค่ะ และผู้เยาว์ที่จดทะเบียนสมรสโดยได้รับคำยินยอมจากศาลถึงแม้จะหย่าก่อนอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ก็ยังถือว่าบรรลุนิติภาวะอยู่ กลับเป็นลูกชายรัลส่ะอีกที่ยังไม่บรรลุนิติ ภาวะ เดี๋ยวปั๊ ด ด ฟ้องคืนซ่ะเลย
สามีรัลก็ออกอุบายขอเลื่อนวันนัดคุย มาเป็นวันที่ หนึ่ง สิงหาแทน พวกนั้นเค้าก็มากันตรงเวลาเป๊ะ เราบอกว่าเราหาข้อสรุปได้แล้ว ทางโน่น เต้าก็ชักสีหน้าใส่ สามีรัลบอกว่าจะให้ทนายเป็นคนพูดข้อตกลง โดยที่เราทั้งหมดจะนั่งฟัง ถ้าเค้าไม่พอใจตรงไหนก็แย้งได้ ทนายความของบ้านรัลพูดถึงเรื่องที่ลูกสาวเค้าอายุสิบเจ็ด เคยท้อง เคยจดทะเบียนสมรส แล้วที่สำคัญบรรลุนิติภาวะแล้วด้วย นอกจากเราจะไม่ชดใช้ค่าเสียหายหรือรับผิดชอบอะไรแล้วยังมีสิทธิจะฟ้องกับได้อีกด้วย คุณบูรณ์โวยวายด่าขึ้นห่าขึ้นเชี้ย กูว่าแล้วว่าพวกมันต้องมาหัวหมอหาทางไม่รับผิดชอบ บลาๆๆๆๆๆๆ แต่ทางสามีรัลก็เชิญทั้งสามคนออกจากบ้านจนได้ โดยที่ก็จะไม่ยุ่งอะไรกับ เค้า ลูกเราก็ผิดจริงที่ไปมีอะไรกับลูกเค้า เขาก็ผิดที่พยายามปกปิดความจริงเรา ถือว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นมันก็มีประโยชน์  เหมือนกัน 
อย่างน้อยๆลูกรัลก็คงจะ ได้อะไรเยอะ ได้เจอปัญหาตัวเป็นๆ แบบสามมิติ ที่ให้สัมผัสกับความวิตก กังวล สับสน เครียด กลัว รู้สึกผิด อย่างใกล้ชิด แล้วกล้าที่จะเผชิญกับมัน รัลเชื่อว่าประสบการณ์จะสอนเค้าได้ดีเลยล่ะ
ส่วนตัวรัลเองก็เรียนรู้ว่า รัลเลี้ยงลูกไม่เป็นอย่างที่แม่รัลว่าแหระเพิ่งจะรู้ว่าถ้าบอกลูกได้แค่เพื่อนเตือนเพื่อน ก็มีแต่เพื่อนก็พอแล้วสิ จะมีแม่ทำไมเนี่ย !!? แหมม จิงๆแล้วรัลก็บอกได้มากกว่านั้นอยู่อ่ะนะ แค่หมายถึงมันเป็นสไลด์ในการเลี้ยงลูกรัล ถ้าจะให้มาเข้มตอนนี้ไม่รู้จะได้รึป่าวนะ เค้าก็โตแล้วด้วยสิ  แต่รัลก็ดีใจนะ ที่อย่างน้อยลูกของรัลกล้าที่จะรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง
บทเรียนที่คงจะจำไปจนตลอดชีวิต แล้วสำหรับคนที่ลุ้นให้จบแบบ แฮปปี้เอนดิ้ง ก็สมหวังนะค่ะ ส่วนใครที่คิดว่าจะเป็นโศกนาฏกรรม ก็ขอแบบว่าเกือบเหมือนกันแหระ     ความรู้สึกเหมือนโง่ไปยืนอยู่กลางถนน รถสิบล้อพุ่งเข้ามาอย่างเร็ว คิดว่ายังไงก็คงไม่รอด นาทีเฉียดตายก็มีเสียงจากสวรรคให้ก้มหลบใต้ท้องรถ และแล้วรถสิบล้อก็ผ่านไป จะโทษใครก็ไม่ได้ดันไปยืนในที่ๆเข้ามีไว้ให้รถวิ่ง ได้แต่จำไว้เป็นบทเรียนไม่ไห้มันเกิดซ้ำ ไม่ตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว

 จากกระทู้  //pantip.com/topic/30814364




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2556
4 comments
Last Update : 8 สิงหาคม 2556 22:30:29 น.
Counter : 4040 Pageviews.

 

ขอบคุณน้อยๆ (ไม่มาก) ที่รวบรวมมาให้อ่าน แต่จะขอบคุณมากกว่านี้ถ้ารู้จักเว้นระยะห่างระหว่างพารากราฟบ้าง --- ว่าแล้วก็กลับไปอ่านกระทู้เดิมดีกว่า ไม่ปวดตาด้วย !

 

โดย: นึกว่าจะเรียบเรียงได้ดี IP: 171.6.155.238 9 สิงหาคม 2556 21:48:08 น.  

 

ขอบคุณค่ะ ที่ทำบล็อกให้อ่านง่ายๆ

 

โดย: ติ๊ก IP: 1.4.215.18 11 สิงหาคม 2556 11:08:39 น.  

 

ผมว่ารวมมาอย่างงี้โอเคดีครับ

ผมไปตามอ่าน 200 กว่าความเห็นอย่างตั้งใจ
พออ่านจบมาเจอที่คุณแสดงความเห็นไว้ครับ

อ่านง่ายดีครับ แต่ถ้าใครจะลิ้มรสความลุ้นต่างๆต้องอ่านจากกระทู้หลัก

 

โดย: ขอบคุญๆๆๆๆ IP: 223.206.140.225 11 สิงหาคม 2556 22:20:49 น.  

 

ขออนุญาตส่งต่อให้เพื่อนอ่านนะคะ

 

โดย: หลิน IP: 1.4.223.61 24 กันยายน 2556 20:55:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

chatchee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add chatchee's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com