ย้อนวันวาน เที่ยวน่านเมื่อปีกลาย

หนาวนี้จะไปไหนดี ?  ก็ “น่าน”….น่ะสิ

ปุณิกา ไทยพิทักษ์กุล

หากหนาวนี้เพื่อนๆ ไม่รู้จะไปไหนดี วันนี้เรามีไอเดียดีๆ มาบอกต่อเผื่อว่าเพื่อนๆจะลองเก็บเสื้อใส่เป้ แล้วไปเที่ยวแบบประหยัดๆ อย่างเราบ้าง ครั้งนี้เลือกจังหวัด“น่าน” เป็นที่หมาย เพราะชอบบรรยากาศสงบๆ ชมธรรมชาติ ไม่วุ่นวาย ค่าครองชีพไม่สูงเหมาะกับทริปประหยัดๆ ที่ตั้งเป้าไว้ การันตีใช้เงินคนละไม่เกิน3,500 บาท ไปสองคนก็รวมแล้วไม่เกิน7,000 บาท เที่ยวน่านได้ 3 คืน 5 วัน เก๋ป่ะล่ะถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลย

วันแรก - ชั่วโมงแห่งการเดินทางยามค่ำ

เราเริ่มทริปเดินทางด้วยรถทัวร์ บขส. ด่วนพิเศษ ราคาที่นั่งละ 1,000 บาท ออกเดินทางตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ รอบ 2 ทุ่ม ไปถึงน่านก็ตอนเช้าตรู่ของอีกวัน หมอกงี้เต็มไปหมดบรรยากาศประดุจสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ลงจากรถทัวร์มา หนาวมากพูดทีควันออกจากปากเลยทีเดียว 

วันที่สอง- สักการะพระธาตุแช่แห้ง เที่ยวในเมืองยามค่ำ

หลังจากเก็บสัมภาระอาบน้ำ พักผ่อนที่โรงแรมเล็กๆ ชื่อ“วินเฮ้าส์”ซึ่งจองที่พัก ไว้แล้วอยู่แถวๆ ย่านบ้านสวนหอม ที่นั่นห้องพักมีอยู่2 ระดับ แบบหรูหน่อยก็คืนละ 600 บาท บอกเลยว่าคุ้มมาก เพราะห้องสวยเหมือนคืนละ 3,000 บาท แต่เราประหยัดงบ ขอแบบคืนละ 250 บาท ก็นอนได้ ห้องจะเป็นแบบห้องแถวเล็กๆ กั้นเป็นห้องๆ มีห้องน้ำในตัวไม่หรูแต่อยู่สบายแถมมีอาหารเช้าให้ด้วยเป็นกาแฟร้อน กับขนมปังปิ้ง เก็บของพักผ่อนพอหายเหนื่อยก็เตรียมออกไปตะลุยน่านกันดีกว่า เริ่มแรกเราเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างซ้อนท้ายพาไปร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ก่อนเพราะทริปนี้เราจะแว้นกัน ค่าเช่าวันละ 250 บาท มีน้ำมันให้เต็มถัง ถ้าหมดก็เติมเองเช่าทั้งหมด 3 วัน จะได้เที่ยวสบายๆ

จุดหมายแรกที่พลาดไม่ได้คือพระธาตุแช่แห้งพระธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดของล้านนาไม่มาที่นี่ก็เหมือนไม่ถึงน่าน นมัสการองค์พระธาตุถ่ายรูปเป็นทีระลึกแล้วก็ออกมาแว้นเยี่ยมชมบรรยากาศ บอกได้เลยว่าที่นี่คล้ายหลวงพระบางมาก บ้านเมืองดูสงบสองข้างทางดูร่มรื่น ใครชอบอารมณ์แบบขี่มอเตอร์ไซด์ชิลๆ ต้องที่นี่เลย 

เราแวะมากิน“เตี๋ยวไร้เทียมทาน” ก๋วยเตี๋ยวซุปกระดูก เจ้าแรก เจ้าเดียวของ

น่านที่รสชาติฟินสุโค่ยอร่อยสุดๆ อยู่ที่หัวมุมถนนข้าหลวง ตรงข้ามกับโรงเรียน

บ้านดอนศรีเสริมตำบลในเวียง ในอำเภอเมือง ที่นี่คนแน่นมาก แต่เจ้าของร้านทำ

อะไรรวดเร็วทันใจนั่งปุ๊ป สั่งปั๊บ ก๋วยเตี๋ยวพร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะทันที พอช่วงเย็นก็มาชิมขนมหวานอร่อยๆที่“ร้านขนมหวานป้านิ่ม”ที่นี่ดังเรื่อง บัวลอยไข่หวานชิมแล้วอร่อยจริงตามคำร่ำลือ นอกจากนี้ก็ยังมีขนมอื่นๆ อย่าง สาคูเปียก เต้าส่วน ลูกเดือย สลิ่ม ไอศกรีมกะทิ

กินเสร็จไปเดินเล่นยามค่ำที่ตลาดนัดกลางคืนข้างๆวัดภูมินทร์มีของขายเยอะแยะไปหมด แถมยังได้ดูบรรยากาศโดยรอบของวัดภูมินทร์ยามค่ำคืนอีกด้วยนอกจากนี้ก็ยังแวะไปที่ ถนนคนเดินยามค่ำคืนวันเสาร์และอาทิตย์ของกิน ของใช้ราคาย่อมเยา แถมยังได้แวะไหว้พระตามวัดที่อยู่ข้างๆด้วยก่อนจะกลับไปพักผ่อนคืนนี้ขอเติมท้องให้นอนหลับสบายด้วยข้าวต้มร้อนๆข้างทาง อร่อย ประหยัด ชามละ 30 บาทเอง

วันที่สาม-สักการะศาลหลักเมือง ไหว้พระวัดภูมินทร์ชมภาพจิตรกรรมปู่ม่าน ย่าม่าน

ตื่นมายามเช้าหลังจากรองท้องด้วยขนมปังปิ้งกับกาแฟร้อนๆ ของโรงแรมไปแล้ว เราก็ไปสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดน่านที่นี่ร่มรื่น สงบ คนไม่พลุกพล่าน เราสามารถสงบใจไหว้พระได้อย่างสบายๆ จากนั้นไปไหว้พระที่วัดภูมินทร์ ซึ่งมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง "กระซิบรักบันลือโลก" อันลือชื่อ มีเด็กนำชมบรรยายประกอบภาพของปู่ม่าน ย่าม่าน ไว้อย่างไพเราะดังนี้ :

“คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาวจักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาวก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม

จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้มก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไปก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวชายปี้นี้จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา...”

แปลว่า “ความรักของน้องนั้นพี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาวก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้มเจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น”

รอบๆ วัดจะมีชาวบ้านมาขายภาพสีน้ำมันดูแล้วสวยงามซึ่งภาพหลักๆ ที่ชาวบ้านวาดก็คือ ภาพปู่ม่าน ย่าม่านนี่เองออกมาจากวัดแวะพักกินข้าวซอยในบริเวณใกล้เคียง ตกบ่ายจิบกาแฟริมทางได้บรรยากาศไปอีกแบบ 

ตอนแรกว่าจะไปอ่างเก็บน้ำ หลงทางซะงั้นแถมมอเตอร์ไซด์เกิดขัดข้อง โชคดีได้พี่เจ้าของร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์แสนใจดี น่ารักสุดๆ ซ่อมให้ในราคาถูกมากๆ 20 บาท ซ่อมเสร็จเลยกลับเข้าเมืองมากินก๋วยเตี๋ยวแวะถ่ายรูปเล่น เย็นๆ ก็ออกมาหาของกินตรงตลาดนัดกลางคืน ก่อนกลับมาพักเพื่อไปเที่ยวบ่อเกลือพรุ่งนี้

วันที่สี่- บ่อเกลือ ไกล๊ ไกล

วันนี้ตื่นแต่เช้าแวะไปหาของกินในตลาดตั้งจิตนุสรณ์ ที่นี่มีของกินมากมายทั้งน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ ไก่ทอด หมูทอดข้าวเหนียว น้ำพริก ทอดมัน ผักต้ม ขนมไทย

โบราณอย่างขนมกล้วย ขนมฟักทอง ฯลฯ

อิ่มแล้วก็ได้เวลาแว้นไปบ่อเกลือกันแล้วระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม แวะถ่ายรูป ชมวิวเป็นระยะ บอกเลยว่าต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวอย่างผ้าคลุมศีรษะ ถุงมือ ถุงเท้าให้ครบพร้อมเพราะกว่าไปถึงที่หมายต้องเจอกับความหนาวอีกยาวไกล ประมาณ 107กิโลเมตรจากในเมือง ไกลป่ะล่ะถึงแล้ว ต้องลองชิมเกลือของที่นี่ รสชาติอร่อยแค่เอาผลไม้สดมาจิ้มกินก็ได้ความอร่อยละมุมลิ้น เค็มกำลังดี ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันมาได้ 

นอกจากนี้ก็มีขนม ของฝากน่ารักๆ ให้คนชอบช้อปปิ้งซื้อติดกลับมาเป็นที่ระลึกได้นั่งเล่นพักกินข้าวกลางวันที่นี่ให้หายเหนื่อยเตรียมแว้นไปชมธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคากันต่อ เพราะเป็นทางกลับที่ต้องผ่าน จากบ่อเกลือขี่มาอีกแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว มาที่นี่ต้องไปถ่ายรูปที่จุดชมวิว 1715 จะมองเห็นทิวทัศน์สุดสายตาสวยงามคุ้มค่าการเดินทางมาเยือน 

หากอยากนอนพักก็สามารถกางเต็นท์หรือจองบ้านพักที่อุทยานได้ แนะนำว่าควรสำรองล่วงหน้าก่อนมาจะดีกว่า แต่คราวนี้เราไม่มีโปรแกรมนอนค้าง แค่มาเดินเล่น เก็บภาพวันนี้แว้นกลับมาถึงตัวเมืองน่านก็เย็นย่ำเข้าไปแล้ว เราแวะไปคืนมอเตอร์ไซด์แล้วค่อยมาเดินเล่นกินข้าวในตลาด ก่อนเดินทางกลับที่พัก เตรียมกลับบ้านกันพรุ่งนี้

วันที่ห้า–กลับบ้านละนะ

เราตื่นเช้ามาแต่งเนื้อแต่งตัว เก็บสัมภาระจากนั้น นั่งมอเตอร์ไซด์ไปสถานีขนส่งพร้อมขึ้นรถบัสยามเช้า กลับ กทม.เก็บเกี่ยวความประทับใจ พร้อมกับบอกตัวเองว่า หนาวหน้าเราจะมาเจอกันอีกที่เมืองน่าน เพราะยังมีอีกหลายที่ที่ต้องแวะไปคราวหน้า ^^ แล้วเจอกันนะ “น่าน”

------------------------------------------------------------------------------------------------

คิดตังค์ค่าใช้จ่าย

ค่ารถ บขส. ด่วนพิเศษ ขาไป คนละ 1,000บาท รวม 2 คน 2,000 บาท

ค่าที่พัก 3 คืน (คืนละ 250 บาท) รวม 750 บาท

ค่ามอเตอร์ไซด์รับจ้าง จากขนส่งน่านไปที่พักคนละ 40 บาท รวม 2 คน 80 บาท

ค่าเช่ามอเตอร์ไซด์ระหว่างอยู่ที่น่าน 3 วัน รวม750 บาท 

ค่าเติมน้ำมันรวมทั้งหมด 300 บาท

ค่าอาหาร ค่าขนม ค่ากาแฟ ค่าอื่นๆจิปาถะระหว่างการเดินทาง 800 บาท

ค่ามอเตอร์ไซด์รับจ้างระหว่างเดินทางจากตลาดมาที่พัก(คืนสุดท้ายที่ไม่ได้เช่ามอเตอร์ไซด์) คนละ 10 บาท รวม 2 คน 20 บาท

ค่ามอเตอร์ไซด์รับจ้างจากที่พักไปขนส่งน่าน คนละ 50 บาท รวม 2 คน 100 บาท

ค่ารถบขส. แบบธรรมดา ขากลับ คนละ 800บาท รวม 2 คน1,600 บาท

รวมแล้วใช้เงิน 2คน= 6,400 บาท แสดงว่า ที่เตรียมไปคนละ 3,500 บาท รวมสองคน 7,000 บาทก็ยังมีเงินเหลือติดกระเป๋ากลับมาอีกชิลๆ คนละ 300 บาท เจ๋งไหม^^

ดูรีวิวเต็มๆ พร้อมรูปที่ //pantip.com/topic/32770856  นะคะ ^___^  

Create Date : 28 ตุลาคม 2557 Last Update : 28 ตุลาคม 2557 18:03:10 น. Counter : 2906 Pageviews.		1 comments
Share Tweet