วันที่สาม - สี่
เขียนรวบ 2 วันเลยค่ะ วันพฤหัส 10.30 โทรถามอาการอั่งเปา หมอบอกว่าเริ่มกินอาหารได้ สดใสขึ้นมาก แต่ยังร้องอยู่ เย็นก็ไปเยี่ยม อาหารเม็ดที่เทไว้ให้กินไปเกือบหมด วันนี้หมอให้ออกมาเดินเล่นได้ ป้อนอาหารให้กินใหญ่เลย ทำให้เรายิ้มออก หมอบอกว่าพรุ่งนี้เจาะเลือดน่าจะกลับบ้านได้ สาธุ พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านแล้วนะ เย้ๆๆๆวันศุกร์ 10.30 โทรคุยกับหมอๆ ว่าบ่ายๆ โทรมาถามผลเลือดอีกที พอบ่ายเราก็โทรไปคำถามแรกคืออั่งเปากลับบ้านได้มั้ยคะ คำตอบคือได้ค่ะ โหย ไม่เคยดีใจแบบนี้มาก่อนเลย รีบโทรหาพ่อแมว นัดเวลาให้มารับวันนั้นเป็นวันที่รถติดมากๆ ฝนตก มีอุบัติเหตุเกิดเป็นระยะๆ รถก็ยิ่งติดกันเป็นแพ ใจเราน่ะไปถึงร้านหมอนานแล้วถึงร้านหมอพนักงานบอกให้รอคุณหมอสักครู่ ไม่เป็นไรไปหาลูกก่อน นั่นแน่เห็นหน้าแม่ล่ะร้องเชียวเริ่มเก็บของ ยกเว้นกระบะทราย เอาไว้ให้เค้าทำธุระก่อน สักพักคุณหมอก็มา หมอบอกว่าเม็ดเลือดขาวขึ้นมา 12000 ค่าไตเหลือ 1.8 กลับบ้านได้เอายาไปกินต่ออีก 7 วัน นัดมาตรวจเลือดซ้ำวันที่ 6 กค.ค่ารักษา3700บาท พ่อกับแม่ขับรถไปกลับวันละ 200 กว่ากิโลไปหาลูกทั้งหมด 4 วัน แต่ผลที่ได้คือลูกหายเป็นปกติ วันที่เขียนนี้คือวันที่ 7 กค.เมื่อวานพาลูกไปตรวจเลือดแล้ว ผลเลือดปกติดีการที่ลูกป่วยคราวนี้ทำให้เราได้บทเรียนที่เกือบราคาแพงแสนแพง ดูอย่างผลเลือดใบเดียวกัน แต่การวินิจฉัยที่ต่างกันเกือบทำให้ลูกแย่แล้ว ถ้าเรายังรักษาที่เดิม ให้น้ำเกลือเข้าใต้ผิว และถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจพาลูกมากรุงเทพ ไม่ตรวจเลือดซ้ำ ป่านนี้เราคงเสียเค้าไปแล้ว ต้องขอบคุณ คุณหมอต้องแห่งกุลธดารักษ์สัตว์และผู้ช่วยทุกคนด้วยนะคะ ที่ดูแลรักษาลูกจนหายดี