Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
มุมมองของความรัก

การที่คุณได้เจอคนพิเศษสำหรับเรา มันจะทำให้คุณลืมไปเลยว่าเค้าเป็นใคร สเปคที่ตั้งไว้มันจะมลายหายไปหมดเลย แค่เพราะเค้าคือเค้าทุกอย่างจบทันที เพราะในวันนั้นคุณจะแค่ต้องการใครสักคนที่เรารัก รับในตัวตนของเราได้ ใครสักคนที่พร้อมจะจับมือกันไปจนแก่เฒ่า ตอนที่เจอคนก่อนนี่ก็แอบดีใจนะ เพราะคิดว่าเจอคนที่พอดีกับเรามาก ความคิดตรงกัน แต่พอใจไม่ตรงกัน ปึ้ป จบข่าวค่ะ

ถามว่าชอบหนังเรื่องนี้ตรงไหน

- เพราะมีฉากหนึ่งตอนเกือบจบแล้วที่เคน ภูภูมิตอบพี่จ๋าไปว่า ถ้าพี่ไม่รับรักผม ผมก็จะเริ่มต้นใหม่อีกรอบ โหย ฉากนี้เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตจริงมาก เลยนะคะ ทำให้เราง้อคนที่เรารักมากขึ้น เพราะเราคิดว่าถ้าเค้าสำคัญมากพอ เราก็จะยอมทำอะไรหลาย อย่างที่ปกติเราจะไม่ทำ เราเลยพยายามถามเค้าหลายครั้งมากว่าอยากเริ่มต้นใหม่กับเรามั้ย ถามหลายรอบจนเราคิดว่าต่อไปนี้เราควรจะพอได้แล้วหล่ะ เพราะมันไม่มีประโยชน์ ชีวิตจริงมันไม่ใช่บทหนังนะ มันต่างกับในหนังตรงที่ว่าในหนังพี่จ๋าเค้ามีใจให้พระเอกเด็กน้อย แต่ของเรามันไม่ใช่ค่ะ พอเราเข้าใจตรงนี้ปุ๊ป ทุกอย่างจบเลยนะ เราไม่รั้งนะคะ คนไม่มีใจ เอาอะไรมาสู้ก็ไม่อยู่กับเราหรอกค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นเราก็ถือว่าเราทำเต็มที่แล้วนะคะ อาจจะไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่เราก็ยกให้ไปหมดทั้งใจแล้ว แต่พอเอาคืน ก็ขอคืนมาหมดทั้งใจเช่นกัน เราคิดว่าโอกาสมันมากพอแล้ว ฉะนั้น ให้กลับไปไม่เอาแล้วนะ

วันนี้อยากบอกอะไรความรัก

- อยากบอกว่าเธอโหดจริง ตอนมีความสุขก็ทำพี่สุขจนสำลัก พอจะเจอว่าไม่รักก็เจ็บแทบขาดจิต เอาเป็นว่าอย่าร้ายกับพี่นักเลย พี่แค่อยากจะลองเปิดใจบ้าง พี่ไม่อยากกลัวคุณแล้ว พี่กลัวคุณมา 26ปีนี่ก็นานเว่อร์แล้วนะ กว่าจะกล้าขนาดกล้าใช้คำว่าแฟนนี่ก็เลยเบญจเพสมาและ ดันมาเจอผู้ชายแบบนี้อีก พี่นี่ก็ช่างโชคดีเสียจริง (กรุประชดเถอะ 555+)จะบ้าบอ เวิ่นเว้อใน fbก็ทำมากไม่ได้อีก บางทีก็แอบอึดอัดอยู่เหมือนกันนะ แต่ไม่เป็นไร ใช้ blogนี้ละกัน จะทำอะไรทำลูก ไม่มีใครเดือดร้อน ทำไปค่ะ แล้วเอาเหอะ เจ็บเองก็ต้องหายเอง (เอ๊ะ ประโยคนี้มันคุ้น นะ 555+)

ต่อไปนี้ค่ะ ทำไมคะ ถ้าพี่เจอคนที่ชอบนะคะ พี่จะจีบเค้าเลยค่ะ ไม่มานั่งรม นั่งรอ แอบชอบแล้วก็ตามด้วยการตัดใจไปเองแบบที่เคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว พี่กลัวความรักและการใช้ชีวิตมานานเกินไปแล้ว การอยู่ใน comfortzone มันปลอดภัยค่ะ แต่การเสี่ยงที่มากที่สุดก็คือการไม่ยอมเสี่ยงเลย (The Biggest Risk Is Not Taking One) ชีวิตคนเรามันไม่ได้ยาวนานอะไรเนอะ มัวแต่กลัวอยู่ก็ไม่ต้องรักใครกันพอดี เมื่อก่อนชอบคิดว่าตัวเองไม่สวย ไม่ดีพอ ใครจะมารัก การดูถูกแม้กระทั่งตัวของตัวเองทำให้เราไม่มั่นใจในตัวเอง ทำไมล่ะเราก็ไม่ได้แย่นี่หน่า หน้าไม่ได้สวยแต่ก็ไม่ได้แย่ป่ะ ฐานะปานกลาง การศึกษาก็ใช้ได้ ขยันทำงานบ้าน ทำอาหารก็พอได้ ก็ไม่ได้แย่อะไรสักหน่อย ถ้าต่อไปมีคนเข้ามาขอเดทอีก ก็ลองไป บ้างเถอะเจ้ อยู่นี่มาจะ 5ปีแล้ว เก็บตัวจัง อยู่แต่บ้านเนี่ย อย่างน้อยลองไปก็ได้เพื่อนใหม่น่า ก็จะได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม มุมมอง ทัศนคติกับชาวต่างชาติบ้าง เลิกปิดโอกาสของตัวเองสักที ในเมื่อมันไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย เจ้ก็แค่ระวังตัว ไปดื่มชากาแฟตอนกลางวัน เจ๊กลัวอะไรของเจ้คะ 555+ถ้าดูท่าไม่ดี เจ้ก็ชิ่งซะจะยากอะไร ขี้กลัวเกิ้น ต่อไปนี้ก็ขอความกล้าของพี่โอปอล์จงมาสถิตในตัวบ้างเนอะ ถ้าเป็นผู้หญิงเรียบร้อย (จนดูเหมือนเป็นทอม เอ๊ะ ยังไง 555+) แล้วมันไม่เข้าตา ก็เปลี่ยนมาเป็นผู้หญิงที่มั่นใจบ้างเนอะ

ตอนนี้พี่อาจจะยังมีแผลอยู่ แต่พี่ก็สดใสขึ้นจนยิ้มได้แล้ว คนเราอย่าเศร้านาน เก็บอะไรดี ไว้ อะไรไม่ดีก็เขวี้ยง ทิ้งไปไกล แม่มเลย จะเก็บไว้เพื่ออาราย ยังไงก็ผ่านบททดสอบของชีวิตมาบ้างแล้ว ถึงจะเป็น levelเด็ก ของคนอื่น แต่สำหรับเรามันก็ถือว่าโหดอยู่นะ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นได้ขนาดนี้ ขอบใจปัญหาทุกอย่างมาก นะ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อุปสรรคต่าง ที่เจอมันทำให้เราเข้มแข็งขึ้นนะ มันทำให้ความคิดและมุมมองต่อโลกนี้ของเราเปลี่ยนไป ตอนนี้เราลุกได้แล้ว หวังว่าคุณปัญหาคงไม่มาซ้ำเติมเราอีกนะ ไปแล้วช่วยไปเลยด้วยค่ะ ช่วงนี้เราเริ่มยิ้มออกแล้ว แล้วเราก็หวังว่าไม่ว่าต่อไปจะเจออะไรอีกในอนาคต เราก็ขอให้เรายิ้มสู้กับปัญหาได้นะ ขอให้มีแรงกายแรงใจฝ่าฟันมันไป นี่ถ้าเราไม่กล้าลองเดินออกมาจาก Zoneปลอดภัย เราก็คงไม่รู้เลยว่ากราฟขึ้นจากกราฟที่นิ่ง อยู่ตรงกลางเกือบตลอด แบบว่าตอนมันตกนี่ตกได้ sharpมาก ตกปึ้กลงมาได้โหดสัสจริง แล้วเหตุการณ์ครั้งนี้ก็สอนให้รู้ว่าความฝันอ่ะมันสวย แต่ความจริงนี่มัน realมว๊าก สุขจริง เจ็บจริง ไม่ใช้สลิงไม่ใช้สตั้นท์ ถ้าไม่ลองล้มแล้วลุกเองคงไม่ซึ้งขนาดนี้สินะ เราคงไม่รู้ว่าฟ้าหลังฝนมันสวยกว่าที่เราเคยนั่งดูฝนตกอยู่ในบ้านอุ่น เพราะตอนโดนฝนเองตอนแรกมันก็ฉ่ำเย็นเหลือหลาย ยกเว้นตอนฝนทำเราป่วยเกือบตาย พอหายนี่ฟ้าใสกิ้งเลยหล่ะ ขอบใจตัวเองมาก นะ ที่มีสติ อยู่กับความเป็นจริง รักตัวเองมาก นะ เนตร อีกอย่างก็แบบ รักพ่อแม่ น้อง แล้วก็เพื่อน จังเลยอ่ะ ขอบคุณจริง นะที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดทั้งยามสุขและทุกข์ ไม่รู้สิ ทุกคนอาจจะไม่ได้มาอ่านแต่เค้าจะตอบแทนผ่านการกระทำต่อจากนี้ไปแล้วกันนะ รอรับความรักของเค้ากันไว้นะ




Create Date : 09 กันยายน 2557
Last Update : 9 กันยายน 2557 6:24:18 น. 0 comments
Counter : 604 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เนตรภัคตรา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add เนตรภัคตรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.