|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตเด็กอนุบาล ในความเหมือนที่แตกต่างจากวันวาน
"กินนม กินนม กันเถอะ กินเยอะๆ ร่างกายแข็งแรง" วลีติดปากที่ผมเองก็ไม่รู้ ไอ้เจ้าสมองส่วนความทรงจำ มันดันบันทึกไว้ซะหนึบเหนียวแน่น แม้มันจะผ่านมาร่วมสามสิบกว่าปีแล้ว มันก็ยังจำได้ไม่ลืมนะครับท่านผู้อ่าน แล้วเจ้าวลีดังกล่าวเนี้ย ผมรับประกันด้วยใบหน้าอันหล่อเหี้ยมของผมว่า ถ้าไม่ใช่คนรุ่นผม ไม่รู้จักกันเสียเลยทีเดียวครับท่าน ก็เพราะรายการนี้ทำให้เด็กละอ่อนรุ่นผม ต้องนั่งติดหน้าจอทีวีขาวดำกันหน้าสะลอน ก็เพราะรายการของพี่สนนี้ครองใจวัยเบบี๋ไปซะหมดใจเลยครับ ซึ่งผมเองก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างว่ารูปแบบรายการเค้าไล่ลำดับเรียงการดำเนินรายการอย่างไร จำได้แต่ว่ามีรายการช่วงหนึ่งที่พี่สนคนสวย จะให้แขกเด็กๆ ในรายการเตรียมตัวกันทำกิจกรรมสำคัญ ....... นั่น........คือ คือ คือ (เอคโค่เล็กน้อย) กินนมกันนะจ้าเด็กๆ โอวว้าว เท่านั้นล่ะครับผมและน้องชายก็จะวิ่งแน่บไปที่ตู้เย็น เพื่อไปหาแก้วน้ำที่ไม่มีนมแน่มีน้ำเปล่าแทนมาดื่มพร้อมกับแขกร่วมรายการ มันช่างมีความสุขตามประสาเด็กๆ อย่างผมเสียมากมาย
หลังจากดูรายการพี่สนเสร็จ ก็ถึงเวลาเล่นสนุกแล้วครับ แล้วมันก็ต้องเลือกครับว่าวันนี้จะเล่นอะไรดี ระหว่างวิ่งไล่จับ กระต่ายขาเดียว ลิงชิงหลัก ตี่จับ หมากเก็บ ขี่ม้าส่งเมือง .............. โอว ว้าว นี่กาลละเล่นสมัยผมเป็นเด็กและคุณก็เป็นเด็กมันช่างสนุกสนานกันได้ขนาดนี้เลยทีเดียว พวกเด็กๆ ที่เข้ามาอ่านบล๊อกของพี่ (ฮา ของพี่นะ ไม่ยอมเป็นรุ่น ลุง รุ่น อา เป็นอันขาด) ไม่ต้องงงนะว่ามันคืออะไรกันน่ะครับคุณพี่หนวด เอาว่าเป็นของเล่นรุ่นพ่อรุ่นแม่ของพวกเราก็แล้วกัน
เล่นกันตั้งแต่สี่ห้าโมง ลากยาวยันทุ่มกว่า ก็รีบกลับบ้านอาบน้ำแปรงฟันก่อนนอน ก็เพราะรายการทีวีรอบดึกมันไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ นอกจากข่าว ข่าว และข่าว แต่เอ๊ะ.......เรื่องข่าวเนี่ยเด็กๆ สมัยนี้จะรู้มั้ยนะว่า แต่ก่อนข่าวของช่อง 3 กับช่อง 9 เป็นเนื้อหาแบบเดียวกันเด๊ะ แต่ออกอากาศไป 2 ช่อง อิอิ รุ่นผมจำกันได้แน่นอน
พอหมดข่าว ก็เอาแล้วครับ พวกผมต้องคลุมโปงนอนกันตาปริบๆ อ้าวทำไมต้องตาปริบๆ ไม่ตาหลับพริ้มล่ะครับ ก็โน่นครับท่านพ่อท่านแม่เค้าติดละครเรื่องปอบผีฟ้าบ้าง ผีกระสือ บ้างอะไรบ้าง แล้วไอ้บรรดาละครผีสมัยก่อนเนี่ย ผีมันก็คือผีนะครับท่าน ไม่มีหรอกครับที่จะมีบุคลิกหวานย้อย มีรอยยิ้มริมฝีปากเหมือนมุขผีปัจจุบัน ทำให้นอกจากจะน่ากลัวหัวหดแล้ว ยังหฤโหดมากมายจนนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว แต่ก็นะไอ้เด็กน้อยก็ตาปริบๆ แอบมองปิดตามาครึ่งหนึ่งอยู่ในผ้าห่ม ทั้งกลัว ทั้งเสียว แต่ก็อยากดูละครผี ฮา สนุกปนกลัวไปกันเสียเลยทีเดียวครับ
นั่นคือกิจกรรมหลังเลิกเรียนวันธรรมดาครับ ไม่มีอะไรสนุกเท่ากับได้ดูรายการพี่สนแล้ว แต่แอ่น แอ๊น .......... สวรรค์ของเด็กๆ มันคือวันเช้าวันเสาร์อาทิตย์ครับท่านผู้ชมผู้ฟังที่เคารพ ก็เพราะ............มันจะมีมหกรรมการ์ตูนมากมายเรียงรายกันมาให้ดูได้ชมกันจุใจ
เริ่มจากไดมอสยอดขุนพล สารพัดหุ่นเหล็ก ปาร์แมน และสารพัดการ์ตูน ซึ่งผมเองก็ลืมไปแล้วว่ามันเรียงกันฉายเรื่องอะไรก่อนหลัง แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เล่นเอาผมกับน้องชาย จุ๊มปุ๊ก ติดหน้าจอกันยาวถึง 11 โมงเช้ากันเลยทีเดียว
พอการ์ตูนรอบเช้าหมดสต๊อก ก็เริ่มรวมแก๊งค์เด็กแถวบ้านกันเลยครับ แล้วถ้าวันไหนการ์ตูนเรื่องไหนฉายไป พวกเราก็จะไปของแบ่งร่างพวกเค้ามาเพื่อติ๊งต่างว่าเราเป็นการ์ตูนตัวนั้น.................
ถอดถุงมือ แปรงร่าง รวมพลังเป็นมดเอ็กซ์ ฮา หรือไม่ก็จะเป็นแปรงร่างเป็น คินนิกุแมน โอยสารพัดแปรงร่างตามจินตนาการของแก๊งค์เด็ก พอเบื่อๆ กัน ก็เริ่มหาของมาเล่นครับ แล้วก็เริ่มเกมรอบกลางวันกัน ตั้งแต่ เอาแง่งของหญ้ามาฟาดกันเป็นการละเล่น "ตีไก่" ดึงดอกหญ้ามารีดน้ำในลำต้นใส่หัวนมพวกแก๊งค์ผู้ชายกัน มันจะเย็น เย้น เย็น ถึงทรวงกันเลยทีเดียว หรือไม่ก็ไปหาเม็ดต้อยติ่ง มาโยนลงน้ำ ให้มันระเบิดเป๊าะแป๊ะ ซึ่งเราก็พาลเรียกต้นไม้นี้ว่า "ต้นเป๊าะแป๊ะ"
กาลละเล่นที่ไม่มีวันเหน็ดเหนื่อยของพวกผม จะลากยาวไปถึงห้าโมงเย็นครับ ก่อนรีบกลับเข้าบ้าน เพื่อทำงานบ้านตั้งแต่ถูบ้าน จัดผ้าปูที่นอน หุงข้าว กวาดบ้าน ล้างห้องน้ำ ทำสารพัดชนิดที่แม่ผมไม่ต้องทำอะไรกันเลยทีเดียว
หมดเวลาแฮปปี้อาวน์กันไป สนุกกันไปตามประสาวัยเด็กเมื่อวันวาน แล้วผมก็ทำตามธรรมเนียมเดิมของผมครับท่าน คือพาพวกท่านพายเรือออกอ่าว คราวนี้เล่นพาออกไปอ่าวไทยเกือบเข้าไปมหาสมุทรอินเดียกันแล้ว เพราะลากยาว ท้าวความเรื่อง ให้มาเชื่อมกันเหตุการณ์ปัจจุบันกันมากมายจนหลายท่านอดอมยิ้มคิดถึงวันเก่าๆ กันไป
ก็เพราะอะไร ผมถึงลากชีวิตวัยเด็กมาเล่าสู่กันฟังในบล๊อกวันนี้ ก็เพราะเมื่อวานผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่งครับ เค้าเล่าไปยิ้มไปถึงความทุ่มเทให้ลูกชายเค้า เค้าเล่าว่าตอนนี้เค้าทุ่มทั้งชีวิตและเงินทอง เพื่อให้ลูกเค้าเข้าโรงเรียนสาธิตให้ได้ เพราะถ้าเข้าได้ก็จะสามารถใช้ชีวิตวัยเรียนไปจนถึงชั้นมหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียวครับ
โดยทุกวันเสาร์อาทิตย์ เค้าต้องพาลูกชายไปเรียนภาษาอังกฤษกับคุณครูแอนดรูว์ ติวพิเศษอีกหลายวิชา สนนราคาค่าเรียนพิเศษเพิ่มร่วมๆ 20,000 บาท ขาดๆ เกินๆ อีกหลักพัน ก็ทุ่มเทไปเสียเงินเท่าไหร่ก็ชั่ง เพราะเท่ากับลงทุนชีวิตให้ลูกได้สบายในอนาคต แล้วเห็นว่าเดือนหน้าจะต้องหยุดงานเพราะต้องเตรียมสภาพร่างกาย ระบบขับถ่าย การนอนหลับของลูกชายก่อนวันนึง เพราะวันรุ่งขึ้นมีสอบ
ไอ้ผมก็อืม คิดนะว่า เออเป็นแม่ที่ดีจริงๆ มีการเตรียมตัวลูกให้พร้อมหลายด้าน วันสอบจะได้ไม่เกิดปัญหาด้านสุขภาพ เตรียมพร้อมขนาดนี้ท่าจะเข้าระดับมัธยมต้นกันได้สบายแน่ ผมก็เลยถามตามประสาคนรู้จักว่า จะเข้าเรียนมัธยมในแผนการเรียนอะไรเป็นหลัก ซึ่งจากคำถามนี้เอง เพื่อนผมหันกลับมาบอกผมอย่างช้าๆ ว่า
"หนูเตรียมลูกชาย สอบแข่งขันเข้า โรงเรียนสาธิต ระดับ "อนุบาล" ค่ะพี่ โอว้ อ้าว ว๊าก แว๊ก ป๊าด(กรูจะตกใจไปไหนต่อไหนเนี่ย ฮา) อนุบาล อา นู้ บาล ลาล ลาล เนี่ยนะ ต้องสอบแข่งขันกันเข้าไปหาเก้าอี้นั่งเรียนกันแล้วรึ คำตอบคือ "ใช่ ค่ะพี่ แถมข้อสอบก็ไม่ใช่ขี้ๆ นะคะพี่ ยากชนิด เรายังต้องทำความเข้าใจในคำถามกันเลยค่ะพี่"
โอวไม่นะไม่ นี่ขนาดรุ่นผมต้องสอบแข่งขันเข้าระดับมัธยมต้น ก็ว่าหินแล้ว รุ่นน้องผมมันก็รับวัตนธรรมการแข่งขันกันไปสอบเข้าระดับประถม แต่นี่มาถึงรุ่นหลาน รุ่นลูก มันต้องลากสมอง อัด ยัด ซัดเอาความรู้จากที่เรียนพิเศษสารพัด เพื่อเอาเข้ามาใช้สอบแข่งขัน แย่งชิงกันเข้าเรียนกันแล้วรึ
แล้วชีวิตวันเด็กอย่างพวกผม เค้าจะได้มีโอกาสสัมผัสความสนุก ความฝัน จินตนาการแบบนั้นกันได้อย่างไร ไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ชีวิตในโลกของจินตนาการ วิ่งเล่น เที่ยว ดูหนังละเม็งละครกันไปเลยทีเดียว พาลทำให้ผมคิดได้ว่า สงสัยตอนที่ผมแก่ตัวลงมากกว่านี้ มันคงมีถึงขนาดฝังชิพกันที่ตัวทารกหรือป่าวนะ อาทิ ชิพคณิตคิดเร้ว เร็ว ชิพอังกฤษ ฟุดฟิต ฟอ ไฟ สมองก็รับความรู้กันไปตั้งแต่ยังไม่คลอดกันเลยทีเดียว (อืมม........ ไอเดียผมก็ดีนะเนี่ย ไปหาบริษัทมาร่วมทุนผลิตชิพขายดีก่า ฮา)
โอว.......ชีวิตทำไมมันมีแต่วิชาการ ความรู้เสริม ข้อมูลอัดแน่น ยัดกันตั้งแต่วัยอนุบาล แถมท้ายด้วยการปลูกฝังการชิงดีชิงเด่น ชิงเกมแข่งขันกันเข้าไป แล้วเด็กในอนาคต มันจะถูกหลอมให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขันกันบ้างหรือไม่ นั่นคือคำถามที่มีคำตอบแฝงไว้ในตัวมันอยู่แล้วครับท่าน
จบกันไปกับเรื่องหนักปาดหน้าเรื่องสนุกในตอนต้น คงต้องทิ้งท้ายไว้ให้หลายๆ บ้าน ได้มองเห็นวัยเด็กของลูกๆ หลานๆ กันบ้าง เผื่อจะมองเห็นช่องว่างของเวลาที่พอหยิบเอาตัวการ์ตูน กาลละเล่นผ่อนคลาย จับใส่ในช่องว่างในสมองของเด็ก ที่ไม่ได้อัดแน่นด้วยวิชาการเสียอย่างเดียว
ปอลิง จำกันได้มั้ย จำได้หรือป่าว ความรู้สึกของการเสียวท้องตอนเล่นรถไฟเหาะที่ แดนเนรมิต เป็นอย่างไรกันบ้างครับ
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2554 11:55:24 น. |
|
7 comments
|
Counter : 697 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แม่น้องแก้ม (noobim_j ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:51:03 น. |
|
|
|
โดย: ปอง IP: 125.27.113.160 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:22:40 น. |
|
|
|
โดย: addsiripun วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:11:55 น. |
|
|
|
โดย: addsiripun วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:15:23 น. |
|
|
|
โดย: ปอง IP: 125.27.112.36 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:26:22 น. |
|
|
|
โดย: Banana IP: 118.172.109.213 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:17:09 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เคยหรือป่าวที่เสาร์อาทิตย์จะเป็นวันที่เราคอยเป็นพิเศษ
ได้ดูการ์ตูนช่อง 9 ได้วิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ แถวบ้าน
หรือแม้แต่จะได้ไปเที่ยวกับพ่อแม่ถ้าพวกท่านว่าง
แต่เดี๋ยวนี้ เด็กแถวบ้านต้องไปเรียนพิเศษถึงเย็นก็มี
เฮ้อออ ... จะแข่งกันไปถึงไหน