Bloggang.com : ล่องแม่ปิง : นัดที่ 9 เวเนซูเอล่า 0 บราซิล 4

นัดที่ 9 เวเนซูเอล่า 0 บราซิล 4

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2551
สนาม : Pueblo Nuevo, San Cristóbal
คนดู : 60000 คน
กรรมการ : Victor Hugo Rivera (Peru)
ผุ้ทำประตู
เวเนซูเอล่า :
บราซิล :
Kaká 6'
Robinho 10' 67'
Adriano 19'
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เวเนซูเอล่า : เรนนี่ เวก้า - เกอร์ซอน ชาคอน, เปโดร โบอาด้า, โฮเซ่ มานูเอล เรย์, ฮอร์เก้ โรฮาส - มิเกล เมอา วิตาลี่, อเลฮานโดร กูเอร์ร่า, เลโอเนล วิเอลม่า (กัปตันทีม), โรนัลด์ วาร์กัส - ฮวน อรานโก้ (กัปตันทีม), จานคาร์โล่ มัลโดนาโด้

สำรอง: ราฟาเอล ดูดาเมล (ผู้รักษาประตู) - แฟร็งคลิน ลูเซน่า, โรเบอร์โต้ โรซาเลส, เซซ่าร์ กอนซาเลซ, หลุยส์ เซอิยาส, อเลฮานโดร โมเรโน่, ฮวน ฟูเอนมายอร์

บราซิล : ชูลิโอ เซซาร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ (กัปตันทีม), ฮวน, เคลแบร์ - จิลแบร์โต้ ซิลวา, โชซูเอ้ เอลาโน่ บลูแมร์, กาก้า - โรบินโญ่, อาเดรียโน่

สำรอง: โดนี่ (ผู้รักษาประตู) - ดาเนี่ยล อัลเวส, ธิอาโก้ ซิลวา, อันแดร์สัน, อเล็กซ์ คอสต้า, อเลสซานโดร มานชินี่, โช

"ลา วิโนตินโต้" ทีมชาติเวเนซุเอล่า รั้งอันดับ 8 ของตารางโซนอเมริกาใต้ เก็บได้เพียงแค่คะแนนเดียว จาก 4 นัดหลังสุดในรอบคัดเลือก เวิลด์ คัพ 2010 โดยเกมนี้เจ้าบ้านส่ง ฮวน อรานโก้ กองหน้ากัปตันทีมวัย 28 ปี ลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ จานคาร์โล่ มัลโดนาโด้ ดาวยิงสูงสุดของทีมที่ซัดไปแล้ว 15 ประตูในนามทีมชาติ

ทางด้าน "เซเลเซา" บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย ไม่มี "ไอ้ยักษ์" ชูลิโอ บาปติสต้า กองหน้าร่างบึกจากโรม่า กับ อเล็กซ์ กองหลังเชลซี ที่มีอาการบาดเจ็บเช่นเดียวกับ หลุยส์ ฟาเบียโน่ กองหน้าตัวกลั่นจากเซบีย่า รวมถึง โรนัลดินโญ่ สตาร์จากเอซี. มิลาน ที่ไม่สมบูรณ์พอ แต่ได้ กาก้า เพลย์เมกเกอร์จากสโมสร เอซี มิลาน กลับคืนสู่ทีมชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน โดยแดนหน้า โรบินโญ่ กับ อาเดรียโน่ เล่นคู่กัน

ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 4 นาที เวเนซุเอล่า เปิดฉากลุยทันที โรนัลด์ วาร์กัส ซัดเต็มๆ แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ ชูลิโอ เซซ่าร์ นายทวารของบราซิล

อย่างไรก็ตาม บราซิล มาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 6 จากจังหวะที่ กาก้า เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งกระชากขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะตะบันทันทีลูกพุ่งเข้าเสียบสามเหลี่ยมบนอย่างงดงามช่วยให้ ทีมเยือนนำก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 23 ในการเล่นให้กับทีมชาติบราซิล 60 นัดของ กาก้า ด้วย

กระเถิบมาถึงนาทีที่ 10 โรบินโญ่ ลากตัดจากราบซ้ายเข้ามาด้านใน ก่อนจะตัดสินใจยิงไกลระยะประมาณ 30 หลา ด้วยเท้าขวาบอลพุ่งปานจรวดเสียบสามเหลี่ยมงามหยด ช่วยให้ บราซิล นำห่าง 2-0

แซมบ้า ยังบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 19 กาก้า พาบอลทะลุขึ้นมาจากแดนกลางก่อนตักให้กับ เอลาโน่ ทางด้านซ้ายดึงบอลลงก่อนไหลเข้ากลางให้กับ อาเดรียโน่ สไลด์บอลเข้าไปง่ายๆให้ บราซิล ทิ้งไปเป็น 3-0 แล้ว

ล่วงมาถึงนาทีที่ 22 ฮวน อรานโก้ กัปตันทีมเวเนซุเอล่า ปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายบอลโค้งวาบทำท่าจะเสียบมุม เล่นเอา ชูลิโอ เซซาร์ นายทวารของบราซิล ต้องปัดทิ้งไป จากลูกเตะมุม อเลฮานโดร กูเอร์ร่า ยิงออกเสาซ้ายมือของ เซซ่าร์ นายทวารทีมเยือนไป

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 37 เจ้าบ้านดีขึ้นมาเล็กน้อย อเลฮานโดร กูเอร์ร่า ยิงด้วยขวาแต่ว่า ชูลิโอ เซซ่าร์ ผู้รักษาประตูของแซมบ้า เซฟไว้ได้ไม่ยากนัก

สองนาทีต่อมา บราซิล น่าจะได้เพิ่ม เมื่อ อาเดรียโน่ สไลด์บอลไปให้กับ กาก้า หลุดเข้าไปยิงโค้งจากกรอบเขตโทษเล่นเอา เรนนี่ เวก้า นายทวารเวเนซุเอล่า ต้องโดดปัดออกไป จากลูกเตะมุมบอลตกมาถึง เอลาโน่ ยิงโค้งข้ามคานไป

นาทีสุดท้ายครึ่งแรก อาเดรียโน่ กองหน้าตัวเก่งของบราซิล มาโดนใบเหลือง ทำให้เกมนัดต่อไปที่จะไปเยือน โคลอมเบีย ในวันพุธนี้ เขาจะลงเล่นไม่ได้ ครบ 45 นาที บราซิล บุกมานำก่อน 3-0

มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ 7 นาที เวเนซุเอล่า น่าจะตีไข่แตกได้ เมื่อ อเลฮานโดร กูเอร์ร่า หลุดเข้าไปยิงติด ชูลิโอ เซซ่าร์ นายด่านบราซิล

จากนั้น นาทีที่ 55 บราซิล น่าจะได้ประตูที่ 4 เมื่อ อาเดรียโน่ จ่ายด้วยซ้ายไปเสาสองให้กับ โรบินโญ่ ที่สอดขึ้นมายิงเฉียดเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

สองนาทีต่อมา กาก้า จอมทัพทีมเยือนหลุดเดี่ยวเข้าไป แต่ดันยิงติดการเซฟของ เรนนี่ เวก้า อย่างน่าเสียดาย

เวเนฯ น่าจะได้เหมือนกันในนาทีที่ 60 เมื่อ จานคาร์โล่ มัลโดนาโด้ กองหน้าตัวเก่งหลุดเข้าไปยิงติดการป้องกันของ เซซ่าร์ นายทวารแซมบ้า อีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม บราซิล มาได้ประตูที่ 4 จนได้จากจังหวะที่ เคลแบร์ วางบอลด้วยซ้ายไปหน้าประตูให้กับ โรบินโญ่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษก่อนจับบอลลงแล้วเลือกยิงเข้าไปอย่างสบายๆให้ แซมบ้า นำกระจาย 4-0 ในนาทีที่ 67

ทีมเยือนเปลี่ยนเอา กาก้า ออกมาพักแล้วส่ง อเล็กซ์ คอสต้า ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 71 ส่วน เวเนฯ ให้ แฟร็งคลิน ลูเซน่า เล่นแทน มิเกล เมอา วิตาลี่

ท้ายเกมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม 90 นาที บราซิล บุกมาถล่ม เวเนซุเอล่า ไปได้ขาดลอย 4-0 เก็บสามแต้มสำคัญมี 16 คะแนน จาก 9 นัด ขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงอีกครั้ง ตามหลัง ปารากวัย จ่าฝูงอยู่ 4 คะแนน