สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ณ OSAKA
พอดีเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นค่ะ กำลังเห่อกับภาพสวยๆ และประทับใจกับประเทศนี้มาก
ตามไปชมแบบเต็มๆ ได้ที่กระทู้นี้นะคะ


ส่วนใน Blog วันนี้จะลงเฉพาะเรื่องราวในโอซาก้าก่อน รีวิวทีละส่วน

อย่างที่บอกในกระทู้ข้างบนล่ะค่ะว่าไม่เคยคิดอยากไปญี่ปุ่นมาก่อน เพราะคิดว่าแพง และสื่อสารกับเขาไม่ได้ ยังคิดว่าไปญี่ปุ่น ไปยุโรปดีกว่า แต่สุดท้ายเมื่อมีตั๋วโปรโมชั่นออกมายั่วยวนของแอร์มาเก๊า ในราคา 11,000 บาท เราก็เลยขัดศรัทธาเขาไม่ได้ ลองไปเที่ยวประเทศที่ฮอตฮิตอันดับ 1 ของคนไทยในขณะนี้ดูหน่อย

ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาค่ะเป็นทริปไปดูใบไม้แดงโดยเฉพาะ

ครั้งแรกในการไปประเทศญี่ปุ่นของเรา ยอมรับว่าหาข้อมูลเยอะมากกกก(ปกติเป็นคนขี้เกียจมาก ไปเที่ยวที่อื่นไม่เคยทำการบ้านหนักขนาดนี้เลยค่ะ)

คำถามแรกที่เกิดขึ้นหลังจากจองตั๋ว “ไปเที่ยวไหนดี”

เนื่องจากเรามีเวลาประมาณ 7 วัน (22-29 พ.ย.) ไปญี่ปุ่นครั้งแรก จริงๆก็อยากเห็นมันหมดทั้งประเทศล่ะค่ะ ทั้งเกียวโต โตเกียว ฟูจิ แต่สุดท้ายด้วยความงกสรุปเลยเที่ยวเฉพาะคันไซอย่างเดียว เพราะตัวรถไฟแบบข้ามเขตแพงมาก ค่อยๆเก็บทีละโซนดีกว่า ก็เลยลงตัวที่โอซาก้า + เกียวโต

วันนี้เรามาลุยที่โอซาก้ากันก่อนนะคะ

การวางแผนเที่ยวในโอซาก้าเป็นอะไรที่วางแผนง่ายมากๆ เพราะเราซื้อ Osaka Unlimitedpass แบบ 2000 เยน/ 1 วัน แล้วก็หาเที่ยวเฉพาะที่เขาให้ใช้ตั๋วเข้าฟรีได้ข้อมูลตาม Link ข้างล่างเลยค่ะ

//www.osaka-info.jp/osp/en/

เวลาซื้อจะได้บัตรพร้อมคูปองเข้าสถานที่ฟรีเป็นภาษาญี่ปุ่นมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะเวลาไปที่ไหนก็ถามเขาเอาว่าคูปองเบอร์อะไรแล้วก็ฉีกให้เขาไป ก็จะได้เข้าฟรีค่ะนอกจากนี้เรายังสามารถใช้บัตรเดินทางฟรีไปไหนก็ได้ในโอซาก้าทั้งวันแค่นี้ก้รู้สึกว่าคุ้มจนไม่รู้จะคุ้มยังไงแล้วค่ะ

ภาพจากกูเกิล


ใน 1วันของเราได้ไปตามนี้ค่ะ

1.   OsakaCastle Museum (เบอร์ 10) ขึ้นปราสาทไปดูประวัติศาสตร์ของเค้า แถมได้มุมสวยๆ ยอดปราสาทถ่ายรูปมาเห็นวิวทั้งเมือง ส่วนภายในปราสาทชั้น 3-4 ห้ามถ่ายรูปค่ะ



2. OsakaCastle Nishinomaru Garden (เบอร์ 11) อันนี้เป็นจุดชมวิวปราสาทที่สวยมากค่ะ ตอนไปดอกไม้แดงงามมาก



3. NaturalOpen-air Hot Spring Spa Suminoe (เบอร์ 24) นั่งรถออกไปไกลนิดนึง แต่ชอบมากๆถ้าไม่มีบัตรโอซาก้า พาส ต้องเสียค่าเข้าราว 700 เยน ไปแล้วชอบมาก แต่สระที่มีไผ่ล้อมรอบตามที่เห็นในรูปนั้นของจริงเล็กนิดเดียวนะคะ นั่งขอบๆ 5 คนก็เต็มแล้ว พกผ้าเช็ดตัวไปเองประหยัดไปอีก100 เยน


ไปถึงเช็คอินเคาน์เตอร์นี้เลยค่ะ ออนเซนอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์นี้


จากนั้นมาเดินเล่นย่าน Doutonburi


4. TomboriRiver Cruise (เบอร์ 7) อันนี้เดินเล่นแล้วบังเอิญเจอ ท่าเรืออยู่ตรงหน้าร้านดองกี้พอดีนั่งเล่นเพลินๆ ชมวิวแม่น้ำยามค่ำคืน แต่ถ้าให้เสียตังค์ไม่คุ้มอย่างแรง




5.    สุดท้ายก่อนเข้านอน เราเลือกไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ค่ะ HepFive ferris Wheel (เบอร์ 2)อันนี้ปิดท้ายดูวิวตอนกลางคืนเพราะเป็นรายการที่เปิดดึกที่สุด คือเปิดตั้งแต่ 11โมงเช้า – 5 ทุ่ม แต่เขาอนุญาตให้คนสุดท้ายขึ้นได้ตอน 4 ทุ่ม 45


วิวจากบนชิงช้าสวรรค์


พักที่ไหน

การเลือกที่พักเป็นอีกเรื่องนึงที่น่าปวดหัวมากเราไป 7 วัน ย้ายไป 4 รร. ค่ะ ยอมรับว่าเสียเวลา แต่ก็ได้ประสบการณ์หลากหลายดี

ที่โอซาก้าเรานอนที่ Hearton hotelkita umeda 5 MINUTES WALKFROM NAKATSU STATION EXIT 4 เนื่องจาก Umeda เป็นย่านคนทำงานคงคล้ายๆ สีลมบ้านเรา คนมาพักจะค่อนข้างเป็นเป็นนักธุรกิจมากกว่า ค่อนข้างสงบเงียบ


อาหารแถวที่พักที่มีโอกาสแวะไปทาน พอดีไปถึงดึก แล้วร้านนี้เป็นร้านเดียวที่ยอมให้เราเข้าไปทาน ไม่ผิดหวังเลยค่ะ อร่อยราคาถูก จริงๆ เป็นร้านที่คนทำงานแวะมาทานเบียร์กันนะคะ

อีกร้านนึงเป็นร้าน Takoyaki ไม่ไกลจากร้านแรกเท่าไหร่ อร่อย ราคาไม่แพงค่ะ เห็นคนเข้าคิวทานเยอะอยู่ แต่ตอนเราไปเริ่มดึก คิวไม่มีแล้วค่ะ


อีกที่นึงเป็นร้านซูชิ อันนี้ตั้งอยู่ในตึก Yodobashi Umeda อันนี้จัดเป็นมื้อกลางวันค่ะ


จากนั้นเราก็ไไปเที่ยวเกียวโตค่ะ และกลับมาพักที่โอซาก้าอีก 2 คืน เราเลือกพักที่ Hotel Hillarys แถว Namba อันนี้อยู่ห่างจากสถานีนัมบะออกมาประมาณ 0.4 กม. จริงๆ ถือว่าไม่ไกลมาก แต่วันจะกลับนี่ของเยอะมาก แล้วต้องลากกระเป๋าไปสถานีรถไฟ มันทรมานน่าดูชมค่ะ โดยรวมห้องเราว่าโอเคนะคะ เราเลือกแบบ Standard ฉะนั้นห้องจะกว้างหน่อย ที่ห้องไม่มี Wifi ให้ต้องมาใช้ส่วนกลาง คนจะเยอะวุ่นวายนิดนึง แต่ข้อดีคือมีน้ำกดให้ดื่มฟรีตลอดทั้งวัน


เราเพิ่มตังค์อีกร้อยกว่าบาท (500 เยน) ได้อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์มาด้วย แต่อาหารเช้ามีให้เลือกไม่เยอะนะคะ เท่าที่เห็นเลย แต่ใครจะไม่ทาน ขอใส่กล่องแทนก็ได้ จะได้เงินคืนมาอีก 100 เยน


อาหารแนะนำแถวโรงแรม เดินมาหัวมุมถนน แนะนำร้านนี้เลยค่ะ ถูกและอร่อย บอกชื่อร้านไม่ได้เพราะอ่านไม่ออก 555 ราคาข้าวหน้าหมูนี่ 250 เยน เราชอบกว่า Yashinoya อีก


ส่วนขนมที่โอซาก้า แนะนำ Cheese เค้กเลยค่ะ ที่โด่งดังมาก ก็หนีไม่พ้น Pablo


อันนี้ซื้อเป็นของฝากกลับเมืองไทย


โอซาก้าของเราจบแล้วค่ะ

แล้วมาติดตามกระทู้ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโตกันต่อเร็วๆ นี้นะคะ




Create Date : 07 ธันวาคม 2556
Last Update : 7 ธันวาคม 2556 17:13:18 น.
Counter : 5322 Pageviews.

2 comments
  
ว้าว เห็นแล้วอยากกลับอีกจัง ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า
โดย: Booboo IP: 58.8.180.215 วันที่: 22 มีนาคม 2557 เวลา:8:08:00 น.
  
ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่า
โดย: Bpearl วันที่: 5 เมษายน 2557 เวลา:20:47:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bpearl
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



ชื่อเปิ้ลค่า

ที่มาของ Bpearl
ก็มาจากเปิ้ลนี่แหละ ตอนไปต่างประเทศฝรั่งถามชื่ออะไร พอบอกชื่อ Ple..Apple มันขำใหญ่เลย ฝรั่งไม่ค่อยใช้ชื่อผลไม้เป็นชื่อเล่น ก็เลยขอเพี้ยนมาเป็น Pearl แทน ฝรั่งออกเสียงได้ง่ายด้วย ทีนี่ตอนสมัครสมาชิก Pantip มีคนใช้ Login ว่า Pearl แล้ว คิดอะไรไม่ออก ชอบเข้าห้อง Blue Planet เลยเติม B หน้าชื่อตัวเองไปซะเลย คล้องจองกับห้อง BP ไง

**เพิ่งสร้าง FB Ple Bpearl ตามไปเป็นเพื่อนกันได้นะคะ**
ธันวาคม 2556

1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31